รูปพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่แม่พิมพ์เดียวกันอยู่ในหนังสือ "เบญจภาคี" เล่มใหญ่ปกแข็งหน้า ๖๕ เล่มเล็กปกอ่อนหน้า ๗๙ (องค์ครูเอื้อ) ---- (จากหนังสือ"พระนางพญา" ของตรียัมปวาย) พุทธลักษณะนางพญาเข่าตรง -- พระนางพญาพิมพ์เข่าตรงมีความกว้างที่ฐานเฉลี่ย ๒ ซม. สูงเฉลี่ย ๓ ซม. อาจกว้างสูงย่อหย่อนกว่านี้ได้เล็กน้อย เนื่องจากเป็นพระตัดขอบข้างไม่ได้มีขอบพิมพ์บังคับตายตัว ---- พุทธลักษณะ พระเกศเป็นเกศปลี "พระศกยาววาดโค้งเป็นลำจากยอดพระกรรณขวาองค์พระ มาสู่ยอดพระกรรณซ้ายองค์พระ ในองค์ที่ขอบพระด้านซ้ายองค์พระ (ด้านขวามือเรา) ถูกตัดเบียดชิดพระพักตร์แล้ว จะเกิดการเบียดให้ปลายไรพระศกเชื่อมต่อกับพระกรรณเป็นเส้นเดียวกัน แต่ถ้าขอบพระตัดห่างออกมาจะเห็นปลายไรพระศกซ้ายองค์พระแตะจรดยอดพระกรรณซ้าย ---- พระกรรณ ทั้งสองข้างเป็นลำเล็กยาวปลายสะบัดออก ปลายพระกรรณขวาองค์พระปลายสะบัดออก ปลายพระกรรณซ้ายองค์พระเชื่อมติดกับสังฆาฏิเป็นเส้นเดียวกัน ---- พระพักตร์ เป็นทรงสี่เหลี่ยมสอบเข้าเล็กน้อยที่ด้านล่าง ระหว่างเส้นไรพระศกกับยอดพระพักตร์จะยุบตัวเป็นร่อง ในร่องนี้พระบางองค์อาจมีเสี้ยนเนื้อเป็นเส้นทิว เป็นมาแต่ในพิมพ์แสดงถึงความสมบูรณ์สูงสุดของพระในสภาพเดิมๆ ---- พระเนตร อยู่ปลายพระพักตร์ทั้งสองข้าง มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเหลี่ยมยาว พระเนตรซ้ายองค์พระจะอยู่สูงกว่าและมีขนาดโตกว่าเล็กน้อย ---- พระนาสิกเป็นต่อมนูนสั้น ปลายบานแต่ไม่นูนมาก ---- พระโอษฐ์ เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวหงายขึ้น ปลายทั้งสองวาดขึ้นไปทางแก้ม ---- ร่องเหนือพระโอษฐ์ ร่องนี้ในองค์ชัดๆพิมพ์สมบูรณ์จะเห็นเป็นแอ่งเหนือพระโอษฐ์ ในองค์ที่ใช้สึกๆหากไม่สึกมากก็สามารถเห็นได้ ---- พระหนุ คือส่วนคางจะมนๆ ข้างกรามทั้งสองข้างก็เป็นเหลี่ยมมนเช่นกัน ใต้กรามซ้ายองค์พระมีเส้นเอ็นคอลากยาวลงมาพอเห็น และจะเชื่อมต่อกับเส้นจีวรเป็นเส้นเดียวกัน ใต้พระหนุในพระบางองค์ที่มีสภาพสมบูรณ์มากจะมีเสี้ยนเนื้อติดเห็นเป็นเส้นๆ ---- พระอังสา หรือส่วนบ่า - ไหล่ กลางพระอังสาจะเป็นแอ่งท้องกะทะ พื้นผิวพระช่วงใต้พระหนุกับพระอังสานั้นในพระบางองค์ที่มีความสมบูรณ์มากๆ จะมีเสี้ยนเนื้อปรากฏได้เช่นกัน ส่วนปลายพระอังสาอันเป็นส่วนเริ่มของแขนนั้นจะมนและลาดลง ---- พระพาหาและพระกร (ต้นแขนและปลายแขน) ต้นแขนด้านขวาองค์พระ เริ่มจากพระอังสายาวเรียวค่อยๆสอบลงมาบางๆพอถึงช่วงพระกัปประ (ข้อศอก) กลับไม่มีอาการหักงอแบบพระทั่วไป แต่จะยาวเชื่อมต่อกับพระกร (ปลายแขน) โดยมีอาการโก่งน้อยๆ ส่วนพระพาหาด้านซ้ายองค์พระ จะยาวลงมาถึงช่วงข้อศอกจะหักวกเข้าเป็นขอเบ็ดอุ้มพระอุทรไว้ มีข้อสังเกตประการหนึ่ง ที่ข้อศอกด้านนอกด้านซ้ายองค์พระจะมีเส้นจีวรพาดเฉียงลงมาบางๆ พระบางองค์จึงเป็นจงอยยื่นที่มุมข้อศอกด้านนอก ---- พระหัตถ์ พระหัตถ์ขวาองค์พระอยู่ในลักษณะจับเข่านอก (ส่วนเข่าอยู่นอกมือ) ลักษณะพระหัตถ์จะวกเช้าเล็กน้อย ส่วนพระหัตถ์ซ้ายองค์พระตรงปลายพระหัตถ์มีข้อน่าสังเกตว่า ในองค์ที่ติดชัดๆและสมบูรณ์มากๆ จะมีลักษณะแตกเป็นแส้คล้ายเป็นทิวนิ้วมือ ๓ - ๔ นิ้ว เลือนๆ ----พระอุระ คือส่วนอกจะผายออกแลดูสง่า แผ่นพระอุระส่วนล่างจะยุบตัวลง มีเส้นจีวรพาดโค้ง และสังฆาฏิวาดลง ปลายเส้นจีวรจะเลยล้ำลงพื้นซอกพระกัจฉะ (รักแร้) เล็กน้อย ส่วนสังฆาฏิหากติดเต็มๆปลายจะบาน ---- พระอุทร คือส่วนท้องจะเป็นกระเปาะนูนโปนน้อยๆ สังเกตให้ดีปลายกระเปาะพระอุทรซ้ายองค์พระจะวาดขึ้นเป็นเปลว ---- พระชงฆ์ คือส่วนแข้ง ด้านบนจะเรียวเล็ก ส่วนด้านล่างจะหนาใหญ่ มีพระจำนวนมากปลายพระชงฆ์บน ที่เป็นส่วนพระบาทนั้นจะเห็นเส้นฝ่าพระบาทชัดเจน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อีกฉากหนึ่งของใบเซอร์ติฟิเกต --- สองปีมาแล้วมิตรสหายนักเล่นพระที่รู้จักกันดีคนหนึ่งพูดว่า ได้นำพระสมเด็จองค์หนึ่งไปตรวจสอบและออกบัตรใบเซอร์ พร้อมทั้งแสดงรูปพระสมเด็จองค์นั้นในมือถือให้ดูด้วย ค่าออกบัตรใบเซอร์หนึ่งแสนบาท มีบริการพิเศษเพิ่มอีกต่างหากคือ ผู้เซ็นบัตรใบเซอร์พูดยืนยันรับรอง(ทางโทรศัพท์)กับผู้ที่จะซื้อพระ หลังจากดูรูปพระองค์นั้นที่ผู้จะซื้อพระส่งให้ดูทางมือถือ ถ้าจะใช้บริการพิเศษนี้ต้องจ่ายเพิ่มอีกหนึ่งแสนบาท ---- ยุติการพูดแค่นี้ คิดว่าเขาอยากจะบอกอะไรบางอย่าง แต่ลังเลที่จะพูด -------- กรณีนี้ทำให้รู้ว่า พระบางองค์อาจจะถูกประเมินจากบางสถานที่ว่า ราคาใบเซอร์เท่าไร