น้ำมันดีเซล
น้ำมันดีเซล (Diesel Fuel) คือ
น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์น้ำมันดิบที่ได้จากโรงกลั่นเช่น
เดียวกับน้ำมันเบนซินซึ่งเป็นน้ำมันที่เรียกว่า น้ำมันใส หรือ Distillate Fuel มีช่วงจุดเดือดประมาณ 180-
370 องศาเซลเซียส น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งเป็นเครื่องยนต์แรงอัดสูง (High Co
pression) และจุดระเบิดเอง (Self Ignition Engine) ซึ่งการจุดระเบิดของเชื้อเพลิงเกิดขึ้นจากความร้อน
จากแรงอัดสูงของอากาศในกระบอกสูบโดยไม่ต้องใช้หัวเทียนที่มีจำหน่ายในปัจจุบันนี้แบ่งออกได้เป็น
2 ประเภท คือ
1. น้ำมันดีเซลสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรอบหมุนเร็วที่ใช้กับยานยนต์ (Automotive Diesel Oil หรือ
Gas Oil) เช่น รถยนต์, รถบรรทุก, เรือประมง, เรือโดยสาร, รถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรกลหนักทุก
ชนิดที่มีรอบหมุนเร็วเกิน 1,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ประเภทนี้จำเป็นต้องใช้น้ำมันที่มีค่าซีเทนสูง
และมีการะเหยเร็ว มิฉะนั้นเครื่องยนต์จะเดินไม่สะดวก น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทนี้เรียกว่าน้ำมันดีเซล
หมุนเร็ว (HSD; High Speed Diesel Oil) แต่ในตลาดเป็นที่รู้จักกันในชื่อของน้ำมันโซล่า ถ้าใช้กับ
เรือเดินสมุทรมักเรียกว่า Marine Gas Oil
2. น้ำมันดีเซลสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรอบหมุนปานกลางหรือหมุนช้า (Industrial Diesel Oil) เช่นเครื่อง
ยนต์ดีเซลขับส่งกำลังติดตั้งอยู่กับที่ตามโรงงานต่างๆ ซึ่งมีรอบการทำงานต่ำ ประมาณ 500-1,000 รอบ
ต่อนาทีเครื่องยนต์ประเภทนี้ไม่ต้องการน้ำมันดีเซลที่มีค่าซีเทนสูงมากนักและการระเหยอาจช้ากว่าได้
น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทนี้เรียกว่า น้ำมันดีเซลหมุนช้า (LSD; Low Speed Diesel Oil) ซึ่งในตลาดเป็น
ที่รู้จักกันว่า น้ำมันขี้โล้ ถ้าใช้กับเรือเดินสมุทรมักเรียกว่า Marine Diesel Oil) เป็นน้ำมันผสมระหว่าง
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (Distillate Fuel) และน้ำมันเตา (Fuel Oil, FO หรือ Heavy Fuel Oil, HFO) ใน
อัตราส่วนที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของหระทรวงพาณิชย์
คุณสมบัติที่สำคัญของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
1. ความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity)
เป็นการวัดความหนักเบาของน้ำมันถ้าน้ำมันหนักมากค่าความร้อนของน้ำมันต่อหน่วยน้ำหนักจะลดลง
ค่าซีเทนลคลง การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์เกิดคราบเขม่าคาร์บอนสะสมได้มาก
2. ค่าซีเทน (Cetane Number) หรือ ดัชนีซีเทน (Cetane Index)
แสดงคุณภาพการจุดติดไฟ (Ignition Quality) นับตั้งแต่น้ำมันเริ่มถูกฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้จนกระทั่ง
น้ำมันเกิดติดไฟขึ้น ช่วงระยะเวลานี้เรียกว่า ความล่าช้าในการจุดติดไฟ (Ignition Lag) น้ำมันที่มีช่วง
ระยะเวลานี้สั้นก็จะมีค่าซีเทนสูง จุดติดไฟได้ง่าย เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่าย ในช่วงอากาศเย็นเครื่อง
ยนต์ร้อนขึ้นได้เร็วโดยไม่เกิดควันขาวเดินเรียบ น้ำมันดีเซลที่ได้จากกระบวนการกลั่นโดยตรงจะมีค่า
ซีเทนสูงใกล้ 60 แต่ถ้ามีส่วนผสมของน้ำมันจากกระบวนการ Cracking จะมีค่าซีเทนประมาณ 50-55
อย่างไรก็ตามค่าซีเทนสูงมากเกินไปก็ไม่เหมาะเพราะเครื่องจะไม่มีกำลัง การวัดหาค่าซีเทนต้องใช้
เครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐานสูบเดียว ของ CFR เปรียบเทียบคุณภาพในการจุดติดไฟกับเชื้อเพลิง
มาตรฐานค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งสิ้นเปลืองเวลา จึงใช้วิธีการคำนวณออกมาเป็น ค่าดัชนีซีเทน
(Calculated Cetane Index)
3. ความหนืด หรือ ความข้นใส (Viscosity)
คือ แรงต้านทานภายในตัวของน้ำมันต่อการไหลน้ำมันใสไหลง่าย น้ำมันข้นไหลช้าความหนืดต้องเหมาะ
สม เพื่อให้ระบบการฉีดน้ำมัน (Injection System) ฉีดเป็นฝอยได้ละเอียดดี ในขณะเดียวกันก็ช่วยหล่อ
ลื่นปั๊มหัวฉีดด้วยถ้าน้ำมันข้นเกินไปจะกระจายตัวเป็นฝอยไม่ดี แต่ถ้าใสเกินไปก็จะให้การหล่อลื่นไม่พอ
ลูกปั๊มหัวฉีดอาจติดตายหรือเกิดความสึกหรอจนทำให้ปั๊มรั่วได้ ค่าความหนืดวัดเป็น Kinematic
Viscosity
4. จุดไหลเท (Pour Point)
เป็นอุณหภูมิต่ำสุดที่น้ำมันเริ่มไม่ไหลบริเวณภาคเหนือของประเทศในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำมากน้ำมัน
จะก่อตัวเป็นเกล็ดขี้ผึ้งติดที่กรองน้ำมันดีเซล ขัดขวางการไหลของน้ำมันไปป้อนปั๊มหัวฉีด และถ้าสตาร์ท
เครื่องไม่ติดอยู่นานปั๊มหัวฉีดอาจติดตายได้
5. ปริมาณกำมะถัน (Sulphur Content)
กำมะถันในน้ำมันดีเซลเมื่อเผาไหม้กับอากาศจะกลายเป็นซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และซัลเฟอร์
ไตรออกไซด์ (SO3) เป็นไอเสียที่ถูกปล่อยทิ้งออกสู่อากาศภายนอกเป็นส่วนที่ทำให้สภาวะแวดล้อม
เป็นพิษ บางส่วนของ SO3 จะรวมตัวกับน้ำหรือความชื้นกลายเป็นกรดกำมะถันกัดกร่อนชิ้นส่วนเครื่อง
ยนต์เกิดการสึกหรอตั้งแต่ 1 มกราคม 2542 รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้มีปริมาณ
กำมะถันในน้ำมันดีเซลได้ไม่เกิน 0.05 % โดยน้ำหนัก เพื่อลดมลภาวะอากาศเป็นพิษ
6.การกัดกร่อนแผ่นทองแดง (Copper Strip Corrosion)
เป็นการทดสอบการควบคุมป้องกันถังเก็บและท่อทางเดินน้ำมันซึ่งอาจเกิดการกัดกร่อนเสียหายได้
จากสารประกอบกำมะถัน
7. กากถ่าน หรือกากคาร์บอน (Carbon Residue)
คือปริมาณสารคาร์บอนที่เหลือตกค้างอยู่หลังจากน้ำมันได้ระเหยออกไปหมดแล้วที่อุณหภูมิสูงๆในช่วง
เวลาหนึ่งน้ำมันที่มีปริมาณกากคาร์บอนสูงจะมีแนวโน้มการเกิดควันและคราบเขม่าคาร์บอนเกาะสะสม
ในห้องเผาไหม้บริเวณร่องแหวนลูกสูบ และหัวฉีดได้
8. น้ำและตะกอน (Water and Sediment)
ถ้ามีมากเกินมาตรฐานเป็นผลให้เกิดสลัดจ์อุดตันที่หม้อกรองน้ำมันได้น้ำเป็นอันตรายต่อระบบปั๊มและ
หัวฉีดเพราะไม่มีคุณสมบัติหล่อลื่น
9. ปริมาณเถ้า (Ash)
ในน้ำมันดีเซลจะประกอบด้วยสารพวกที่ไม่สามารถเผาไหม้หมดได้อยู่ในรูปของของแข็ง สารอนินทรีย์
ต่างๆ และในรูปของสารสบู่จำพวกโลหะ ที่ละลายในน้ำมันได้สารพวกที่เป็นของแข็ง ซึ่งจะขีดข่วนผิว
โลหะของเครื่องยนต์ให้เป็นรอยได้ ทำความสึกหรอให้กับปั๊มหัวฉีด และหัวฉีดส่วนสารประเภทสบู่ของ
โลหะที่ละลายได้จะทำให้เกิดคราบตกตะกอนเกาะติดในเครื่องยนต์เพิ่มการสึกหรอ
10. จุดวาบไฟ (Flash Point)
เป็นอุณหภูมิที่ไอระเหยน้ำมันดีเซลเกิดจุดติดไฟขึ้นเมื่อมีไฟเข้ามาจุดคุณสมบัติข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับ
ความปลอดภัยในการเก็บสำรองน้ำมัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ถือเป็นน้ำมันไม่น่ากลัวอันตรายสามารถ
เก็บในถังบนดินได้โดยปลอดภัย
11. การกลั่น อุณหภูมิของส่วนที่กลั่นได้ 90% (90% Recovered, oC)
แต่เดิมกระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ไม่เกิน 370 องศาเซลเซียส ปรากฏว่าส่วนหนักๆในน้ำมันเผาไหม้
ไม่หมดเกิดควันดำเต็มท้องถนนโดยเฉพาะรถที่บรรทุกหนักเกินพิกัดและการเร่งเครื่องกระทันหัน เมื่อ
พ.ศ. 2535 รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์จึงออกข้อกำหนดใหม่ ไม่ให้เกิน 357 องศาเซลเซียส ซึ่ง
หมายถึง ส่วนหนักๆ ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วถูกตัดออกไป เป็นผลให้น้ำมันเผาไหม้หมดจดขึ้นช่วยลด
ควันดำลงไปได้มาก
12. สี ASTM
เพื่อควบคุมการปะปนกับน้ำมันเตา
13. มีคุณสมบัติในการหล่อลื่น ทดสอบโดยวิธี HFRR
โดยเหตุที่รัฐบาลกำหนดให้มีปริมาณกำมะถันได้ไม่เกิน 0.05 % โดยน้ำหนักการลดปริมาณกำมะถัน
ในน้ำมันดีเซลลงทำให้คุณสมบัติการหล่อลื่นโดยธรรมชาติของน้ำมันดีเซลลดลงไปมากเป็นผลให้ปั๊ม
หัวฉีดสึกหรอและติดตายได้ในระยะยาว จึงกำหนดให้ต้องเติมสารเพิ่มคุณสมบัติการหล่อลื่น
(Lubricity Additive) ทดสอบโดยวิธี HFRR (High Frequency Reciprocating Rig) โดยมีรอยสึก
หรอ WSD (Wear Scar Diameter) ต้องไม่สูงกว่า 460 ไมโครเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ถูกกำหนด
ขึ้นใหม่