ชาวจีนรู้จักต้น Ginkgo มานานกว่า 3500 ปี ส่วนคนในประเทศอื่นหลายล้านคนก็กำลังใช้พืชชนิดนี้อยู่ทุกวัน เช่นที่เยอรมัน และฝรั่งเศส แพทย์มักจะเขียนใบสั่งยาสมุนไพรนี้ในกับคนไข้ ร่วมกับยาตัวอื่น ๆ แพทย์อีกหลายคนในแถบทวีปยุโรปใช้สมุนไพรนี้รักษาอาการต่าง ๆ เช่น ความจำเสื่อม มึนงง อาการมีเสียงดังในหู ปวดศีรษะ ซึมเศรัา และปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด

ต้น ginkgo เป็นต้นไม้โบราณ จัดว่าเป็นพืชที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก หลักฐานจากซากฟอสซิลที่พบ เป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนสูง และเย็นจัดได้มาก สามารถทนต่อมลภาวะทางอากาศที่มีพิษ และอันตรายต่อสุขภาพได้ และยังทนต่อแมลงต่าง ๆ ที่มาทำลาย

ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาคือส่วนของใบ จากที่ได้พบในปี 1950 ส่วนประกอบ 2 ชนิดจากต้น ginkgo ที่มีผลทางยาคือ flovon glycosides และ terpene lactones ดังนั้นสินค้าที่มีคุณภาพจึงควรประกอบด้วยขนาดมาตรฐานของ 24% flovone glycosides และ 6% terpene lactones ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ได้เคยศึกษาทางคลินิคมาแล้ว อย่างไรก็ตามถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด ควรเลือกใช้ชนิดที่มีส่วนประกอบอื่น ๆ ของพืชทั้งหมด ร่วมกับส่วนประกอบ 2 ชนิดที่ได้ศึกษามาแล้ว

Flovone glycosides จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลจากการถูกทำลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลในบริเวณสมอง ตา หัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นจึงนำมาใช้ป้องกัน และรักษาอาการของโรคเช่น Alzheimer , strokes, cataracts, macular degeneration, diabetic retinopathy และช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือด ลดอาการเส้นเลือดขอด

Terpene lactones and bilobalides เป็นตัวช่วยให้การไหลเวียนของเลือดไปที่สมอง และส่วนแขนขาได้ดีขึ้น โดยการทำให้ผนังหลอดเลือดขยาย และคลายตัวลง พร้อมช่วยระบบไหลเวียนกลับสู่หัวใจของระบบเลือดดำมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือด ลดการอุดตันของเส้นเลือดในหัวใจ และสมอง

Ginkgolides ยังช่วยป้องกันเซลของระบบประสาทจากการถูกทำลาย จึงถูกนำไปใช้ในผู้ป่วยที่กำลังฟื้นฟูจากการบาดเจ็บที่สมอง รวมทั้งผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท

ประโยชน์ในการรักษา

1.Alzheimer's disease และโรคความจำเสื่อม ได้ศึกษากันในเยอรมัน พบว่าช่วยเพิ่มความจำ ระดับความตั้งใจ และด้านอารมณ์ในกลุ่มที่
ศีกษาได้
2.โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
3.โรคซึมเศร้า อันเนื่องมาจากระบบไหลเวียนเลือดนำสารอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ดี
4.ความดันโลหิตสูง จากการช่วยคลายผนังหลอดเลือด
5.เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ โดยการเพิ่มการไหวเวียนโลหิตไปยังบริเวณอวัยวะเพศชาย เช่นเดียวกับยาไวอากร้า
6.ลดอาการระหว่างการมีรอบเดือน(PMS) จากประสบการณ์ผู้ใช้ พบว่าอาการปวดขณะมีรอบเดือน และเจ็บคัดที่หน้าอกหายไปเมื่อใช้
7.ช่วยป้องกันการถูกทำลายจากสารกัมมันตภาพรังสี จากการศึกษาในรัสเซียพบว่า ใช้ต่อสู้กับผลที่เกิดจากรังสีได้
8.ปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน และทางสายตาในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ต้อกระจก
9.ในผู้ป่วย stroke จะมีประโยชน์มากทั้งในระยะเฉียบพลัน และระหว่างการฟืันฟู