บางเมืองใหม่สัตวแพทย์
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน รายการสินค้า ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน
เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
หมวดสินค้า

สถิติร้านค้า
เปิดร้าน28/07/2011
อัพเดท10/03/2016
เป็นสมาชิกเมื่อ 15/05/2008
สถิติเข้าชม802570
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe




ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  27/35 หมู่9 ซอยมิตรไมตรี 27 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270
โทร.  0865559115,0844233028,023832808
Mail  bmm_vetclinic@hotmail.com
Search      Go

Home / Webboard

 รวมกระทู้  


 
โรคเบาหวานในสุนัข
 19/08/2011 19:50:38 น.
หมอปู  IP ผู้โพสต์ : 125.25.174.252
 
 

โรคเบาหวานในสุนัข
เป็นโรคซึ่งเกิดจากความผิดปรกติของต่อมไร้ท่อ เจ้าต่อมที่ว่าก็คือ กลุ่มเซลล์ในตับอ่อนที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่จะนำพาน้ำตาลกลูโคสหลังจากที่สัตว์ได้จากการกินอาหารเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ เพราะน้ำตาลกลูโคสเป็นสารให้พลังงานในการทำงานแก่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย ถ้าขาดอินซูลินแล้วระบบการสันดาปกลูโคสก็จะไม่เกิดขึ้น ทำให้น้ำตาลมีมากเกินในกระแสเลือดจนเกิดปัญหาไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย และที่สำคัญเมื่อมันมีมากจนไตไม่สามารถกรองไว้ได้ตามปรกติแล้ว จะทำให้เกิดน้ำตาลเล็ดลอดออกมาในน้ำปัสสาวะจนทำให้เกิดความหวาน






สาเหตุของการเกิดเบาหวาน โดยส่วนใหญ่การเกิดเบาหวานในสุนัขมีสาเหตุจากการขาดฮอร์โมนอินซูลินเป็นสำคัญ เหตุที่ร่างกายของสุนัขขาดฮอร์โมนดังกล่าวมีมากมายครับ และอาจมาจากหลายๆ ปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าเกิดจากตัวสัตว์เองที่มีความผิดปรกติในร่างกายซึ่งสร้างเซลล์ทำลายกลุ่มเซลล์ตับอ่อนของตนเอง สัตว์ป่วยเป็นตับอ่อนอักเสบ หรือเป็นเนื้องอกที่ตับอ่อน นอกจากนี้ในสุนัขตัวที่อ้วนนั้นทำประสิทธิภาพของอินซูลินลดลงจนเกิดปัญหาของการใช้กลูโคส ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในกระแสเลือดสูงและเกิดเป็นเบาหวานได้เช่นกัน ยังมีสาเหตุจากการใช้ยาชนิดที่มีผลทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูงต่อเนื่องนานๆ ก็ทำให้เกิดเบาหวานได้ เช่นว่า การใช้ยาเพื่อควบคุมการเป็นสัดของสุนัขเพศเมีย อย่างเช่นยากลุ่ม โปรเจสติน หรือแม้แต่ยากลุ่มสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่องนานๆ







สุนัขป่วยเป็นโรคเบาหวานมีอาการอย่างไร ? ข้อนี้ยากนะครับก็เพราะสุนัขไม่สามารถบอกหรือสื่อให้เจ้าของรู้ถึงความผิดปรกติของร่างกายได้ และถ้าเราเลี้ยงสุนัขแบบไม่ได้ใกล้ชิด เราอาจไม่ทันสังเกตุดูว่าเค้ามีอาการผิดปรกติไป ดังนั้นท่านใดเลี้ยงสุนัข แล้วสัตว์แสดงอาการออกมาให้เห็นคือ กินน้ำเยอะและปัสสาวะอยู่บ่อยๆ กินอาหารเก่งแต่น้ำหนักตัวกลับลด แล้วก็ผอมลงๆ อันนี้เข้าข่ายน่าสงสัยแล้วครับ และถ้ามีอาการผิดปรกติของระบบอื่นร่วม เช่น เกิดต้อกระจกที่แก้วตาของสุนัข เนื้อตัวกล้ามเนื้อเหยี่ยวๆ ขนและผิวหนังเริ่มสากแข็ง หรือบางตัวมีสะเก็ดมีแผลเรื้อรัง ยิ่งเข้าข่ายน่าสงสัยใหญ่






เมื่อตรวจแล้วและได้ข้อสรุปว่า สุนัขของท่านเป็นโรคเบาหวานแน่ๆ เสียแล้ว นาทีนี้ขอบอกเลยครับว่าเจ้าของนั้นถือเป็นผู้มีบทบาทที่สำคัญมากสำหรับการดูแลสุขภาพของสุนัขของท่าน เพราะเบาหวานรักษาได้
ถึงแม้ไม่หายขาด การให้ยาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องให้ทุกวันและต้องให้อย่างมีทักษะที่ดี ไม่เช่นนั้นแล้วสุนัขของท่านจะมีปัญหาในการดำรงชีวิตแน่ทีเดียว
การดูแลสุนัขที่ป่วยเป็นเบาหวานในระยะแรก ในระยะแรกสุดนั้นเป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์ที่ต้องทำการตรวจรักษาแก้ไขภาวะต่างๆ ที่ผิดปรกติไปในร่างกายของสุนัข ทั้งเรื่องความสมดุลของสารน้ำในร่างกายสัตว์ ความสมดุลของกรดด่างในกระแสเลือด และเมื่อได้แก้ไข และเริ่มให้อินซูลินรักษา และปรับระดับการให้อินซูลินจนเข้าที่ดีแล้ว ต่อจากนั้นล่ะครับเป็นหน้าที่ของเจ้าของผู้ต้องพาสุนัขกลับมาดูแลเองที่บ้าน





โรคเบาหวานในสุนัข การเกิดโรคเบหวานส่วนใหญ่มักพบในสุนัขอายุ 7 - 9 ปี โดยที่เพศเมียมีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าสุนัขเพศผู้ และพบว่ามีส่วนของพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนมากพบในพันธุ์คีชอนเด้น (Keeshonden) และโกลเด้น รีทริฟเวอร์ นอกจากนี้สุนัขพันธุ์อื่นก็มีแนวโน้มที่สามารถเป็นเบาหวานได้ เช่น พุดเดิ้ล ดัชชุน มิเนเจอร์ สเนาเซอร์ บีเกิ้ล เทอรืเรีย และมิเนเจอร์ พินซ์เจอร์

อาการ
1.
กินน้ำมาก
2.
ปัสสาวะมาก
3.
น้ำหนักตัวลด
4.
เบื่ออาหาร ในบางครั้งพบว่าสุนัขกินอาหารเก่งแต่ยังผอมน้ำหนักลด
5.
อาเจียน
6.
อาการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการพบว่าสุนัขมองไม่เห็น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเกิดต้อกระจกของตาทั้งสองข้าง

การรักษา
โรคเบาหวานไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาทำเพื่อกำจัดอาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น เบื่่ออาหาร อาเจียน เป็นต้น และทำให้สุนัขกลับมาใช้ชิวิตได้ตามปกติเท่านั้น

หากสัตว์เลี้ยงที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานไม่ได้รับการรักษา สัตว์ป่วยจะมีโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมา เช่น ดีซ่าน ตับอ่อนอักเสบ โรคไต รวมถึงภาวะขาดน้ำเนื่องจาก ร่างกายสูญเสียกลูโคส อิเลคโทรไลท์ เช่น โซเดียม และโปแทสเซียม จากการขับถ่ายปัสสาวะ ทำให้เลือดมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น เกิดความหนืด

และมีโอกาสเกิดการอุดตันในเส้นเลือดได้ สุดท้ายเมื่อร่างกายขาดน้ำในปริมาณมาก จะเกิดการล้มเหลวของระบบไหลเวียนเกิดการช็อคและตายได้ แต่ไสมารถบอกได้ว่าเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการดูแลของเจ้าของสัตว์

ข้อสังเกต
อีกอย่างในการจะดูว่าสุนัขมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานหรือเปล่า คือบางครั้งจะพบมดหรือแมลงมาตอมที่ฉี่ของสุนัข เป็นอีกอย่างที่เจ้าของจะสังเกตได้

การดูแล
เพราะฉะนั้นเจ้าของควรให้อาหารที่เหมาะสมแก่สุนัข ไม่ควรให้กินจนมากเกินไป ควรควบคุมน้ำหนักของสุนัข อย่าให้ขนมเขากินเยอะไป เพราะขนมส่วนมากมีน้ำตาลเยอะ ยิ่งขนมของคนแล้วยิ่งมีน้ำตาลเยอะกว่าของสุนัข ทำให้สุนัขของเราอ้วนมาก ควรให้เขาออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ






            

 Top 

คุณไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อกระทู้นี้ได้