ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ขายของมือสอง ร้านค้าออนไลน์ ecommerce หางาน สมัครงาน PantipMarket.com


ดูข่าวทั้งหมด
ค้นหาแบบละเอียด

หมายเลขประกาศ21917973

เล่นอย่างไรให้ลูกโตสมวัย เข้าใจพัฒนาการการเล่นและบทบาทของผู้ปกครอง

การเล่นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการในทุกด้านของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย
จิตใจ อารมณ์ หรือสังคม การเข้าใจประเภทของการเล่น พัฒนาการการเล่นในแต่ละช่วงวัย
และการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนเด็กได้อย่างเต็มที่

ประเภทของการเล่นในเด็ก
การเล่นตามลำพัง (Solitary Play)

เด็กเล่นคนเดียว สำรวจสิ่งแวดล้อมและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

มักพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี

การเล่นคู่ขนาน (Parallel Play)

เด็กเล่นใกล้กันแต่ยังไม่โต้ตอบกัน

พบในช่วงอายุ 2-3 ปี ช่วยให้เด็กเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น

การเล่นแบบสัมพันธ์ (Associative Play)

เด็กเริ่มพูดคุยและแบ่งปันของเล่น แต่ยังไม่มีเป้าหมายร่วมกันชัดเจน

การเล่นร่วมมือ (Cooperative Play)

เด็กเล่นเป็นทีม มีการวางแผนหรือกติกา เช่น การเล่นเกมสร้างบ้านหรือเล่นกีฬา

พัฒนาการและกิจกรรมการเล่นที่เหมาะสมตามช่วงวัย
วัยทารก (0-1 ปี)

พัฒนาการ: เริ่มสำรวจโลกผ่านประสาทสัมผัส เช่น การมอง , การฟัง และการสัมผัส

กิจกรรมที่เหมาะสม: เขย่าของเล่นที่มีเสียง , เล่นจ๊ะเอ๋ , ของเล่นที่มีพื้นผิวหลากหลาย

วัยเตาะแตะ (1-3 ปี)

พัฒนาการ: พัฒนาทักษะการเดินและการใช้มือ เริ่มเข้าใจการเล่นสมมติ

กิจกรรมที่เหมาะสม: ต่อบล็อก , เล่นบทบาทสมมติ เช่น ทำอาหาร , เล่นดนตรีพื้นฐาน

วัยอนุบาล (3-5 ปี)

พัฒนาการ: เรียนรู้การทำงานร่วมกันและแก้ปัญหา

กิจกรรมที่เหมาะสม: เกมต่อจิ๊กซอว์ง่าย ๆ , การระบายสี , การเล่นบทบาทสมมติที่ซับซ้อนขึ้น
เช่น คุณหมอ

วัยประถม (6-12 ปี)

พัฒนาการ: พัฒนาการคิดเชิงเหตุผล การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม

กิจกรรมที่เหมาะสม: การเล่นกีฬา , เกมสร้างสรรค์ เช่น LEGO , การทดลองวิทยาศาสตร์ง่าย ๆ

ความสำคัญของการเล่น
พัฒนาการทางสมอง: ส่งเสริมการเชื่อมต่อของระบบประสาทและพัฒนาทักษะการคิด

พัฒนาการทางอารมณ์และสังคม: เด็กเรียนรู้การควบคุมอารมณ์และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

เสริมสร้างสุขภาพร่างกาย: การเล่นช่วยพัฒนากล้ามเนื้อและความสมดุลของร่างกาย

ผู้ปกครองจะเล่นกับลูกอย่างไร
จัดเวลาเล่นร่วมกัน: ควรมีเวลาเล่นที่ไม่มีสิ่งรบกวนจากหน้าจอหรือการทำงาน

ใช้ของเล่นและกิจกรรมที่กระตุ้นการเรียนรู้: เช่น ของเล่นตัวต่อ การเล่นบทบาทสมมติ

สนับสนุนแต่ไม่ควบคุม: ให้เด็กเป็นผู้นำในการเล่น ผู้ปกครองเพียงช่วยเสริมสร้างไอเดีย

สังเกตและปรับกิจกรรม: หากเด็กแสดงความเบื่อ ให้เปลี่ยนรูปแบบกิจกรรม

สรุป
แม้ว่าหลายคนจะมุ่งเน้นให้เด็กเรียนวิชาการตั้งแต่เล็ก แต่การเล่นไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เพราะการเล่น
เป็นวิธีเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับเด็ก การเล่นช่วยพัฒนาสมอง ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะทางสังคม
ซึ่งเป็นสิ่งที่การเรียนในห้องเรียนไม่สามารถทดแทนได้ ผู้ปกครองจึงควรให้ความสำคัญกับการเล่น
เท่า ๆ กับการเรียน เพื่อช่วยสร้างสมดุลในพัฒนาการของเด็กทั้งในด้านวิชาการและชีวิตประจำวัน

อ้างอิง
Berk, L. E. (2021). Child development (10th ed.). Pearson Education.

Frost, J. L., Wortham, S. C., & Reifel, S. (2012). Play and child development (4th ed.). Pearson Education.

Ginsburg, K. R. (2007). The importance of play in promoting healthy child development and maintaining strong parent-child bonds. Pediatrics, 119(1), 182-191. https://doi.org/10.1542/peds.2006-2697

Parten, M. B. (1932). Social participation among preschool children. Journal of Abnormal and Social Psychology, 27(3), 243–269. https://doi.org/10.1037/h0074524

ประกาศอื่นของผู้ขาย

รูปภาพรายละเอียดราคา