1.เก็บเอาไว้เฉพาะของที่เห็นแล้วมีความสุข : อะไรที่ทำให้มีความสุข หรือเห็นแล้วมีความสุข ก็ให้เก็บไว้ ทั้งของใช้ในครัว ทั้งเสื้อผ้า ทั้งของแต่งบ้าน ของที่เรารัก เราชอบ เราจะดูแลรักษาเป็นอย่างดี แต่ถ้าของที่ไม่ชอบ ไม่ใช้ เห็นแล้วไม่มีความสุข ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเก็บ และแม้จะเก็บไว้ เราก็ไม่ใส่ใจดูแลอยู่ดี

2.พูดคำว่าขอบคุณ : ขอบคุณของทุกอย่างที่ให้เราใช้งานอย่างหนัก หรืออีกนัยหนึ่งให้ตระหนักและนึกถึงคุณค่าของสิ่งของของเรา และเราจะใช้มันด้วยความสุข

3.กำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกเสียก่อนแล้วค่อยจัดเก็บของที่เหลือ : อย่าพยายามจัดเก็บอะไรก่อนที่เราจะนำสิ่งที่เราไม่ต้องการแล้วออกมาทิ้ง ขั้นตอนแรกในการจัดเก็บของนั้น ให้เริ่มจากการเลือกดูว่า เราจะเก็บอะไรไว้ และอะไรที่เราไม่ต้องการอีกแล้ว จากนั้นก็นำสิ่งที่ไม่ต้องการออกมาเสียก่อน และค่อยจัดของที่เหลือให้เข้าที่เข้าทาง

4.อย่าซื้อกล่องหรือที่เก็บของมาเพิ่ม : ให้คิดว่าที่เก็บของ หรือกล่องเก็บของที่เรามีอยู่นั้นเพียงพอแล้ว และไม่ควรซื้อมาเพิ่มอีก ไม่เช่นนั้นยิ่งเรามีที่เก็บของมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะมีของไม่จำเป็นมากขึ้นเท่านั้น แนวทางที่สำคัญในการจัดระเบียบคือการลดปริมาณของไม่ใช่การเพิ่มพื้นที่เก็บของ

5.จัดแยกเสื้อผ้าตามกลุ่มสี : วิธีหนึ่งที่จะช่วยในการจัดระเบียบเสื้อผ้าก็คือการจัดตามกลุ่มสี วิธีนี้นอกจากจะสวยงามเรียบร้อยแล้ว ยังหยิบใช้งานสะดวกด้วย

6.พับเสื้อผ้าให้เหมือนซูชิ : เสื้อผ้าให้พับให้มีขนาดเล็ก เพื่อที่จะได้ไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ วิธีที่คนญี่ปุ่นใช้เป็นการพับให้เหมือนซูชิ คือพับเป็นสี่เหลี่ยมก่อน จากนั้นก็ม้วนให้เล็กลง

7.อย่าพยายามเก็บเอกสารกระดาษ : ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบบอกว่า กระดาษ บิล เอกสารต่าง ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้ดูแล้วมีความสุข อะไรที่ไม่จำเป็นให้กำจัดออกไปเสีย

อ่านเพิ่มเติม : http://www.rodrubjang-thailand.com/article/198