Thai-Texas
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน รายการสินค้า ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน
เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน23/04/2012
เป็นสมาชิกเมื่อ 23/03/2012
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe

ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  LineID:natkanok77546 77546
โทร.  2819935177
Mail  natka3710@gmail.com
Search      Go

Home / Webboard

 รวมกระทู้  


 
ปัญหาสุขภาพของสตรี
 23/04/2012 23:33:35 น.
natka  IP ผู้โพสต์ : 75.17.93.35, 75.17.93.35
 
 
Bacterial Vaginosis (BV) อาการ ที่พบจะมีตกขาว สีขาวปนเทา มีอาการแสบและคันบริเวณช่องคลอด การรักษาโดยทั่วไป แพทย์มักจะจ่ายยาเหน็บช่องคลอดเพื่อฆ่าเชื้อ หรือกลุ่มยาปฏิชีวนะ แต่จริง ๆ แล้วยากลุ่มปฏิชีวนะเองที่เป็นตัวสร้างปัญหา ในลักษณะเดียวกับที่เกิดขึ้นในระบบย่อยอาหารของเรา เพราะภายในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเชื้อแบคทีเรียที่ดี ทำหน้าที่รักษาสภาพสมดุล ( ecosystem) ความเป็นกรด ด่าง ให้อยู่ในภาวะปกติ ยาปฏิชีวนะนอกจากจะไปทำลายเชื้อโรคแปลกปลอมแล้ว ยังทำลายเชื้อแบคทีเรียที่มีคุณประโยชน์กับร่างกายด้วย เช่น Lactobacillus เมื่อเชื้อพวกนี้ถูกทำลายลง ก็ทำให้เกิดการเสียสมดุลของระบบนิเวศน์ภายในช่องคลอด จนนำไปสู่การติดเชื้อชนิดอื่นเขึ้นมาอีก เช่น เชื้อรา (Candida Vaginitis) หรือที่เรียกทั่ว ๆไปว่า Yeast Infection ซึ่งจะมีอาการคันมากขึ้น และมีตกขาวข้นขาว เมื่อไปพบแพทย์ ก็จะได้รับยาฆ่าเชื้อมาอีก ยาฆ่าเชื้อก็ยิ่งไปเพิ่มการเสียสมดุลภายในขึ้น จนทำให้เกิด BV สลับกันไปมาไม่สิ้นสุด

การรักษาทางธรรมชาติที่ Jamison Starbuck , Naturopathic Doctor แนะนำแก่คนไข้ของเธอที่มีอาการเหล่านี้
- หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป ของหวาน น้ำตาล และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เพราะจะยิ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่าง
การอ่อนแอลงไปอีก และต้องจำกัดสิ่งเหล่านี้ต่อไปอีกอย่างน้อยอีก 1 เดือน หลังจากหายจากการติดเชื้อแล้ว
- ช่วงที่มีอาการ ใช้ Oregon grape root (Berberies aquifolium) ชนิดแคปซูลเหน็บช่องคลอด ก่อนนอน และใช้
Lactobacillus acidophilus ชนิดแคปซูล เหน็บช่องคลอดในตอนเช้า ติดต่อกัน 1 สัปดาห์
- ระยะหว่างการรักษา งดการร่วมเพศ เพื่อป้องกันการระคายเคีองต่อเนื้อเยื่อ
เมื่อ ทดลองแล้ว อาการต่าง ๆน่าจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง ให้เริ่มครั้งใหม่ต่อ สัปดาห์เว้นสัปดาห์ จบครบ 4 ครั้ง






การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ(Urinary Tract Infection : UTI) ส่วน มากเกิดจากการอยู่ผิดที่ของเชื้อแบคทีเรียเจ้าถิ่น ที่อาศัยอยู่บริเวณปากช่องคลอด และทวารหนัก เดินทางผ่านท่อปัสสาวะไปจนถึงกระเพาะปัสสาวะ สาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ การร่วมเพศ การติดเชื้อบริเวณช่องคลอด และภาวะขาดความชื้นเรื้อรังภายในช่องคลอด ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิด UTI

การ รักษา UTI แพทย์มักจะจ่ายยาปฏิชีวนะในระยะเริ่มแรกและเฉียบพลัน เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมาอีกโดย
- ดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตร
- รับประทาน Acidophilus bifidisชนิดเม็ด ที่ประกอบด้วยเชื้อแบคทีเรียที่มีชีวิต 3 billion ก่อนนอนทุกวัน
- ดื่มน้ำ cranberry ชนิดไม่หวาน วันละ 1 แก้ว หรือใช้ในรูปแคปซูลขนาด 900 มก cranberry extract แทน เพื่อช่วย เพิ่มความเป็นกรดในน้ำปัสสาวะ และลดการยึดเกาะของแบคทีเรียที่ผนังกระเพาะปัสสาวะ

ถุงซีสบริเวณทรวงอก และอาการระหว่างหรือหลังการมีรอบเดือน (Fibrocystic breasts and PMS) สาเหตุของอาการเหลานี้ นอกจากเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับอาหารที่รับประทานด้วย แพทย์ทางเลือก แนะนำว่า
- หลีกเลี่ยงกาแฟ และน้ำตาล
- ลดประมาณอาหารที่มีไขมันสูง และอาหารสำเร็จรูป อาหารที่มีสารปรุงแต่ง
- เพิ่มอาหารพวกถั่วต่าง ๆ ผัก ผลไม้ อาหารที่มีเส้นไย ให้มากขึ้น
- รับประทานวิตามินบี 6 ขนาด 50 มก . วิตามินอี ขนาด 400 หน่วยสากล และ flaxseed oil 300 มก หรือ
evening primrose ขนาด 1500 มก ทุกวัน เพื่อลดการอักเสบ
- สำหรับผู้มีอาการ PMS ร่วมด้วยเนื่องจากการลดระดับของฮอร์โมน progesteron ให้เพิ่ม Chasteberry
( Vitex agnus-castus) เพื่อกระตุ้นการผลิต progesteron
ขนาดที่ใช้คือVitex tincture 60 drops ผสมน้ำดื่ม ทุกวันรับประทาน 2 สัปดาห์ก่อนเริ่มมีรอบเดือน

            

 Top 

คุณไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อกระทู้นี้ได้