การล้างรถที่ถูกวิธี
1. ฉีดน้ำให้แรงที่สุด เพื่อให้คราบฝุ่น ขี้ดิน หลุดออกจากตัวรถให้มากที่สุด
2. ควรล้างด้วยน้ำสะอาดหรือล้างด้วยแชมพู
3. ควรล้างรถจากส่วนบน ลงล่าง โดยการใช้ผ้านุ่ม เช่นผ้าสำลี ซึ่งควรนำมาแช่น้ำไว้สัก 3 คืน และถ้าใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ยิ่งดีครับและนำมาซักล้างตากจนแห้งแล้วนำไปเก็บเพื่อใช้ล้างรถการล้างรถนั้น ขอแนะนำให้แบ่งผ้าออกเป็น 2 ผืนผืนแรกใช้สำหรับล้างส่วนบนของรถทั้งหมดผืนที่สองใช้สำหรับล้างส่วนด้านล่างของตัวรถทั้งหมด
* เหตุผลที่ต้องแยกเนื่องจาก โดยทั่วไปส่วนบนของรถจะมีฝุ่นน้อย ในขณะที่ด้านส่วนล่างของรถมีฝุ่นมาก *
4. ฉีดน้ำไล่แชมพูออกให้หมด
5. อย่าล้างรถกลางแดด เพราะแดดจะทำให้น้ำบนรถแห้งเร็ว และเกิดคราบน้ำขึ้น
การล้างรถโดยใช้ถังใส่น้ำล้าง
1. การล้างรถแบบนี้ ควรจะเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ มิฉะนั้น สิ่งสกปรกที่ผสมอยู่ในน้ำ อาจทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วยบนรถได้(วิธีการนี้ ไม่แนะนำให้ทำ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องหมั่นซักผ้าและเปลี่ยนน้ำ)
ข้อควรระวังในการล้างรถ
1. ไม่ควรล้างรถตอนเย็นด้วยตนเอง เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้อาจทำให้เกิดสนิม ในบางจุดที่เราเช็ดไม่แห้งหรือไม่สามารถเช็ดแห้งได้ยกเว้นแต่จะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้งหรือจะขับรถต่อไปเป็นระยะทางไกล ลมจะช่วยให้ทุกซอยทุกมุม แห้งสนิท
2. ไม่ควรล้างรถกลางแดด เนื่องจากแสงแดด จะทำให้น้ำแห้งเร็ว และทำให้เกิดคราบน้ำบนสีรถขึ้น
การเช็ดรถที่ถูกวิธี
1. ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์ในการเช็ดรถ เนื่องจากผ้าเหล่านี้จะไม่ทำให้รถเป็นรอย แต่ถ้าผ้าชามัวร์แท้ ควรจะระวังเวลาที่ผ้าชามัวร์แห้งสนิทจะแข็งตัว และเมื่อจะทำมาเช็ดรถ ก็ควรจะนำผ้าชามัวร์นั้น จุ่มน้ำให้เปียกจริงๆ ทั้งผืนก่อนเช็ดรถ เพราะถ้าไม่เปียกทั้งผืน แสดงว่ายังมีส่วนที่ยังไม่โดนน้ำที่ยังแข็งอยุ่ ซึ่งอาจทำให้สีรถเป็นรอยได้ง่าย
2. การเช็ดรถนั้น ควรเช็ดตั้งแต่แผงบนก่อน เพื่อให้น้ำหยดลงด้านล่างให้หมดก่อน ไล่ลงมาด้านล่างของรถ จะได้ไม่ต้องทำงานสองต่อไงครับและควรเช็ดหยดน้ำออกให้หมดเพื่อไม่ให้เกิด สนิมและคราบ
* คำเตือน หากปล่อยให้รถแห้งเองจะเกิดเป็นคราบหยดน้ำและ บางจุดที่น้ำขังอาจทำให้เกิดสนิม *
การดูแลรักษาสีรถ โดยวิธีการเคลือบสีรถด้วยตนเอง
1. ล้างรถให้สะอาด ตามวิธีการข้างต้น
2. เช็ดรถให้น้ำหมาด ๆ
3. เทน้ำยาเคลือบสี ลงบนผ้านุ่ม ขอเน้นว่าผ้านุ่มนะครับ ที่มีน้ำหมาด ๆ
4. เช็ดบนตัวรถ โดยวนเป็นก้นหอย ให้ทั่วบริเวณตัวรถ
5. ทิ้งน้ำยาไว้ตามระยะเวลาที่รถบุไว้ข้างกระป๋อง เพราะแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกันครับ (ถ้าเป็นของคาร์แลค 68 จะทิ้งน้ำยาไว้ประมาณ 30 นาที)แต่บางยี่ห้อเคลือบเสร็จเช็ดออกเลยก็มี เพราะถ้าปล่อยไว้นาน จะทำให้หนืดเช็ดยาก
6. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้านุ่ม เช็ดน้ำยาออกให้หมดทั่วตัวรถ
การที่เรานำสิ่งสกปรกฝังแน่นที่อยู่บนหน้าแลคเกอร์ของสีรถออกไป คือทำให้รถมันมีประกายดัวยตัวของแลคเกอร์รถที่แท้จริง เมื่อรถไม่มีคราบแล้ว เราก็ปกป้องความใส สวยของผิวสีรถนั้น ด้วยการเคลือบสี ทับลงไป ซึ่งจะทำให้รถมีความเงางาม ใส ไม่มีคราบสกปรกฝังอยู่แต่อย่างใด รถจะสวย ใสอยู่ตลอดเวลา ผิวสีรถจะลื่น น้ำไม่เกาะและฝุ่นไม่เกาะ รถไม่หมองนอกจากจะให้ความสวย ใส เงา งามของรถ แล้ว ยังให้การปกป้องผิวสีรถจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ แสงแดด ยางมะตอย ริ้วรอย มูลนก ยางไม้ และมลภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้สีรถเสียหายได้อีกด้วยครับ
++++ www.facebook.com/mocyc2hand.ram68 ++++
++++ www.pantipmarket.com/mall/mocyc2handram68 ++++
Line ID : vander_decken
เบอร์ : 086-343-5909 , 02-376-2148
ดูรถได้ทุกวัน 6:00-24:00 น. (รามคำแหง68)