ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ขายของมือสอง ร้านค้าออนไลน์ ecommerce หางาน สมัครงาน PantipMarket.com


ดูข่าวทั้งหมด
ค้นหาแบบละเอียด

หมายเลขประกาศ21920531

เข้าใจลูกให้มากขึ้น รับมืออย่างเหมาะสมเมื่อลูกมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา

เข้าใจลูกให้มากขึ้น: รับมืออย่างเหมาะสม
เมื่อลูกมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
เข้าใจ “ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา” ในเด็กแบบง่าย ๆ
พร้อมแนวทางดูแล ส่งเสริมพัฒนาการ และรับมือลูกอย่างเข้าใจจากผู้เชี่ยวชาญ

ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาคืออะไร?
ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา (Intellectual Disabilities)
หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า“พัฒนาการทางสติปัญญาช้ากว่าเกณฑ์”


หมายถึงภาวะที่เด็กมีข้อจำกัดทั้งด้าน

ความสามารถทางสติปัญญา (IQ ต่ำกว่า 70) และ

ทักษะชีวิตประจำวัน เช่น การสื่อสาร การช่วยเหลือตัวเอง หรือการเข้าสังคม

เด็กกลุ่มนี้อาจเรียนรู้ช้ากว่าเพื่อน ต้องการเวลาในการฝึกซ้ำ และการดูแลที่เข้าใจและสม่ำเสมอ

ระดับของภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
(อิงตาม DSM-5 และ WHO)
ภาวะนี้แบ่งออกเป็น 4 ระดับ เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจและจัดการดูแลได้ตรงจุด
ระดับ ลักษณะทั่วไป แนวทางดูแลเบื้องต้น
เล็กน้อย (Mild) IQ 50–69เด็กพูดคุยและเข้าสังคมได้ เรียนรู้ช้าแต่เรียนได้ ให้การฝึกทักษะชีวิต
ฝึกอ่าน–เขียนด้วยการสอนซ้ำ ๆปานกลาง (Moderate) IQ 35–49
ต้องได้รับการช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน สอนแบบใช้ของจริง
เกมฝึกทักษะ และการเรียนรู้เชิงกิจกรรม
รุนแรง (Severe) IQ 20–34
ต้องดูแลใกล้ชิด พูดน้อยหรือเข้าใจยาก ใช้การสื่อสารด้วยภาพ สี เสียง และท่าทาง
รุนแรงมาก (Profound) IQ ต่ำกว่า 20
ต้องดูแลตลอดชีวิต ให้การดูแลแบบเฉพาะบุคคล
และติดตามแพทย์อย่างต่อเนื่อง
สาเหตุของภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
แม้ไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัด แต่มีปัจจัยที่พบได้บ่อย ดังนี้

1. พันธุกรรมและความผิดปกติทางยีน
เช่น ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) หรือ Fragile X Syndrome

2. ระหว่างตั้งครรภ์
แม่ได้รับสารพิษ แอลกอฮอล์ หรือขาดสารอาหาร

การติดเชื้อรุนแรงระหว่างตั้งครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน

3. ระหว่างคลอด
ภาวะขาดออกซิเจน

คลอดก่อนกำหนดหรือมีภาวะแทรกซ้อน

4. หลังคลอด
การติดเชื้อที่สมอง หรืออุบัติเหตุรุนแรง

ภาวะขาดสารอาหารในช่วงวัยเด็ก

แนวทางการดูแลและส่งเสริมลูกอย่างเหมาะสม
✅ 1. กระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่เนิ่น ๆ
ฝึกทักษะพื้นฐาน เช่น กินข้าว แต่งตัว แปรงฟัน

ใช้ของจริง ของเล่น หรือเกมฝึกสมองที่เหมาะกับวัย

✅ 2. ปรับรูปแบบการเรียนรู้ให้เหมาะกับศักยภาพ
เลือกโรงเรียนที่มีครูเฉพาะทาง

วางแผน การเรียนเฉพาะบุคคล (IEP: Individualized Education Program)

✅ 3. ส่งเสริมการสื่อสารและเข้าสังคม
ใช้การสื่อสารทางเลือก เช่น ภาพ สัญลักษณ์ หรือภาษามือ

ให้เด็กได้เล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกันเพื่อเรียนรู้ทักษะสังคม

✅ 4. ดูแลสุขภาพกายและใจอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจสุขภาพประจำปี

จัดโภชนาการที่ดี และให้ได้ออกกำลังกาย

ส่งเสริมความสุขทางใจ ด้วยความรัก ความเข้าใจ และการชมเชย

สรุปสำหรับพ่อแม่
ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ไม่ใช่จุดจบของการพัฒนา
แต่เป็น “จุดเริ่มต้นของการดูแลอย่างเข้าใจ”

✅ เข้าใจระดับความรุนแรงและศักยภาพของลูก
✅ ปรับวิธีการสอนและการใช้ชีวิตให้เหมาะสม
✅ ให้ความรักและกำลังใจอย่างต่อเนื่อง
✅ ร่วมมือกับคุณครู นักบำบัด และทีมผู้เชี่ยวชาญ

เพราะ “ความเข้าใจ” คือของขวัญที่มีค่าที่สุดสำหรับเด็กพิเศษทุกคน ?

แหล่งอ้างอิง
American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders (DSM-5)

World Health Organization (WHO). (2018). International Classification of Diseases, 11th Revision (ICD-11)

American Association on Intellectual and Developmental Disabilities (AAIDD). (2021). Intellectual Disability: Definition, Classification, and Systems of Supports (12th ed.)

สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2562). คู่มือผู้ปกครองเด็กพิเศษ

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2561). คู่มือดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

ประกาศอื่นของผู้ขาย

รูปภาพรายละเอียดราคา