กุุมารทองหลวงพ่อเต๋คงทองรุุ่นหนึ่ง
หลวงพ่อเต๋คงทองอดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสามง่ามอำเภอดอนตูมจังหวัดนครปฐมเรานี่เองสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นได้สร้างวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงขจรไกลเช่นตะกรุดหนังเสือกริ่งสวนเต่า ๆ ลๆ แต่ที่โด่งดังจริงๆ ก็เห็นจะเป็นกุมารทองเนื้อดินที่โด่งดังนอกจากประเทศไทยแล้วยังระบือไกลไปถึงประเทศS’Pore
ประสบประการณ์ของผู้ที่ได้ไปเช่าหาบูชาครอบครองนั้นเป็นที่กล่าวขานชนิดฝอยท่วมหลังช้างหลวงพ่อเต๋ท่านได้สร้างไว้ห้าหกรุ่น ซึ่งไม่นับรวมถึงของหลวงปู่แย้มลูกศิษย์ท่าน ซึ่งได้สร้างต่อกันมาอีกนับสิบรุ่น
ส่วนผสมที่สำคัญ
หลักๆ ก็มีดินเจ็ดโป่งเจ็ดป่าช้าเจ็ดท่าน้ำๆ ลๆ แล้วก็เถ้ากระดูกของคนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ซึ่งเป็นวันแข็งทั้งคู่แล้วนำมาปลุกเศกด้วยพระคาถาอาการสามสิบสองและหัวใจมนุษย์และเรียกธาตุุหนุุนธาตุทั้งสี่ๆ ลๆ สรุปแล้วปลุกขึ้นด้วยพระคาถาแล้วอาศัยธาตุทั้งสี่เป็นองค์ประกอบจึงไม่ให้โทษกับผู้เลี้ยงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่มีการผูกตรึงวิญญาณด้วยชาณโลกีย์เหมือนที่รียกว่าปลุกด้วย”คุุณผี”นั่นเอง
เนื้อหา,ลักษณะและสี
สมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างขึ้นมาถึงห้าหกรุุ่น กุมารรุ่นหนึ่งนั้นปั้นด้วยมือไว้ผมทรงมหาดไทยมือทั้งสองข้างจะแบออกและยกสูงระดับอกหูจะออกกางใหญ่เหมือนเด็กสมัยโบราณที่ฐานมีผ้าทิพย์ห้อยลงมาสร้างราวพ.ศ.2490เศษๆ เป็นเนื้อดินล้วนๆ ทั้งองค์และทาสีทองฉาบเอาไว้ แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านมาหลายสิบปีสีจะหลุดออกเห็นเป็นสีกระดำกระด่างสมอายุที่ฐานจะทาสีแดงออกจะตุ่นๆ เพราะกาลเวลาก้นจะกลวงลึกกเหมือนฐานของพระพุทธรูปและจะมีขี้เบ้าเป็นคราบสีขาวตุ่นๆ เคลือบอยู่เหนือสีเขียวแก่ที่ฉาบอยู่ใต้ฐานอีกทีส่วนเนื้อบริเวณฐานด้านนอกจะย่นตามอายุครับ ส่วนรุ่นสองนั้นจะใช้บล๊อคสร้างเป็นเด็กไว้ผมจุกดังนั้นเนื้อหาทั้งตัวจึงเรียบกว่า เพราะไม่มีรอยนิ้วมือมาบีบ แต่งให้เรียบ แต่เนื้อหาก็ยังเป็นดินล้วนๆ ส่วนรุ่นต่อๆ มาเมื่อส่วนผสมหายากเข้าจึงใช้ปูนเป็นหลักแล้วใช้ดินก้อนเท่าหัวแม่มือยัดตรงก้นเพื่อประหยัดส่วนผสมครับ แต่องค์ของผมที่โชว์เป็นวิทยาทานนี้เป็นรุ่นหนึ่งปั้นด้วยมือครับ
ขนาด
โดยสังเขปนั้นความกว้างตรงฐานประมาณสามนิ้วครึ่งส่วนหนาคือสองนิ้วครึ่งและสูงประมาณเจ็ดนิ้ว
ประสบประการณ์
นอกจากคนแถบนครปฐมนั้นแล้วยังรวมถึงชาวเมืองลอดช่องต่างก็เชื่อกันว่า ดีทางด้านเมตตาค้าขายเรียกลูกค้าเข้าร้านดีนักแล ส่วนประสบประการ์ณส่วนตัวนั้นส่วนมากจะมาให้เห็นในนิมิตรบอกเหตุการณ์ร้ายดีล่วงหน้าได้อย่างประหลาดแถมบางครั้งก็ทำเสียงตึงตังให้ผู้คนได้ยินเป็นเด็กวิ่งเล่นบนบ้านหรือไม่ก็ไปเข้าฝันขอกินขนมครับ
LP Teh's golden child of Sarmngarm (Trident) Temple, First Edition
LP Teh, erstwhile abbot of Sarmngarm (Trident) Temple in Narkornpathom Province, who passed away at the age of 90 years old on December 25, 1981. During his time, he had blessed his numerous sacred objects and the most well-known of them all was "Kumarnthong" or the golden child. Historically speaking, occultists or warlocks in ancient times either priests or laymen conjured up a child's spirit and bound that spirit to a child's fetus with powerful mantra. The child's remains were usually preserved by dehumidify over a pyre of sacred woods and later gilded the whole body that later became known as "Kumarnthong" or the "golden child" for its appearance. The practices were fortunately banned by city ordinances in modern times. To make a long story short, LP Teh created his first edition of "Kumarnthong" around 1947 onwards from ashes of child's remains especially those who died on Saturday and cremated on Tuesday and mixed them with other sacred ingredients such as salt lick, soil from seven cemeteries and other sacred ingredients and blessed with powerful mantra. Less powerful than the ancient version of "Kumarnthong", but LP Teh's "Kumarnthong" were still pretty potent and saught-after by local as well as foreign collectors from S'Pore, China, Taiwan and Malaysia alike due to supernatural experiences.