1. ต้องหยุดใช้ "เครื่องสำอางค์ทุกชนิด" เป็นเวลา อย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ผิวหน้าได้พักจากการใช้เครื่องสำอางค์ และเป็นการดีท๊อกซ์ผิวหน้า ปรับสมดุลของผิวให้รับการบำรุงจากครีมใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
2. วิธีการดีท๊อกซ์ผิวหน้า ในระหว่างที่พักหน้า หรือ ผิวหน้ามีการแพ้เครื่องสำอาง
“ทำติดต่อกันอย่างน้อย 7-10 วันขึ้นไป หรือจน กว่าผิวจะดีท๊อกซ์สารพิษออกมาหมด”
เช้า -- ล้างหน้าด้วยสบู่เด็ก , ละลายผงวิเศษตราร่มชูชีพกับน้ำเล็กน้อยทาทั่วไปหน้า
เย็น – ล้างหน้าด้วยสบู่เด็ก , พอกหน้าด้วยไข่ขาว (ไข่ไก่) ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วล้างออก พอกไข่ขาวซ้ำอีกครั้ง ทิ้งไว้ให้แห้งล้างออกด้วยสบู่เด็ก ในการล้างน้ำสุดท้าย ให้ใช้น้ำอุ่น + น้ำมะนาว 1-2 หยด (อย่าใส่มากผิวอาจระคายเคือง) ละลายผงวิเศษตราร่มชูชีพกับน้ำเล็กน้อยทาทั่วไปหน้า (พอกให้หนาๆได้) ทิ้งไว้จนเช้า
3. "ห้าม!.. ใช้เครื่องสำอางค์อื่นใด ปนกับครีมชุดนี้ เด็ดขาด" เหตุผลเนื่องจาก ครีมสมุนไพร หากใช้ร่วมกับครีมที่มีไขมันสัตว์ หรือสารประกอบจากเคมี อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผดผื่น หรือผิวอักเสบขึ้นได้
4. กรณี ใช้ครีมชุดนี้แล้วมีอาการแสบแดง หรือผดผื่น สิวอักเสบให้หยุดใช้ทันที เนื่องจาก...อาจแพ้สมุนไพรบางชนิดที่เป็นส่วนประกอบในครีมสมุนไพรชุดนี้ โดยมี อัตราการแพ้จะมีอยู่ 2% คือ ทกๆ 100 คนจะมีคนแพ้ครีมนี้ 2 คน (เปอร์เซนต์นี้ได้มากจากกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จริง โดยผุ้แพ้ครีมนี้ คือ ผิวที่มีผิวหน้าบอบบางมากๆ หรือผู้ที่ผ่านการใช้เครื่องสำอางค์เคมีอันตรายมาเป็นเวลานาน จนทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภา ต้องได้รับการบำรุงผิวแบบเร่งด่วน และล้ำลึก
ก่อนเริ่มใช้ครีมปรับสภาพชุดนี้อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ แนะนำ “ DNA คลอลาเจนบูซติงเซรั่ม + ครีมดอกลีลาวดี “ ทาเช้า – เย็น ทุกวันช่วงบำรุงผิวเร่งด่วน
5. ทุกเช้า ควรใช้ครีมกันแดด อย่างน้อย SPF50 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวหลังจากครีมปรับสภาพผิวในเวลากลางคืน
6. เมื่อท่านใช้จนผิวหน้า ขาวใส ไร้สิว ฝ้า ให้ใช้ ลดการใช้ครีมสมุนไพรขมิ้นลง โดยใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผิวขาวใสตลอดไป
ข้อแนะพิเศษ
• กลางวัน ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไปจะได้ผลเร็วยิ่งขึ้น
• ผู้ที่เป็นสิว เนื่องจากโฮโมน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับประทานยาควบคุมโฮโมน ช่วยปรับสภาพโฮโมนที่เสียสมดุลได้ในระดับนึง
• ผู้ที่เป็นฝ้า ควรพิจารณาว่าเกิดจาก โฮโมน ,แสงแดด ,ความร้อน เพื่อช่วยให้สามารถรักษาได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับสุภาพสตรี แนะนำให้รับประทานยาฟอกโลหิต กลุ่มยาสตรีต่างๆ เพื่อช่วยปรับสภาพภายในร่างกายให้คงความสมดุล เพื่อผิวที่เปร่งปรั่ง
.....จากที่เจอโดยส่วนมากจะเป็นสิวผดในช่วงนี้ เนื่องจากสภาพ
อากาศ ตอนนี้ในบ้านเราร้อนเผามากๆ คนที่มีสภาพผิวหน้ามัน เป็นสิวง่าย หรือเป็นสิวผดง่าย ส่วนใหญ่อาการจะมากำเริบในช่วงนี้ อาการของสิวผดจะมีลักษณะดังนี้ค่ะ
1.สิวเทียม หรือสิวผด
เกิดจากเม็ดนูนเล็ก ๆ มีลักษณะคล้ายผด เกิดจากผิวหนังชั้นบน มีการหนาตัวที่ผิดปกติมักเกิดบริเวณหน้าผาก แก้ม สองข้างจมูก และ
คาง มีอาการเห่อและเห็นได้ชัดเจนในเวลาที่อากาศร้อน และมีการรบกวนผิวหน้าด้วยการขัดถู นวดหน้า หรือการล้างหน้าบ่อยเกินไป
2.สิวเทียม (Acne aestivalis) หรือ สิวผด จริงๆแล้วไม่ใช่สิวเนื่องจาก ไม่มีหัว (comedone) มักจะพบบริเวณหน้าผาก ข้างจมูกและคาง ซึ่งจะต่างกับผื่นแพ้ โดยผื่นแพ้มักจะเป็นผื่นแดงและคัน (Embarassed)
3. ในตอนนี้เรายังไม่ทราบสาเหตุว่าสิวเทียมนี้เกิดจากอะไรนะ จากที่ย้อมชิ้นเนื้อและส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบว่ามี การอุดตันของรูขุมขนบริเวณผิวชั้นตื้น และอาจจะมีการติดเชื้อยีสต์ (P.ovale) ร่วมด้วยก็ได้ เชื่อว่า มีความสัมพันธ์กับภาวะเครียดและ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจะสังเกตพบว่าหน้าร้อนจะเป็นมาก คนไข้บางคน อาจมีอาการเห่อได้ในตอนสายและหายไปในตอนเย็นหรือเมื่ออากาศเย็นขึ้นก็มี อาการดีขึ้น เป็นต้น....