ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ขายของมือสอง ร้านค้าออนไลน์ ecommerce หางาน สมัครงาน PantipMarket.com


ดูข่าวทั้งหมด
ค้นหาแบบละเอียด

หมายเลขประกาศ20736988

พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง วัดนางพญา พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆัง พระกำแพง ซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่

แสดงภาพทั้งหมด

พระนางพญามี ๒ พวกเหมือนกันกับพระสมเด็จคือ (๑)พระนางพญาที่ต้องดูพิมพ์ มีข้อมูลเรื่องพิมพ์ (๒)พระนางพญาที่ไม่ดูพิมพ์ ไม่มีข้อมูลเรื่องพิมพ์ (เป็นพระนางพญาเก่าที่ไม่ทราบชื่อกรุหรือวัด ปรากฏในตลาดพระเสมอ รวมทั้งในออนไลน์) พระนางพญาของวัดนางพญาเป็นพระชนิดที่มีข้อมูลเรื่องพิมพ์ และต้องมีการดูพิมพ์ ข้อมูลรายละเอียดเรื่องพิมพ์ของพระนางพญากรุวัดนางพญามีอยู่ในหนังสือ ตำรา นิตยสารพระเครื่อง ข้อเขียนบทความ เช่น หนังสือ'พระนางพญา' ของตรียัมปวาย หนังสือ'พระนางพญา' ที่จัดทำโดยนิตยสาร'เซียนพระ สุดสัปดาห์' และอาจารย์เล็ก วัดรวก (สองเล่มนี้มีรายละเอียดเหมือนกัน) พระสมเด็จฯ ผิวฟูหนา ด้านหลังมีรอยกาบหมากในแนวตั้ง รูปพระสมเด็จฯพิมพ์ใหญ่แม่พิมพ์เดียวกันอยู่ในหนังสือ'เบญจภาคี' เล่มใหญ่ปกแข็งหน้า ๕๓ เล่มเล็กปกอ่อนหน้า ๖๗ ---------- Tip สำหรับผู้เริ่มศึกษาและแสวงหาพระสมเด็จฯ --- จากหนังสือ"พระสมเด็จฯ" ของตรียัมปวาย --- การจำแนกประเภทของผิว โดยสรุปแล้วอาจจำแนกผิวของเนื้อออกเป็น ๔ ประเภทคือ ผิวเยื่อหอม ผิวแป้งโรยพิมพ์ ผิวเรียบและผิวฟู ------ ผิวฟู เป็นผิวอีกประเภทหนึ่งที่มีลักษณะฟูตัว ผิวหน้าเป็นเกล็ดกระดี่อย่างละเอียด ทำนองกับผิวของดินสอพอง หรือหินลับมีด การฟูตัวของผิวคล้ายกับจะเป็นการสร้างผิวชั้นนอกขึ้นอีกชั้นหนึ่ง(๑) ผิวชนิดนี้เข้าใจว่าเกิดจากเนื้อที่ค่อนข้างเหลวมาก(๒) ในกรรมวิธีการสร้าง จึงทำให้เกิดเยื่อครีมซ้อนขึ้นมาบนส่วนหน้า(๓) ซึ่งเป็นส่วนสัมผัสกับแม่พิมพ์ ผิวประเภทนี้คงแจกออกได้เป็น ๒ ลักษณะ คือ ก)ฟูบาง เป็นผิวฟูที่มีเยื่อครีมหรือเกล็ดกระดี่ไม่หนาจัดนัก ข)ฟูหนา ลักษณะเช่นเดียวกับผิวฟูบาง แต่มีสัณฐานหนากว่า เข้าใจว่าความเหลวของเยื่อครีมที่ผสมกับแป้งโรยพิมพ์(๔) ในกรรมวิธีการสร้าง จึงผสมผสานตัวกันเข้าทำให้หนามาก(๕) การฟูของผิวเกิดจากการผสมผสานตัวกันนี้ จะทำให้เกิดฟองอากาศหรือปฏิกิริยาปูนเดือดมาก(๖) และผิวฟูนี้คงมีความเป็นไปคงในทำนองเดียวกับการแตกลายงา กล่าวคือ จะต้องเกิดเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น(๗) และมีความอ่อนนุ่มนวล และมักจะมีวรรณะเทาอ่อนๆ หม่นๆ(๘) หรือเขียวก้านมะลิอ่อนๆ(๙) --- (ข้อสังเกตเพิ่มเติม ๑.ข้อความที่มีตัวเลขในวงเล็บอยู่ท้ายคือจุดหรือลักษณะที่น่าสนใจและพิจารณาเอาไปใช้ในการดูพระ ๒.ผิวฟูหนา พบเห็นน้อยที่สุด ถ้ามองข้ามคือพลาด) ---------------------------------------------------------------------- "ปัจจัยที่มีผลในเรื่องความเชี่ยวชาญ" --- นักนิยมพระเครื่องสองคนเริ่มศึกษาและแสวงหาพระมาพร้อมกัน คนแรกศึกษาพระเพียง ๕ อย่าง หนึ่งในห้าอย่างคือพระสมเด็จวัดระฆังฯและบางขุนพรหม อีกคนหนึ่งศึกษาพระ ๑๐๐ อย่างและมีพระสมเด็จวัดระฆังฯและบางขุนพรหมเหมือนกัน เวลาผ่านไป ๒๐ ปี ถ้าพิจารณาจากเวลาที่ใช้กล่าวคือ คนแรกใช้เวลาโดยเฉลี่ย ๔ ปีในการศึกษาและแสวงหาพระแต่ละอย่าง คนที่สองใช้เวลาโดยเฉลี่ยสองเดือนครึ่งต่อพระหนึ่งอย่าง ถ้าพิจารณาเฉพาะเรื่องเวลาที่ใช้นี้จะเข้าใจได้ว่าระหว่างคนที่หนึ่งและคนที่สองใครจะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องของพระสมเด็จฯมากกว่ากัน ในระยะเวลาเท่ากันยิ่งศึกษามากอย่าง โอกาสที่จะเกิดความเชี่ยวชาญในแต่ละอย่างยิ่งน้อยลง เซียนใหญ่ท่านหนึ่งพูดในปีนี้ว่า อย่าเล่นพระหลายๆอย่าง เล่นพระไม่เกิน ๕ อย่างจะรวย ---------- ความเชี่ยวชาญในการดูพระสมเด็จฯขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่มีผลแน่ชัดอย่างหนึ่งคือ ระยะเวลา(มากหรือน้อย)ที่ใช้ในการศึกษาและหาประสบการณ์ แค่พิจารณาจากปัจจัยนี้ปัจจัยเดียวก็จะรู้ได้ว่า ความสามารถในการดูพระสมเด็จฯของแต่ละคนไม่เท่ากัน(เพราะปัจจัยคือเวลาไม่เท่ากัน) การตัดสินด้วยเสียงข้างมากไม่ได้เป็นเรื่องแน่นอนเสมอไป อาจถูกหรือผิดก็ได้ เซียนระดับครูอาจารย์หลายท่านพูดว่า เสียงข้างน้อยอาจถูกก็ได้ถ้ามีความสามารถและเชี่ยวชาญกว่า (แม้จะมีเพียง ๑ เสียง) กรณีนี้ถือว่าคุณภาพเหนือปริมาณ ----------- สิ่งที่สามารถใช้ยึดถือและอ้างอิงได้อย่างหนักแน่นคือ (๑)พระแท้องค์จริง (๒)รูปภาพพระแท้ (๓)ข้อมูลในหนังสือ ตำรา นิตยสารพระเครื่องและข้อเขียนบทความ ที่ได้รับการพิจารณาแล้วว่าดีและใช้ได้ผลในการพิจารณาพระ ในสามอย่างนี้รูปภาพพระแท้หาได้ง่ายที่สุด (หนังสือรูปภาพที่ดีที่สุดคือหนังสือ'เบญจภาคี' คาดว่าจะมีการใช้หนังสือนี้ไปอีกแสนนาน) ---------- นอกจากการศึกษาแล้วสิ่งที่จะทำให้เกิดผลในที่สุดคือ การใช้ตาร่วมกับสมองเพื่อพิจารณาพระ (หมายความว่าดูไปด้วย คิดไปด้วย) ประสบการณ์ที่ยาวนานและโชกโชนเป็นสิ่งดีที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องและจำได้จะรวมอยู่ในนี้ และส่งผลในการพิจารณาทั้งนั้น ไม่ว่าเรื่องใดลักษณะใด ทั้งมากและน้อย ---------------------------------------------------------------------- หนึ่งแม่พิมพ์ของพระสมเด็จวัดระฆังฯไม่ได้ใช้ทำเฉพาะพระสมเด็จฯองค์ที่มีชื่อเสียงหรือองค์ดาราเท่านั้น แต่ใช้ทำมากองค์ ถ้าจำ 'พิมพ์' ของพระองค์ที่มีชื่อเสียงได้ (ปกติจะคุ้นเคยหรือคุ้นตาอยู่แล้ว) มีโอกาสสูงที่จะได้พระแท้ (ดีกว่าการจำอย่างอื่นมาก) และมีรูปภาพที่สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ด้วย พระสมเด็จฯที่สร้างจากแม่พิมพ์อันเดียวกัน(ไม่ว่าจะกี่องค์)ล้วนเป็นพระแท้เหมือนกันทั้งนั้น และแขวนได้อย่างมั่นใจเท่ากัน (อาจพบพระบางองค์ที่สวยกว่าองค์ดาราด้วยซ้ำ)

ประกาศอื่นของผู้ขาย

รูปภาพรายละเอียดราคา