Review: Visang R02 - หูฟังหลักพัน เทียบชั้นเครื่องเสียงหรู

ช่วงนี้ข้างๆ ออฟฟิตของผมดังมาก ซ้อมดนตรี เลยต้องหาหูฟังที่ป้องกันเสียงดีๆ หน่อย นั่นคือ หูฟังประเภท Inear คือ สอดเข้าไปในรูหู ที่มือถือรุ่นใหม่ๆ ชอบแถมนักแถมหนานั่นแหละ ในตอนแรกก็ใช้ PL50 ซึ่งเป็นหูฟังที่ดีอยู่แล้วแหละ แต่เสียงกลางมากเกินไป และคมไปนิด ไม่ชอบ (ก็คือหาเรื่องซื้อใหม่นั้นแหละ) ประกอบกับในอินเทอร์เน็ตมีกระแสของหูฟัง Visang เรียกกันว่า ไวแสง จะดีขนาดไหนก็อยู่ในมือทีม TechXcite.com แล้วครับ

ด้วยชื่อชั้นที่ไม่ได้เด่นมากในวงการ หรือจะเรียกโนเนมก็ว่าได้ (จริงๆ อาจจะเป็นบริษัท OEM ของ Visonic) แต่ด้วยกระแสโปรโมทของเว็บเหลือง ทีมงานก็ทนไม่ได้ ต้องขอไปลอง ตอนที่ไปลองผมก็ได้ทำ E888 พังไป ไม่รู้จะหารุ่นไหนมาทดแทน (เลิกผลิต) ไปลอง Visang R02 นี่แหละ เห็นทางสว่างทันที ลักษณะเสียงโดยรวมของหูฟังนี้ คล้าย E888 + PK2 เพราะให้สเตจที่กว้างระดับหนึ่ง ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อกับหูฟังชนิด Inear และมี Detail ของเสียงที่ค่อนข้างละเอียดมากๆ เหมือนกับ E888 ที่เบิร์นมาสัก 500 ชั่วโมงอะไรประมาณนั้นเลย ไม่อยากจะบอกว่าใกล้เคียง MS-1 (แต่เนื้อเสียงก็ยังคงสู้ไม่ได้ครับ) พอเถอะเดี๋ยวเวอร์เกิน

กล่องเป็นไง ทำมาดี สมราคา 1250 บ. ที่ท่านจ่ายไปแน่นอน

ให้อะไรบ้าง นอกจากล่องหล่อๆ แล้ว ก็ให้จุกหูฟัง 3 ขนาด ทรงเจดีย์ 1 และที่หนีบเหมือนหูฟังคลองถม ที่เด็ดคือ กล้องใส่หูฟังสำหรับคนที่ถนอมของ ซึ่งไม่ใช่ผม ผมใช้ๆ จับอัดๆ กันในกระเป๋ายีนส์ ของเหล่านี้ไม่มีความจำเป็น

จุกแต่ละแบบผมก็ยังไม่ได้ลองมาก แต่ทรงเจดีย์นั้นงานไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ จุกโฟม คล้าย PL50 เสียเหลือเกิน (เสียงน่าจะออกมาไม่สวยงามแน่ๆ) สรุปให้มาซะเยอะ ผมพอใจจุกแรกที่ติดหูฟังมาเลยมากที่สุดครับ R02 นั้นให้ความประทับใจครั้งแรกที่ฟังทันทีครับ ไม่เหมือน PL50 ที่เลือกเพลงเป็นว่าเล่น สาย ลืมพูด เป็นสายแบบเกลียวดูเหมือนเครื่องเสียงรถ แต่ในแง่หูฟังดูโบราณไปหน่อย แต่เค้าคงมีเหตุผล อย่างน้อยในด้านความแข็งแรง ก็ยังดีกว่า E888 ที่ลุกจากโต๊ะปุ๊บ ขาด เซ็งกันไป แต่ข้อต่อต่างๆ ของ R02 ก็แข็งแรงระดับนึงครับ ต้องถนอมแต่คงไม่เท่ากับ Raptor ในสมัยก่อนขนาดนั้น

กล่องใส่หูฟังดูสร้างมูลค่าดีครับ น่าจะเก็บ iPod Shuffle ได้พร้อมๆ กับหูฟัง

หน้าตาเหมือนกับ Visonic Raptor ในอดีตมากๆ ครับ เปิดมาที่ราคาหลักพันเหมือนเดิม ตัวถังเดิมแต่เปลี่ยนไดรเวอร์ใหม่แน่ๆ เพราะเสียงนั้นคนละโทนกับ Raptor และ Raptor II เลย

พูดมาซะเยอะ ไม่อยากอ่านกันแล้วแน่ๆ จริงๆ ร้านเหลืองเค้าก็รีวิวเสียงไว้บ้างแล้วหล่ะ เอาในทรรศนะผมบ้างก็แล้วกัน พันกว่าบาททำไมต้องซื้อมาแทน PL50 ขนาดนั้น

- สเตจที่เป็นรูป จับทิศทางได้ง่าย (สำหรับเพลงอย่างเดียวนะครับ เพราะถ้าเป็นภาพยนตร์แยกเสียงไม่ดีนัก)

- ให้ความพริ้ว และความเป็น Musical สูงมาก

- Detail และรายละเอียดต่างๆ ดี

- เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นจะเล่นหูฟัง เพราะง่ายต่อการเข้าถึงสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสเตจ ชิ้นดนตรี หรือจะเอาไว้แกะเพลงก็ดีเลยครับ

- เก็บเสียงได้ดีระดับหนึ่งทีเดียว

- บาลานซ์ของเสียง ถือว่าดีมาก เหมือนฟังลำโพงเครื่องเสียงดีๆ เสียงบาดแทบจะเห็นได้น้อยเพลงครับ ซื้อปุ๊บ แผ่นเพลง Jazz ตรูอยู่ไหน

ข้อเสียล่ะมีไม๊ ต้องมีเป็นธรรมดาครับ เอาเท่าที่พอสรุปได้ มีดังนี้

- เบสหัวโน็ตชัดมาก แต่ Deep เบสยังโผล่มาไม่ชัดเจน

- วัสดุทำหูฟังที่อาจจะซ้ำรอย Raptor

- ฟัง Movie แยกรายละเอียดไม่ดี ไม่สะใจ ไม่ใช่ทางแน่นอน

- ใครที่ติดหูฟังที่คัลเลอร์มากๆ เจอตัวนี้จะรู้สึกว่าจืดไป แค่นี้แหละครับข้อเสีย

ต่อกับสินค้า Apple เป็นยังไง เสียงที่ได้ก็จะยิ่งพากันแฟลตครับ แนะนำให้เปิด Sound Check แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นครับ ดีเทส สเตจ เยี่ยมขึ้นเยอะมากๆ

จับคู่กับเครื่องที่ Color จัดๆ อย่าง Sony บระเจ้า เครื่องเสียงชัั้นดีเลยครับ ออกครบทุกย่านชัดเจน ถ้า Deep เบสไม่มาแนะนำเอาไปต่อกับ Sony มาแบบเต็มๆ แถมเสียงสูงยังจะพริ้วได้อีกเยอะ แต่เรื่องความสะดวกผมก็ต้องพก iPod เหมือนเดิมครับ แต่สำหรับ Sony ถือว่าเข้าขากันเป็นอย่างมากทีเดียว

สรุปราคา 1250 ใช้ได้ไม๊ ยิ่งกว่าดีครับ เป็น Inear แบบ Listening Music ที่ดี จะด้อยกว่าก็มี Monster Beat ซึ่งราคาต่างกันเกือบๆ 5 เท่าเลย และเทียบกับ PL50 แล้ว ความคมชัดของแต่ละย่านเสียงยังสู้ PL50 ไม่ได้เพราะ PL50 นั้นคมชัดมาก บางทีผมก็ว่ามากเกินไป สำหรับ Visang R02 นั้นทุกอย่างจะดูพอดีๆ ในราคาแบบพอเพียง แต่เสียงนั้นดีเทียบชั้นเครื่องเสียงหรูๆ ได้เลยครับ ไว้พบกันใหม่กับรีวิวสนุกๆ แบบนี้อีกครับ จาก TechXcite.com

อยากได้สเปคก็จัดกันไป ต้องนั่งแปลจีนกันเลยทีเดียว - -

**ที่มา