การเลือก ซื้อชุดว่ายน้ำเด็ก ผ่านทางออนไลน์ (online) ควรทำอย่างไรดี..!?
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีโอกาสมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ และวิธีหรือเทคนิคเล็ก ๆ น้อยๆ ในการเลือกซื้อชุดว่ายน้ำเด็ก ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านทางอินเตอร์เน็ตกันนะครับ
ขอเล่านิดนึง ก่อนเข้าเรื่องว่า เหตุผลสำคัญ ในการเขียนบนความนี้เพราะ ปัจจุบันมีแต่บทความแนะนำการเลือกซื้อชุดว่ายน้ำเด็ก หรือเสื้อผ้าเด็ก แบบทั่วไป ไม่ได้เน้นในแง่มุมของการช้อปปิ้งออนไลน์ หรือซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ต กันซักเท่าไหร่แม้ว่า ปัจจุบันเทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์ กำลังเป็นที่นิยม และเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นก็ตาม..มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ :D
หลักควรปฎิบัติเบื้องต้นในการเลือกซื้อ 'ชุดว่ายน้ำเด็ก' ผ่านช่องทางออนไลน์ (online) มีดังนี้
1. การช้อปปิ้งผ่านระบบเว็บไซด์ (Webpage) ที่มีระบบ 'ตระกร้าสินค้า' ภายหลังจากที่เลือกได้แบบ 'ชุดที่ชอบ ลายที่ใช่แล้ว' ก็หยิบลงตะกร้าเลยครับแต่ก่อนหยิบใส่ 'ตะกร้าสินค้า' ควรตรวจสอบด้วยว่า 'เราได้เลือกขนาดไซด์ Size ของชุดแล้วหรือยัง เพราะบางเว็บไซด์ สามารถกดสั่งซื้อได้เลยโดยที่เรายังไม่ได้เลือกขนาดครับ
สุดท้าย จะทำให้ต้องเสียเวลาโทรกลับมาสอบถามทางลูกค้าเพิ่มเติมอีกภายหลัง เช่น สมมุติว่าคุณเลือกซื้อ ชุดว่ายน้ำเด็ก เบอร์ 2 (ตามภาพตารางการเลือกไซด์)หรือ Size 80 หมายถึงเด็กสูงประมาณ 80 ซม. (จะใส่กำลังดี) เด็กควรมีอายุระหว่าง 1-2 ขวบ และมีน้ำหนัก 75-85 ซม. และส่วนสูง 9-11 Kg. ตามลำดับ แล้วก็กดเลือกSize เบอร์ 2 และจำนวน แล้วทำการสั่งซื้อได้เลยครับ แต่ถ้า 'ใกล้เส้น' คือ น้ำหนัก 11 Kg. ส่วนสูง 80 กว่า ๆ แล้วก็ควรเลือกซื้อ ชุดว่ายน้ำเด็ก เบอร์ 4 ได้เลย..เด็ก ๆ โตไวครับสมัยนี้ :)
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คุณพ่อ คุณแม่ ควรจะ 'แน่ใจ' ส่วนสูง และ น้ำหนัก ของน้องจริงๆ เพราะส่วนใหญ่ ที่เกิดข้อผิดพลาดในการเลือกซื้อสินค้าจำพวก ชุดว่ายน้ำเด็ก เหล่านี้คือ คุณพ่อ คุณแม่ มักจะนั่งเทียน กะ ๆ เอาโดยประมาณ ซึ่งอาจจะจำได้คร่าว ๆ เป็นข้อมูลจากเมื่อหลายเดือนก่อนเป็นต้น เพราะฉนั้น อยากขอให้แน่ใจจริง ๆ ว่า บุตรหลานของเราสูงและหนักเท่าไหร่แล้วในปัจจุบันครับ (โอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาด จนต้องคืน หรือเปลี่ยนสินค้าก็จะลดน้อยลงอย่างมาก ไม่ทำให้เสียเวลา หรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่จำเป็นซ้ำร้ายหากซื้อสินค้าจากบางร้าน อาจจะไม่รับคืน หรือเปลี่ยนสินค้า ก็เป็นได้ครับ)
นอกจากนี้ ถ้าเราสามารถเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับ 'อายุ', 'ส่วนสูง' และ 'น้ำหนัก' ของน้อง หรือบุตรหลานของเราไปด้วย เช่น พิมพ์เข้าไปในช่องรายละเอียดอื่นๆ จะ 'ดีเยี่ยม' มากครับ เพราะจะเป็นการ Double check ที่ทางร้านค้าสามารถช่วยพิจารณาได้ว่า ขนาดชุดว่ายน้ำเด็ก ที่ลูกค้าเลือกนั้น มีขนาดเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากไม่เหมาะสม หรือใกล้จะคับแล้วร้านค้ามักจะโทรไปคุยกับลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
2. การช้อปปิ้งเลือกซื้อชุดว่ายน้ำเด็กผ่านช่องทางโซเซียลมีเดีย (Social media) เช่น Facebook หรือ Line นั้น เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นิยมกันมาก เพราะรวดเร็ว แทบจะเรียกได้ว่าเข้าถึงตัวแม่ค้า พ่อค้าเลย ณ. ขณะที่เราแชทนั้น การพูดคุยเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านทางช่องทางนี้ รายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อายุ ส่วนสูง และน้ำหนัก ของน้อง แทบจะไม่ตกหล่นเพราะ ทางร้านค้าเองจะเป็นคนช่วยเลือก พิจารณาควบคู่กันไปกับคุณพ่อ คุณแม่ครับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เท่าที่เห็นเกิดความผิดพลาดในกรณีนี้ ก็คือ คุณพ่อ คุณแม่ มักจะยืนยันว่า ต้องการ ซื้อชุดว่ายน้ำเด็ก เบอร์ 2 ค่ะ เพราะเพิ่งซื้อชุดเบอร์นี้มาจากที่อื่นเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ ทั้ง ๆ ที่ทางร้านค้าแนะนำว่า น้องควรใส่ชุดว่ายน้ำเบอร์ 4 นะค่ะ ไม่งั้นจะคับไป แต่ทางลูกค้าก็ยืนยัน จะรับชุดว่ายน้ำเด็ก เบอร์ 2 ไป...และแล้ว...
อีก 3 วันต่อมา..แฮะๆ คุณแม่ค้าค่ะ ลูกใส่ไม่ได้ค่ะ..ขอเปลี่ยนเป็นเบอร์ 4 ตามที่คุณแม่ค้าแนะนำได้ไหมค่ะ...ได้จ้าา..(จัดส่งชุดเดิมคืนบวกค่าขนส่งเพิ่มเติมมาใหม่)..รู้งี้เชื่อคุณแม่ค้าตั้งแต่แรกดีกว่า ;( .. สาเหตุคือ ชุดว่ายน้ำเด็ก ที่นำเข้ามาอาจผลิตจากหลายโรงงาน ไซด์เบอร์ 2 ที่คุณลูกค้าเคยซื้อ ก็อาจจะไม่เท่าไซด์เบอร์ 2 ของที่ทางร้านค้ามีครับ)
หรืออีกกรณีหนึ่งคือ (แม่ค้า)..น้องควรใส่ชุดว่ายน้ำเด็ก เบอร์ 6 ค่ะ...(คุณลูกค้า) แต่น้องตัวใหญ่มากค่ะ ขอเผื่อเป็นชุดเบอร์ 8 ไปนะค่ะ...(แม่ค้า) ทางร้านเผื่อให้แล้วนะค่ะ...(คุณลูกค้า)อยากขอได้เบอร์ 8 เผื่อไว้ดีกว่าค่ะ...3 วันต่อมา...โหล ๆ ลูกใส่แล้วหลวมมากกก เลยค่ะ..แง้...ทำไงดี ;(
สรุปแล้วสำหรับการเลือกซื้อ ชุดว่ายน้ำเด็ก ไม่ว่าทั้งของเด็กผู้หญิง หรือเด็กผู้ชาย ทางร้านค้ามักจะเผื่อขนาดให้ลูกค้าไปซักนิดหนึ่งอยู่แล้วครับ เพราะถ้าใส่ชุดว่ายน้ำคับไป ก็จะใส่ไม่สบาย หรือถ้าใส่หลวมไป เมื่อลงน้ำชุดว่ายน้ำจะหลวมมากขึ้นครับ...พอกระโดดลงสระไป..ชุดว่ายน้ำ กับ คน อาจจะอยู่กันคนละทิศละทาง..ก็เป็นได้ครับ :) ..ดีที่สุดแล้วอยากให้เชื่อคำแนะนำของร้านค้า (ที่มีประสบการณ์) จะดีกว่าครับ เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดจากคำแนะนำของร้านค้าเอง การเปลี่ยนสินค้าก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆเพราะถือเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดจากร้านค้าเองครับ
ท้ายที่สุดนี้ หลักปฏิบัติดังกล่าวนี้ อาจจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ อื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกันได้ครับ เช่นพวกเสื้อผ้าเด็กที่จำเป็นต้องเลือกขนาดไซด์ต่าง ๆเพื่อช่วยลดข้อผิดพลาดในการสั่งซื้อสินค้า และไม่เสียเงิน หรือเวลาโดยไม่จำเป็นครับ :)
ปล: บทความนี้เขียนขึ้นมาด้วยความปรารถนาดี เพื่อให้นักช้อปทั้งหลาย ช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น..บทความนี้เป็นบทความ 'ออริจินอล' ครับ..สามารถเผยแพร่ หรือแชร์ต่อได้เพื่อประโยชน์กับทุกคนครับ..แต่ก็ขออย่าลืมให้เครดิตกันด้วย..จะเป็นคุณไม่รู้ลืมครับ
ขอบคุณครับ :)
Intrend4kids Shop
ร้านชุดว่ายน้ำเด็ก ของเล่นเด็ก สินค้าเด็กนำเข้า
www.intrend4kids.com
www.fb.com/Intrend4kids