ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ขายของมือสอง ร้านค้าออนไลน์ ecommerce หางาน สมัครงาน PantipMarket.com


ดูข่าวทั้งหมด
ค้นหาแบบละเอียด

หมายเลขประกาศ21919968

เด็กติดจอ ผลกระทบพัฒนาการ

เด็กติดจอ…ไม่ใช่เรื่องเล็ก!
ทำไมไม่ควรให้ลูกดูจอเร็วเกินไป ?
บทนำ
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยหน้าจอ - โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือทีวี - การให้ลูกเล็กดูจอเพื่อให้เงียบหรือนั่งอยู่นิ่ง ๆ
ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาในหลายบ้าน แต่รู้ไหมครับว่า “การดูจอเร็วเกินไป” โดยเฉพาะในช่วง วัย 0–3 ปี
อาจส่งผลต่อพัฒนาการของลูกในหลายด้าน ทั้งสมอง ภาษา สมาธิ และอารมณ์

ทำไมไม่ควรให้เด็กเล็กดูจอเร็วเกินไป?
1. ส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและภาษา
สมองของเด็กเติบโตเร็วที่สุดในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต
งานวิจัยจาก American Academy of Pediatrics (AAP) พบว่า เด็กที่ดูจอมากเกินไป
มักมีปัญหาด้านภาษาและการพูด เนื่องจาก

เด็กได้ “มองจอ” มากกว่า “มองหน้า” คนจริง ๆ
ซึ่งหมายความว่า เด็กขาดโอกาสเรียนรู้จากการพูดคุย น้ำเสียง สีหน้า และอารมณ์ของผู้ใหญ่
— ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จอไม่สามารถให้ได้

2. สมาธิสั้นและควบคุมอารมณ์ยาก
การศึกษาจาก มหาวิทยาลัย Alberta ประเทศแคนาดา พบว่า เด็กที่ดูจอเร็วและบ่อย
มีแนวโน้มเป็น สมาธิสั้น (ADHD) มากขึ้น เพราะสมองของเด็กถูกกระตุ้นด้วยภาพที่เปลี่ยนไว
เสียงดัง และแสงสว่างตลอดเวลา

เมื่อสมองชินกับสิ่งเร้ารวดเร็ว เด็กจะ “เบื่อง่าย” และ “จดจ่อกับสิ่งปกติได้น้อยลง”

3. กระทบการนอนหลับและอารมณ์
งานวิจัยจาก JAMA Pediatrics ระบุว่า เด็กที่ใช้จอเกินวันละ 1 ชั่วโมง
มีแนวโน้มหลับยาก ตื่นกลางดึก และพักผ่อนไม่เพียงพอ
ร่างกายที่ไม่ได้นอนเต็มที่ทำให้เด็กหงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น และไม่พร้อมเรียนรู้ในวันถัดไป

ถ้าไม่ดูจอ...ให้ลูกทำอะไรดี?
1. การเล่นที่กระตุ้นประสาทสัมผัส (Sensory Play)
ให้เด็กได้จับ ดม ฟัง สัมผัสสิ่งจริง ๆ เช่น เล่นทราย เล่นน้ำ ปั้นดินน้ำมัน
กิจกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาสมอง การรับรู้ และสมาธิได้มากกว่าการจ้องหน้าจอ

2. อ่านนิทานให้ลูกฟัง
นิทานช่วยเสริมภาษา การจินตนาการ และยังเป็น “เวลาคุณภาพ” ระหว่างพ่อแม่กับลูก
เด็กที่ฟังนิทานบ่อยจะพูดเร็วขึ้น เข้าใจคำศัพท์มากขึ้น และรู้จักอารมณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น

3. เล่นเคลื่อนไหว (Active Play)
ให้เด็กได้ขยับตัว วิ่ง กระโดด ปีนป่าย ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่–มัดเล็ก
และยังเป็นทางออกที่ดีสำหรับการปลดพลังงานส่วนเกินในแต่ละวัน

4. เล่นสมมติ (Pretend Play)
เช่น เล่นเป็นคุณหมอ ครู หรือพ่อครัว
กิจกรรมนี้ช่วยพัฒนาทักษะสังคม การแก้ปัญหา และการเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น

แนวทางดูแลการใช้จออย่างเหมาะสม
ช่วงอายุ เวลาที่เหมาะสม คำแนะนำเพิ่มเติม
ต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรดูจอเลย ถ้าจำเป็น ไม่เกิน 15 นาที และต้องมีผู้ใหญ่ร่วมดู
2–5 ปี ไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน ควรเลือกเนื้อหาที่เหมาะกับวัย และพูดคุยกับลูกหลังดูจบ
มากกว่า 6 ปี ใช้ได้ แต่ต้องมีขอบเขต กำหนดเวลาชัดเจน ห้ามใช้ก่อนนอน และมีเวลาเล่นนอกจอด้วย
เคล็ดลับง่าย ๆ: “จอ” ไม่ควรแทน “คน”
ให้เด็กเรียนรู้จากการเล่น พูดคุย และใช้ประสาทสัมผัสจริง ๆ มากกว่าอยู่กับจอภาพ

สรุป
การดูจอเร็วเกินไปไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะส่งผลต่อ สมอง ภาษา สมาธิ และอารมณ์ ของลูกโดยตรง
พ่อแม่สามารถช่วยได้ง่าย ๆ แค่ “เปลี่ยนเวลาหน้าจอ เป็นเวลาหน้าเรา”
ใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นเล่น พูดคุย และกอดลูกให้มากขึ้น
เพราะสิ่งที่ช่วยพัฒนาเด็กได้ดีที่สุด... ไม่ใช่แสงจากหน้าจอ แต่คือ “ความรักและการมีอยู่ของพ่อแม่”

? แหล่งอ้างอิง
American Academy of Pediatrics (AAP). Media and Young Minds

JAMA Pediatrics. Screen Time Exposure and Sleep Quality in Children Under Five

University of Alberta. Screen Time and ADHD Risk in Preschool Children

World Health Organization (WHO). Guidelines on Physical Activity, Sedentary Behavior, and Sleep for Children Under 5 Years of Age

Harvard Medical School. The Effects of Excessive Screen Time on Brain Development in Young Children

ประกาศอื่นของผู้ขาย

รูปภาพรายละเอียดราคา