รีวิว Bose On Ear AAA++

หมายเหตุ : เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ ^^

ลักษณะภายนอก

ตอนแรกบอกว่าเป็นของก๊อบ ผมก็ถอดใจไปครึ่งหนึ่งละ (มันคงจะกากๆแบบหูก๊อบที่เคยใช้มา) แต่ผมก็ต้องกลับมาคิดใหม่ทันที เจ้ยยยยย นี่มันของก๊อบ(จริงหรือว่ะ??) งานคุณภาพดีมากๆครับ เอกสงเอกสารใบรับรองมีมาให้ครบหมด (จะมีมาทำไม ?) คู่มือการใช้งานมีถึง 13 ภาษารวมภาษาไทยด้วยนะครับ ผมคิดว่าน่าจะมาจากโรงงานต้นฉบับแน่นอน ทำให้ขณะรีวิวนี้ต้องเปิดๆ ปิดๆ ดูเว็บของแท้ที่ราคาต้องแลกมากับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกหลายๆๆๆลัง ไปด้วยพรางๆเพื่อความมั่นใจ
จากกล่อง Hard Case สีดำ ที่แข็งแรง มีร่องบากไว้อย่างพอดี จากจุดนี้จะทำให้ muff คงรูปอยู่ได้ไปอีกนานแสนนาน สายให้ความยาวมีสองขนาดคือ แบบสั้น( 40 ซม) และยาว (110 ซม) และสายทั้งสองยังเอามาต่อกันให้ยาว 150 ซม ได้เลยทีเดียว ซึ่งทำให้ตัดปัญหาขนาดสายที่ไม่พอดีออกไปได้ หรือนักโมดิฟาย อาจจะคันไปหาสายมาใหม่ ก็ทำให้แนวเสียงเปลี่ยนไปตามความชอบได้ มาดูที่ตัวหูฟังบ้างครับ เรียบเนียนไม่มีที่ติ จากพลาสติกเกรดเอ ทำให้มีความแข็งแรง และน้ำหนักเบาครับ ใส่นานๆใส่หลับ ใส่นอน ไม่มีปัญหา (อย่านอนทับก็แล้วกัน) บริเวณ Head Band เป็นโครงอลูมิเนียมแข็งแรงทนทานหุ้มด้วยฟ้องน้ำ ผ้า และหนังเทียมอย่างสวยงาม สามารถเลื่อนปรับได้ 8 ระดับเสริมสร้างความมีระดับแก่ผู้ใช้เป็นอย่างยิ่ง
จุดขายอีกประการคือ Ear Cup ครับ ที่ออกแบบให้เข้ากับใบหูโดยทำเป็นรูปวงรี วัสดุที่ผลิต Muff มีความนุ่มสบายไม่หวั่นแม้วันมามาก พร้อมมีรูระบายตรงกลาง เพื่อเสียงแบบฉบับของยี่ห้อนี้ ใส่แล้วจะพบอาการ ?ดูดหู? ครับ ถึงแม้จะไม่มีระบบ noise canceling แต่ก็ตัดเสียงภายนอกออกไปได้เยอะมาก เพื่อให้ได้รับสุนทรียภาพจากการฟังเพลงไปอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงเปลี่ยนถ่านให้หูฟังอีกต่อไป สำหรับด้านหน้าและข้างๆหูฟัง จะมีรูครับ ตอนแรกก็สงสัยว่ามีทำไม ทำไมต้องมี และมีจริงหรือเปล่า ?? รูพวกนี้เอาไว้สร้าง Deep Bass ครับ เพื่อความสุขุม นุ่ม ลึกกกกกกกกก ของเบส ที่ผมรับรองว่าไม่สามารถหาได้นักตามหูฟังท้องตลาดทั่วไป สามารถลองได้ง่ายๆครับ โดยเปิดเพลงมาสักเพลง ฟังไปซักพัก แล้วลองหลับตา ปิดๆเปิดๆรู(หูฟัง) พวกนี้ดูครับ ก็จะร้อง ฮู้หู เลยทีเดียว จุดนี้ต้องนับถือเลยครับ ก๊อบมายังได้ขนาดนี้ ถ้าของจริงจะได้ขนาดไหนนนน
จุดสังเกตอย่างหนึ่งคือ ด้านในของ Head Band ติดกับหูฟังด้านขวา จะมีการปั๊มตรายี่ห้อ และบอกไว้ชัดเจนว่า คิดค้นเป็นของอเมริกา แต่ผลิตโดยพี่จีน ผมคิดว่าจุดนี้แหล่ะครับที่มันน่าจะต่างกับของแท้ ซึ่งผมดูจากรูปแล้วตราปั๊มควรจะอยู่ด้านซ้ายแทนนั่นเอง และอีกประการบริเวณข้อต่อจากหูฟังที่ใช้เสียบกับสายเพิ่มความยาว จะแตกต่างกันเล็กน้อยกับของแท้ครับ

แนวเสียง

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ Source: Lossless file + Foobar 2000 + Asio4All

แรกเริ่มใช้งาน ผมลองด้วยเพลงพวก Audiophile โดยเปิดผ่าน Foobar 2000 + Asio4All นะครับ เสียงจากหูฟังตัวนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากครับ มันมีความเป็นหูฟังผู้ดีอยู่ภายใน เบสมีชาติตระกูล นุ่มละมุน อุ่นๆ และสามารถลงลึกได้ในระดับหนึ่ง มิติมีความโอบล้อม เวทีเสียงที่กว้างพอสมควร แต่จะบอกว่าเครื่องดนตรีไหน วางตรงไหน***งไปกี่ก้าว สำหรับหูผมแยกไม่ออกครับ 555 เสียงแหลมตอนยังไม่ได้เบิร์นยังมีความใส ไปได้ไกล แต่ปลายสากๆหน่อย คงต้องเบิร์นไปซักระยะ รายละเอียดกรุ้งกริ้งดีมากครับ สำหรับเสียงกลางและเสียงร้องจะถอยมานิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ทำให้เสียอรรถรสของการฟัง เพราะเสียงที่เป็น base note จะมารองรับเสียงกลางอีกที และด้วยความเป็นหูฟังแบบ semi-open ทำให้มันค่อนข้างสมดุล และครอบคลุมของแนวเพลงที่ฟังได้หลายแนว ที่สำคัญ เป็นหูฟังที่ไม่ต้องพึ่ง amp ครับ player ธรรมดา ขับได้สบาย (ผมลองกับ cowon D2) แต่ถ้ามีก็จะยิ่งดีไปใหญ่ อันนี้เป็นรายงานเสียงก่อนเบิร์นนะครับ ถ้าเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมว่าเสียงต้องดีกว่านี้แน่นอน
ในเรื่องอรรถประโยชน์ การใช้สอย พบว่าใส่สบาย เก็บง่ายสะดวก มีสายสองขนาดให้เลือกตามการใช้งาน และกล่อง Hard Case ที่สามารถยัด player บางรุ่นลงไปได้เลย ตลอดจนการเก็บเสียงจากภายนอก ทำได้ดีมากครับ บางทีผมแอบหลอนเลยว่ามีใครเรียกรึเปล่า เพราะได้ยินแต่เพลงล้วนๆ
สรุปว่า เป็นหูฟังที่ไม่ค่อยอยากเรียกว่าของก๊อบเลยครับ แนะนำเลยครับตัวนี้ หลังเบิร์นเสียงคงจะไปได้ไกลอีกมาก จึงอยากให้มาลองฟังและตัดสินใจด้วยหูของท่านเอง แล้วจะรู้ว่า ?ชีวิตเราสั้นนัก ที่จะทนใช้หูฟังกากๆ? ครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่อุตส่าห์เสียเวลาอ่านครับ