Phra Gallery (พระแกลเลอรี่)
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
สินค้าแนะนำ
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน09/04/2012
เป็นสมาชิกเมื่อ 17/02/2012
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe

ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  กรุงเทพมหานคร 10300
โทร.  0849299931
Mail  phragallery@gmail.com
Search      Go

Home / All Product List / รวมสุดยอดตระกรุดไทย (พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์)

รวมสุดยอดตระกรุดไทย (พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์)

รูปภาพประกอบทั้งหมด 1 รูป

รวมสุดยอดตระกรุดไทย (พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์)

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  03/06/2012
แก้ไขล่าสุด  :  05/06/2012
ราคา  สนใจติดต่อ 088-505-6554, 089-755-5565

หนังสือที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา เครื่องรางของขลัง จำพวก ตะกรุด ของพระสงฆ์ต่างๆ มากมาย

ภายในได้กล่าวถึงตะกรุดไทยมากมาย อาทิ ตะกรุดของหลวงพ่อมัน วัดบางคลาน, หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง, หลวงพ่อปาน วัดบาง--banned--, หลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส ฯลฯ ทั้งยังมีตะกรุดเก่าของวัดต่างๆ มากมาย

ทั้งนี้ภายในได้เล่มได้จัดพิมพ์รูปภาพตะกรุดต่างๆ ไว้โดยละเอียดทุกซอกมุม เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา สังเกต พิจารณา พร้อมคำบรรยายภาพ ชัดเจน

เก็บรวบรวมข้อมูลมานาน 3 ปี กระทั่งปีนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หนังสือ "รวมสุดยอดตะกรุดไทย" จึงตีพิมพ์ปรากฏเป็นรูปเล่ม

มีความหนา 210 หน้า บรรจุภาพตะกรุดของ วัดต่างๆ บันทึกภาพอย่างคมชัด และพิมพ์ลงกระดาษอาร์ตมันสี่สีสวยสด

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เขียนคำนำไว้ในหนังสือว่า "ผมจัดทำหนังสือตะกรุดเล่มนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาว่า พระสงฆ์ที่ประชาชนนับถือมากๆ นั้น บางท่านไม่ได้มอบพระเครื่องให้ประชาชนเท่านั้น แต่ท่านยังได้ทำตะกรุดโดยลงลายมือของท่านเอง เป็นคาถาป้องกันภัยให้กับประชาชน ผมได้พยายามหาตะกรุดของพระสงฆ์ แต่ละท่าน จากบุคคลต่างๆ ที่เชื่อถือได้มาเปรียบเทียบ จนได้ข้อสรุปว่า พระสงฆ์ แต่ละท่านมีเอกลักษณ์ในการทำตะกรุดอย่างไร จึงทำหนังสือเล่มนี้แจกจ่ายให้โดยไม่ขอรับค่าตอบแทน ความดีทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้ ผมขอมอบให้พลตำรวจโท เสมอ ดามาพงศ์ คุณพ่อของผม"

ในวันที่พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มาเยี่ยมเยียนคณะผู้บริหารที่บริษัทมติชน ยังเล่าถึงที่มาของตะกรุดในหนังสือเล่มนี้ว่า ไม่ใช่ของตนเองทั้งหมด หากรวมกับตะกรุดของบุคคลที่รู้จัก โดยอาศัยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เชื่อถือได้ใน แต่ละจังหวัดมาเทียบดูให้แน่ชัดว่า เป็นของแท้

เช่น ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ในเล่มนี้มีของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักแสดง-ผู้กำกับฯ ชื่อดัง มีส่วนผสมไม่เหมือนใคร เช่น มีทองแดง แผ่นตะกั่ว ตรงที่เห็นเป็นสีขาวนั้นปรากฏว่า เป็นหนังกวางพันอยู่

หรือ ตะกรุดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ ไปบันทึกภาพมาจากหลายคน เป็นโลหะผสมเงินกึ่งอัลปาก้า มีลักษณะเหลือบๆ หรือตะกรุดหลวงพ่อกุน วัดพระนอน จังหวัดเพชรบุรี ต้องคลี่ดูจึงจะเห็นภาพและอักขระ

ผบ.ตร.เล่าว่า สนใจสะสมพระเครื่องก่อน เริ่มจากพระกรุของลพบุรี ตั้ง แต่สมัยเป็นรองผู้การ เมื่อเริ่มมีมากใส่ห้อยคอแล้วไม่สะดวกเนื่องจากมีน้ำหนักมาก จึงเปลี่ยนมาเป็นพระโลหะ อย่างที่ห้อยคออยู่ทุกวันนี้ ได้แก่ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อไปล่ และ หลวงพ่อทวด

ในการสะสมนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ไม่ได้เน้นว่า ต้องให้ครบเบญจภาคี สะสมเฉพาะที่ชอบ ถ้ารูปร่างไม่ถูกใจก็ไม่ได้เก็บ ส่วนใหญ่จะชอบแนวอยู่ยงคงกระพัน จึงสะสมตะกรุดด้วย โดยมีที่ปรึกษาหลายคนคอยแนะนำ

สำหรับหนังสือเล่มนี้กว่าจะทำเสร็จได้อาศัยที่ปรึกษาหลายคนเช่นกัน พอทำเสร็จก็ดีใจ คิดว่า จะเป็นของแจกในปีใหม่

ตะกรุด เป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่ผูกพันกับคติความเชื่อในสังคมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในการรบทัพจับศึกเข้าสู่สนามรณรงค์สงคราม ตะกรุดจะติดตัวติดตามแบบไปไหนไปด้วยช่วยกันรบ

ตะกรุด โดยทั่วไปมักจะหมายถึง การนำโลหะแผ่น บางๆ อาจจะเป็นทองคำ เงิน นาก ตะกั่ว หรือโลหะธาตุผสมอื่นๆ มาลงอักขระเลขยันต์โดยโบราณาจารย์ ซึ่งจะใช้เหล็กจารเขียนพระคาถาผูกขึ้นเป็นมงคล ก่อนที่จะม้วนให้เป็นแท่งกลมโดยมีช่องว่างตรงแกนกลางสำหรับร้อยเชือกติดตัว หรืออาจจะถักด้วยเชือก หญ้า หรือด้ายมงคล แล้วนำไปจุ่มหรือชุบรัก ก่อนร้อยเชือก ตามกรรมวิธีของ แต่ละคณาจารย์

บรรดาพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ นิยมสร้างตะกรุดและเครื่องรางของขลังต่างๆ เพื่อป้องกันภยันตรายต่างๆ และเสริมส่งดวงชะตาราศีให้กับศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั่วไปมาตั้ง แต่อดีตมาจนถึงยุคปัจจุบัน ความเชื่อถือและความยึดมั่นในพุทธานุภาพแห่งเครื่องรางของขลังนั้นยังคงไม่เสื่อมถอยลง

ในยุคปัจจุบัน ตะกรุดยังคงเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลายในลักษณะเครื่องยึดเหนี่ยว เครื่องป้องกัน เพื่อความอุ่นใจและเป็นการสร้างเสริมกำลังใจแก่ตนและครอบครัว

ประวัติของพระที่จัดทำตะกรุดในหนังสือเล่มนี้ ได้แก่ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน จ.พิจิตร

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2351 ตรงกับวันศุกร์ เดือน 10 ปีมะโรง ปีพ.ศ.2356

อายุได้ 5 ขวบ นายช่วง ซึ่งเป็นครูของท่านพาไปอยู่กรุงเทพฯ วัดตองปุ (วัดชนะสงคราม) เพื่อศึกษาเล่าเรียน จนอายุ 12 ปี บรรพชาและอุปสมบทในเวลา ต่อมาที่วัดชนะสงคราม

เป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมสมัยกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งครั้งหนึ่ง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ "เสด็จเตี่ย" สอบถามจากหลวงปู่ศุข หลังจากศึกษาวิชาสำเร็จว่า พระรูปใดที่จะไปขอเรียนวิชาเพิ่มได้ ซึ่งหลวงปู่ศุขก็แนะนำให้ไปเรียนกับหลวงพ่อเงิน

วัตถุมงคลของหลวงพ่อเงินขึ้นชื่อมาก ประเภทรูปหล่อลอยองค์ แบ่งเป็น 2 พิมพ์ใหญ่ๆ คือ "พิมพ์นิยม หรือพิมพ์เบ้าทุบ"

ปัจจุบันรูปหล่อหลวงพ่อเงินลอยองค์พิมพ์ขี้ตา วงการนิยมแยกออกเป็น 3 พิมพ์หลัก ตามจำนวนของเส้นจีวรบริเวณแขนซ้ายขององค์พระคือ พิมพ์ขี้ตาสามชาย พิมพ์ขี้ตาสี่ชาย และพิมพ์ขี้ตาห้าชาย นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องรางของขลังประเภทตะกรุด

สําหรับ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี เกิดในรัชกาลที่ 2 เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2359 เป็นบุตรนายนาค-นางจันทร์ อยู่ที่ ต.บานแหลมใหญ่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อ พ.ศ.2381 อายุท่านได้ 22 ปี อุปสมบทที่วัดบ่อ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากบวชแล้วย้ายจำพรรษาอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี ซึ่งในขณะนั้นมีพระพิมลธรรม เป็นเจ้าอาวาส

ศึกษาพระปริยัติธรรม แปลพระธรรมบทอยู่ที่วัดนี้อยู่ได้ถึง 7 พรรษา จึงย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดประยุรวงศาวาส ปีพ.ศ.2391 ถึงปีพ.ศ.2396

ญาติโยมพร้อมด้วยชาวบ้านภูมิลำเนาเดิมในคลองแหลมใหญ่ (ซึ่งปัจจุบันนี้คือคลองพระอุดม) จ.นนทบุรี เดินทางมาอาราธนานิมนต์หลวงปู่เอี่ยม กลับไปปกครองวัดสว่างอารมณ์ หรือวัดสะพานสูง มรณภาพเมื่อปีพ.ศ.2439 สิริอายุ 80 ปี พรรษา 59

หลวงปู่เอี่ยมเป็นพระผู้มีอาคมขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มักน้อย ถือสันโดษ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวบ้านและเจ้านายผู้ใหญ่ในพระนครนับถือท่านมาก

หลวงปู่ภู จันทสโร วัดอินทรวิหาร กรุงเทพมหา นคร สืบสานตำนานการสร้าง "พระพิมพ์สมเด็จ" มาจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ผู้เป็นพระอาจารย์อย่างครบสูตร ส่งผลทำให้พระพิมพ์สมเด็จของท่านได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก

โดยเฉพาะ "พระสมเด็จหลวงปู่ภู" พิมพ์แซยิดแขนหักศอก ปัจจุบันสนนราคาเล่นหาสูงถึงหลักแสน

ท่านเกิดที่หมู่บ้านวังหิน อ.เมือง จ.ตาก ตรงกับปีขาล พ.ศ.2373 บิดาชื่อ นายคง มารดาชื่อนางอยู่ พออายุ 9 ขวบ บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดท่าคอย ศึกษาเล่าเรียนอักขรสมัย (ภาษาขอม) และหนังสือไทยกับท่านอาจารย์วัดท่าแค กระทั่งอายุ 21 ปี เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดท่าคอย มีพระอาจารย์อ้น เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์คำ วัดท่าแค เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มา วัดน้ำหัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ท่านเป็นพระเถระที่ยึดการธุดงควัตร สมัยที่ยังแข็งแรง พอออกพรรษาท่านจะออกรุกขมูลมิได้ขาด โดยร่วมธุดงค์ไปกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) และหลวงปู่ใหญ่

มรณภาพเมื่อวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2476 สิริอายุ 104 ปี พรรษา 83

พระเครื่องและวัตถุมงคลที่หลวงปู่ภูสร้างไว้มีหลายแบบด้วยกัน ประเภทเครื่องราง มีตะกรุด ผ้ายันต์ ยันต์ธงนกคุ้มกันไฟ และไม้เท้าครู ซึ่งหายากมาก เพราะสร้างน้อย

สําหรับ หลวงพ่อปาน อัคคปัญโญ วัดมงคลโคธาวาส (วัดบาง--banned--) จ.สมุทรปราการ เป็นชาวคลองด่านโดยกำเนิด เกิดเมื่อประมาณปีพ.ศ.2368

โยมบิดาชื่อนายจีนหนู โยมมารดาชื่อตาล มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ในวัยเด็กพ่อแม่ไปฝากเรียนที่สำนักวัดแจ้ง หรือวัดอรุณราชวราราม พออายุครบบวช เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดแจ้ง มีพระศรีศากยมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชแล้วศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดแจ้งอยู่หลายปี รวมทั้งวิชากัมมัฏฐานด้วย

ท่านเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เคร่งครัดพระธรรมวินัยยิ่งนัก และชอบศึกษาไสยเวทวิทยาคม และสิ่งสำคัญชอบออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรอยู่เสมอ

หลวงพ่อปานละสังขารด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2453 สิริอายุ 85 ปี

เครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อปานนิยมมอบให้ลูกศิษย์ลูกหาส่วนใหญ่จึงเป็น "เขี้ยวเสือ" เพราะท่านให้ความเห็นว่า เสือเป็นสัตว์ที่ฉลาด ว่องไว เฉียบขาด มีตบะเดช และอำนาจ สามารถสะกดสัตว์อื่นให้อยู่ภายใต้อำนาจได้

ตามความเชื่อของคนโบราณนั้น เขี้ยวเสือถือเป็นสิ่งมงคลสิทธิ์ ซึ่งมีอานุภาพอยู่ในตัวเอง แม้จะไม่ผ่านพิธีปลุกเสกก็ตาม ยิ่งถ้าได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคม ก็ยิ่งทวีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ปัจจุบันเขี้ยวเสือหลวงพ่อปานมีราคาเล่นหาสูง ของแท้นับวันจะหายาก

รวมถึงเครื่องรางของขลังประเภทตะกรุดด้วย
(ข้อมูลจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEV5TVRJMU5BPT0=§ionid=
TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNaTB4TWc9PQ==)

ภายในได้กล่าวถึงตะกรุดไทยมากมาย อาทิ ตะกรุดของหลวงพ่อมัน วัดบางคลาน, หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง, หลวงพ่อปาน, หลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส ฯลฯ ทั้งยังมีตะกรุดเก่าของวัดต่างๆ มากมาย

ทั้งนี้ภายในได้เล่มได้จัดพิมพ์รูปภาพตะกรุดต่างๆ ไว้โดยละเอียดทุกซอกมุม เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา สังเกต พิจารณา พร้อมคำบรรยายภาพ ชัดเจน

หนังสือรวมสุดยอดตะกรุดนี้นับได้ว่า เป็นหนังสือที่รวบรวมตะกรุดต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย ในรูปเล่มที่สวยงาม เหมาะแก่การศึกษาค้นคว้า

หนังสือมีสภาพสุดสมบูรณ์
หน้าปกเป็นปกแข็ง
ภายในเป็นกระดาษอาร์ตมันอย่างดี พิมพ์สี่สีตลอดทั้งเล่ม

สนใจติดต่อ 088-505-6554, 089-755-5565
E-mail: rarebooks.store@gmail.com
Website: http://www.pantipmarket.com/mall/rarebooksstore/
Facebook: http://www.facebook.com/pages/RareBooks-Store-ร้านหนังสือหายาก/305195526209095

แนะนำร้าน พระแกลเลอรี่ (Phra Gallery) จำหน่าย พระเครื่อง พระบูชา ของโบราณ
Website: http://www.phra-gallery.com/th/index.php หรือ http://www.pantipmarket.com/mall/phragallery/
Facebook: http://www.facebook.com/PhraGalleryThailand

 เขียนความคิดเห็น
เลือกหมวดแสดง :
ชื่อ :    เจ้าของร้าน
Email :    ส่ง Email เมื่อมีคนตอบความคิดเห็น
แนบไฟล์ :
Security Code :