เมื่อวันที่ 23-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดสื่อและคลังสมองกลุ่มองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization Media and Think Tank Summit) ได้มีขึ้นที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน โดยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม แขกกว่า 100 ท่านได้เดินทางมาเยี่ยมชมเมืองลั่วหยาง เพื่อสัมผัสกับเสน่ห์และชีวิตชีวาของอดีตราชธานีอันเก่าแก่นับพันปีแห่งนี้

ลั่วหยางเป็นหนึ่งในอู่อารยธรรมจีนที่สำคัญ เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ถึง 13 ราชวงศ์ เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นทางตะวันออกของเส้นทางสายไหม และเป็นเมืองศูนย์กลางตามแนวคลองใหญ่ (Grand Canal) ในสมัยราชวงศ์สุยและถัง ด้วยประวัติศาสตร์อารยธรรมที่ยาวนานกว่า 5,000 ปี ประวัติศาสตร์เมืองเกือบ 4,000 ปี และเคยเป็นเมืองหลวงมากว่า 1,500 ปี นอกจากนี้ ในสมัยสาธารณรัฐประชาชนจีน ลั่วหยางยังเป็นฐานอุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยในแผนระยะ 5 ปีฉบับแรก (พ.ศ. 2496-2500) นั้น โครงการสำคัญระดับชาติ 7 โครงการ จากทั้งหมด 156 โครงการก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่ และในยุคใหม่นี้ ลั่วหยางกำลังผสานรวมเข้ากับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) อย่างลึกซึ้ง โดยมีรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างจีน-ยุโรปและจีน-เอเชียกลางวิ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

เส้นทางสายไหมโบราณยังคงอยู่ ความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์ถังก็กลับมาอีกครั้ง

ประตูติงติง (Dingding Gate) ยังคงตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม ราวกับเป็นพยานที่ได้ยินเสียงกระดิ่งอูฐก้องกังวานไปตามเส้นทางสายไหม พร้อมต้อนรับความรุ่งเรืองของราชวงศ์สุยและถัง การได้ก้าวเข้าไปในพิพิธภัณฑ์โบราณสถานประตูติงติง และชมการแสดงจำลอง "พิธีเปิดประตูเมือง" สุดอลังการ ทำให้แขกทุกท่านเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต เมื่อนักแสดงโค้งคำนับอย่างสง่างามในชุดฮั่นฝูที่พลิ้วไหว แขกทุกท่านต่างทึ่งในความงดงามของการทำความเคารพแบบโบราณที่มีมานานนับพันปี และบอกว่าไม่เคยเห็นธรรมเนียมที่สง่างามเช่นนี้มาก่อน

จากนั้นจึงย้ายไปที่ "Wuhuang Shengyan" (ภัตตาคารวัฒนธรรมสไตล์ถัง) อันตระการตา เพื่อสัมผัสประสบการณ์ในยุคทองของราชวงศ์ถังผ่านประสาทสัมผัสทั้งหลาย ท่ามกลางราวแกะสลักและโครงสร้างประดับหยก ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารเลิศรสพร้อมกับเสียงดนตรีและการเต้นรำที่กึกก้อง ทำให้ประทับใจในความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ถังอย่างล้นเหลือ ด้วยความสนุกสนาน แขกบางคนก็ร่วมขึ้นไปเต้นรำกับนักแสดงบนเวทีด้วย แม้จะจบงานไปนานแล้ว แต่บทเพลงก็ยังคงก้องอยู่ในใจ โดยแขกต่างชื่นชมและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "น่าทึ่ง! ยิ่งใหญ่! สุดยอดมาก!" พร้อมทั้งบอกว่าจะต้องกลับไปเล่าให้เพื่อนและครอบครัวฟัง ให้พวกเขามาสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง

ตงฟางหงขับขานเรื่องราวใหม่ แสงพุทธแห่งหลงเหมินส่องสว่างทั่วโลก

เมื่อเข้าสู่ศูนย์นวัตกรรมตงฟางหง (Dongfanghong Innovation Hub) ของบริษัทวายทีโอ กรุ๊ป คอร์ปอเรชัน (YTO Group Corporation) แขกผู้มาเยือนต่างสัมผัสพลังขับเคลื่อนของการผลิตเครื่องจักรกลและอุตสาหกรรมในลั่วหยางได้อย่างชัดเจน แขกชาวต่างชาติหลายท่านให้ความสนใจขึ้นไปทดลองขับรถแทรกเตอร์รุ่นใหม่ที่จัดแสดงอยู่ ทุกคนต่างประทับใจในเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยและเข้าถึงได้ง่าย และกล่าวว่า "ลั่วหยางไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัยด้วย ซึ่งน่าทึ่งมาก!" แขกชาวต่างชาติหลายท่านยังกล่าวอีกว่า การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์จากจีนได้ช่วยพัฒนาการเกษตรในประเทศของตนอย่างมาก ทำให้รากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนแข็งแกร่งขึ้น และยังช่วยรักษาความมั่นคงทางอาหารอันมีค่าอีกด้วย พวกเขาจึงหวังว่าจะมีความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในอนาคต

ที่ถ้ำหลงเหมิน แขกทุกท่านได้สำรวจขุมทรัพย์ทางศิลปะการแกะสลักหินของจีน แขกชาวต่างชาติหลายคนยืนอยู่หน้าพระพุทธไวโรจนะองค์ใหญ่ และกล่าวว่าลั่วหยางเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษอย่างยิ่ง โดยรุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรมและอารยธรรม พวกเขาหวังที่จะเชื่อมโยงประเทศของตนกับจีนผ่านการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมร่วมกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ลั่วหยาง เมืองโบราณนับพันปีที่ยังคงเสน่ห์เหนือกาลเวลา โดยการมาเยือนอย่างลึกซึ้งในครั้งนี้ทำให้แขกผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสื่อและคลังสมองกลุ่มองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ไม่เพียงแต่ได้ยินเสียงสะท้อนจากประวัติศาสตร์ แต่ยังได้สัมผัสถึงพลังขับเคลื่อนอันแข็งแกร่งของเมืองนี้ในยุคต่าง ๆ อีกด้วย พวกเขาได้จารึกภาพของลั่วหยางในใจว่าเป็นเมืองที่ "น่าทึ่ง ยิ่งใหญ่ และสุดยอด" และจะนำเรื่องราวเหล่านี้ไปบอกเล่าให้คนทั่วโลกได้รับรู้

ที่มา: การประชุมสุดยอดสื่อและคลังสมองกลุ่มองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้