careyou1
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน17/02/2010
อัพเดท08/07/2019
เป็นสมาชิกเมื่อ 15/02/2010
สถิติเข้าชม6699
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe




ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  ทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
โทร.  096 908 5944
Mail  s.jatuporn@gmail.com
Search      Go

Home / All Product List / คอลลาเจน 15,000 มก. มี อ.ย และ GMP

คอลลาเจน 15,000 มก. มี อ.ย และ GMP

รูปภาพประกอบทั้งหมด 6 รูป

คอลลาเจน 15,000 มก. มี อ.ย และ GMP

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  17/02/2010
แก้ไขล่าสุด  :  17/12/2017
ราคา  1,350

++++รับตัวแทนจำหน่าย++++

+++ Secret Collagen 15,000mg – คอลลาเจนเปปไทด์พลัสคอลลาเจนไตรเปปไทด์ จากฝรั่งเศส +++
เลขที่ อย. 12-1-13353-1-0266 และผ่านมาตรฐาน GMP
ซีเครตคอลลาเจน ทำจากคอลลาเจน Premium Grade จากปลาทะเลน้ำลึก นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส จึงมั่นใจ100%ได้ว่า ไม่มีสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อน และเจือปนจากประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน!!!
ซีเครตคอลลาเจนทำจากคอลลาเจนเปปไทด์ + คอลลาเจนไตรเปปไทด์ ซึ่งมีอนุภาคเล็กมาก จึงสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง10เท่า!!! อีกทั้งยังผสม กลูต้า วิตามิน และสารสกัดอีกกว่า10ชนิด!!! ช่วยบำรุงให้ผิวคุณขาว สวยกระจ่างใส สามารถเริ่มเห็นผลภายใน 7 วัน!!!!
+++ส่วนประกอบต่อซอง+++ (บรรจุ 20ซอง/กล่อง)
1. Fish Collagen Peptide (คอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเลน้ำลึก)
2. Hydrolyzed Collagen Tripeptide (คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ไตรเปปไทด์โมเลกุลเล็ก)
3. Acerola Cherry Extract (สารสกัดจากอะเชโรล่า)
4. L- Glutathione (แอล-กลูตาไธโอน)
5. L- Cysteine (แอล-ซีสเทอีน)
6. L- Glutamine (แอล-กลูตามีน)
7. L- Glycine (แอล-ไกลซีน)
8. Goji Berry Extract (สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่)
9. Alpha Lipic acid (กรดอัลฟ่า ไลโปอิค)
10. Melon Powder (ผงเมลอน)
11. L- Theanine (แอล-ธีอะนิน)
12. Bilbery Extract (สารสกัดจากบิลเบอร์รี่)
++++ โทรเลย 096 908 5944+++++

ข้อมูลทั่วไป / Overview:
Secret Collagen มีส่วนผสมของ กลูต้า วิตามิน และสารสกัดอีกกว่า 12ชนิด!!!

  1. Fish Collagen Peptide (คอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเลน้ำลึก) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น กระชับ เปล่งปลั่ง เนียนนุ่ม บำรุงสุขภาพผม เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผม ลดการหลุดร่วง เล็บแข็งแรง รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและข้อต่อ
  2. Hydrolyzed Collagen Tripeptide (คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ไตรเปปไทด์) คอลลาเจนสกัด ซึ่งมีอนุภาคโมเลกุลเล็กมาก จึงสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง10เท่า!!!
  3. Acerola Cherry Extract (สารสกัดจากอะเชโรล่า) เป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีที่มีมากกว่าส้มถึง 50 เท่า ช่วยให้ผิวขาวเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และจำเป็นต่อการสร้างเส้นใยคอลลาเจน
  4. L- Glutathione (แอล-กลูตาไธโอน) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และช่วยในการต่อต้านกลไกของอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิด Lipid peroxide ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้า นอกจากนี้ ยังไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ Tyrosenase ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินไม่ถูกสร้างขึ้น จึงทำให้ผิวค่อยๆ ขาวขึ้น
  5. L- Cysteine (แอล-ซีสเทอีน) เป็นสารประเภท กรดอะมิโน ชนิดหนึ่งที่เป็นสารตั้งต้นในการการสร้าง กลูต้าไธโอนให้กับร่างกาย มีคุณสมบัติลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้านการเสื่อมของเซลล์ผิว จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตาย และสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวสดชื่นเปล่งปลั่ง
  6. L- Glutamine (แอล-กลูตามีน) ช่วยลดอาการอ่อนล้าและการเสื่อสลายของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการสร้างโปรตีนและกล้ามเนื้อกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดการเป็นหวัดติดเช้อ โดยการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว
  7. L- Glycine (แอล-ไกลซีน) ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและผิวที่หย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน ลดรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกา ทำให้ผิวเต่งตึง และกลับมากระชับอีกครั้ง
  8. Goji Berry Extract (สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่) ยับยั้งการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ลดความเครียด และช่วยในการนอนหลับและเรื่องความจำ
  9. Alpha Lipic acid (กรดอัลฟ่า ไลโปอิค) ทำความสะอาดและทำให้ผิวบริสุทธิ์ โดยการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ดังนั้นจึงสามารถป้องกันการเกิดสิว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของเลือดไปยังประสาท ดังนั้นผิวก็จะได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการบำรุง ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสขึ้น
  10. Melon Powder (ผงเมลอน) ทำให้ผิวลื่น เนียนนุ่ม สดชื่น อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในปริมาณสูง มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกาย
  11. L- Theanine (แอล-ธีอะนิน) ผ่อนคลายความเครียด สมาธิดีขึ้น ช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
  12. Bilbery Extract (สารสกัดจากบิลเบอร์รี่) ช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดได้ดี ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา เมื่อใช้สายตานานๆ กระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ลดอาการอักเสบในช่องปากและอาการปวดเจ็บจากภาวะเส้นเลือดขอดช่วยลดอาการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง

ข้อมูลจำเพาะ / Specifications:
คอลลาเจน คือ อะไร

    คอลลาเจน คือ  โปรตีนชนิดหนึ่ง และในร่างกายของมนุษย์มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบมากถึง 1 ใน 3 ของร่างกาย คุณเคยสังเกต ที่ผิวของคุณว่า เหี่ยวย่น ไม่เต่งตึงเหมือนก่อน หรือ บริเวณใต้คางเริ่มหย่อน บ้างหรือไม่ นั่นคือสัญญาณที่เตือนว่า  คอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวในชั้น เดอร์มอล สูญเสียไปมากแล้ว

คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ ทำหน้าที่ เสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูเรียบ เนียน
ในวัยเด็ก คอลลาเจน ยังไม่เสื่อมสลายและมีจำนวนมาก จึงทำให้เห็นว่า เด็ก ๆ หรือวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง แต่เมื่อมีวัยมากขึ้น เส้นใย คอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง อันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย ยิ่งสูงวัยขึ้นเท่าใด ริ้วรอยแห่งวัยก็เห็นชัดขึ้นเท่านั้น ริ้วรอยแรกที่มาเยือนที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ รอยตีนกา เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางมาก อีกทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เป็นกล้ามเนื้อวงกลม ไม่มีอะไรยึด ผิวรอบดวงตาก็เลยจะเหี่ยวมากกว่าที่อื่น

อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง คอลลาเจน ให้แก่ร่างกายได้เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น ด้วยการรับประทาน คอลลาเจน หรือ วิธีการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ แต่วิธีการฉีดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก เพราะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นวิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

คอลลาเจน มีส่วนช่วยในการป้องกันอวัยวะในร่างกาย และเชื่อมอวัยวะต่างๆ ให้อยู่ด้วยกัน ช่วยให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรง และยืดหยุ่นดี ช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่ติดขัด โดยเฉพาะข้อต่อในการรับน้ำหนักและขยับเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ เช่นเดินหรือวิ่ง เป็นต้น
นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับ โดยทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ “ อิลาสติน ” (Elastin) ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิว อีลาสติน ก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ควบคู่กันไปด้วย
ร่างกายของคนเรานั้นจะมี คอลลาเจน หนาแน่นในวัยเด็ก และจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา จึงเห็นได้ว่า เมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลาย ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลงอันเป็นสาเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย รวมถึงการเกิดปัญหาข้อเสื่อม กระดูกเสื่อม อันเนื่องมาจาก คอลลาเจน ใน กระดูก ลดลง ทำให้ กระดูก ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ขาดความยืดหยุ่น เปราะหักง่าย เป็นต้น
โดยพบว่า คนที่มีอายุ 25 ขึ้นไป จะมีปริมาณ คอลลาเจน ลดลงทุกปี ปีละ 1.5% อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง คอลลาเจน ให้ร่างกายได้ ด้วยการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ และอีกวิธีที่ง่ายและสะดวกคือ การรับประทาน คอลลาเจน เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนังและเพื่อเสริมให้กระดูกแข็งแรง ควรรับประทาน คลอลาเจน และ แคลเซียม เสริมจะช่วยป้องกัน ภาวะกระดูกพรุนได้
ทำไมเราถึงต้องการคอลลาเจน?

อายุยิ่งมากเท่าไร คอลลาเจนก็ยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น
คอลลาเจน คือ กุญแจแห่ง “ความอ่อนเยาว์ และความงาม” ปริมาณของคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลงตั้ง แต่อายุ 20 ปี เป็นต้นไป ดังนั้น การเพิ่มคอลลาเจน ให้กับร่างกาย คือ กุญแจที่นำไปสู่การดู อ่อนเยาว์ ตลอดเวลา

เราต้องการโปรตีนเพื่อมาเสริมสร้างคอลลาเจน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเหลือง และแม้กระทั่ง หูฉลาม ที่มีปริมาณคอลลาเจนสูงมาก ทำให้เป็นที่นิยม ของคนจีน และคนญี่ปุ่น และคุณทราบไหมว่า คอลลาเจน เพียง 5 กรัม เท่ากับ หูฉลามขนาดย่อมๆ ถึง 2 หูครึ่งเชียว

การขาดคอลลาเจนมีผลกับผิวเพียงอย่างเดียวหรือเปล่า ?
ไม่ใช่ แน่นอน นอกจากผิวแล้ว ปัญหาที่พบได้แก่ กระดูก เอ็นข้อต่อ กระจกตา การขาดคอลลาเจนจะทำให้ เสื่อมสภาพขาดความยืดหยุ่น ในส่วนของกระดูกนั้น กระดูกเป็นส่วนที่เชื่อมต่อด้วยกระกอ่อน และเอ็น กระดูกมีหน้าที่รองรับร่างกายเอ็นและกระดูกอ่อน มีหน้าที่ทำให้ข้อต่อต่างๆ เกิดการเคลื่อนไหวราบรื่น และเหมือนหมอน รองรับการกระแทกของกระดูก แต่ละท่าน ถ้าร่างกายขาดคอลลาเจน จะทำให้กระดูกเปราะ และแตกหักง่ายในส่วนของเอ็นและกระดูกอ่อน ก็จะเสื่อมทำให้เกิดอาการเจ็บบริเวณหัวเข่า และข้อต่อต่างๆ
การขาดคอลลาเจน เป็นสาเหตุทำให้มวลกระดูกน้อยลงมาก ในปัจจุปันมีคนจำนวนน้อยมาก ที่ทราบว่า ในกระดูกประกอบด้วยแคลเซียม 90% และคอลลาเจน กระดูกสร้างขึ้นจากแคลเซียมโดยคอลลาเจนทำหน้าที่เป็นเหมือนตาข่ายที่คอยยึดให้แคลเซียมเกาะตัว เป็นกระดูกได้ ซึ่งถ้าขาดคอลลาเจนแล้ว แคลเซียมก็ไม่สามารถที่จะเกาะตัวกันได้ ดังนั้นถ้าใครเป็นโรคกระดูกพรุน หรือ มวลกระดูกน้อย คุณควรจะต้องบริโภค ไม่เฉพาะ แต่แคลเซียม เท่านั้น คอลลาเจนก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริโภคด้วยเช่นกัน.

โดยทั่วไปแล้ว คอลลาเจนจะมีโมเลกุลที่ใหญ่เกินไปทำให้ดูดซึมยาก แต่คอลลาเจน เปปไทด์จะมีโมเลกุลที่เล็กกว่ามากถึง 1 : 60 ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้เร็ว และดีกว่ามาก

งประโยชน์ของคอลลาเจนถ้าหากท่านรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สุขภาพผิวของท่านแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นดี ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวพรรณกระชับ เนียนใส เปล่งปลั่ง ช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ เพิ่มความกระฉับกระเฉง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงข้อต่อ และ กระดูก ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป คอลลาเจนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ผู้ที่เป็นโรคปวดข้อ ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีสุขภาพดีขึ้น

อะเซโรลา เชอร์รี่

สารสกัดจากอะเซโรลา เชอร์รี่ Acerola cherry Extract
อะเซโรลา เชอร์รี่ Acerola cherry Extract คือ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ว่ามีปริมาณวิตามินซีอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด ชนิดหนึ่งของโลก โดยมีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 50 เท่า นอกจากนั้นยังมีสารอาหารตามธรรมชาติ ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเรียกว่า"สารพฤกษเคมี" (Phytofactors)

คุณประโยชน์จากอะเซโรลา เชอร์รี่ Acerola cherry Extract
1. ให้วิตามินซีจากธรรมชาติ เป็นสารต้านอนุมูลิสระ ป้องกันเซลล์จากการทำลายโดยอนุมูลิสระ จากปัจจัยภายนอกและภายใน ช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. จำเป็นต่อการสร้างเส้นใยคอลลาเจน (Collagen) โดยออกฤทธิช่วยเร่งปฏิกริยาทางเคมี ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารคอลลาเจน และการประสานตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้น

ประโยชน์ของแอล-กลูต้าไธโอน L-Glutathione
1. Antioxidation : L-Glutathione (แอล กลูต้าไธโอน) จะถูกเปลี่ยนไปเป็นเอนไซม์ Glutathione Peroxidase มีคุณสมบัติเป็นสาร Antioxidant ที่สำคัญของร่างกาย ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
2. Detoxitication : L-Glutathione (แอล กลูต้าไธโอน) ช่วยสร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะ Glutathione-S-transferase ที่ตับ ช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษ ชนิดไม่ละลายน้ำ(ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้ แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ไม่อันตราย และละลายน้ำได้ดีขึ้นแล้วขับออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์การสะสมของ Acetaldehyde(ทำให้เกิดอาการเมาค้าง) บุหรี่ และยา
3. Immune Enhancer : L-Glutathione (แอล กลูต้าไธโอน) จะส่งผลในการเพิ่มความสามารถในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว ชนิด Neutrophils และยังเพิ่มความสามารถในการทำงานของ เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานของร่างกายด้วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้น
4. Beauty and Whitening : รังสี UV-A และ UV-B ในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินและอนุมูลอิสระ ทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำและเกิดฝ้า L-Glutathione (แอล กลูต้าไธโอน) มีคุณสมบัติช่วยในการต่อต้านกลไกของอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิด Lipid peroxide ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้า นอกจากนี้ L-Glutathione (แอลกลูต้าไธโอน) ยังไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ Tyrosenase ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินไม่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวค่อยๆ ขาวขึ้น
5. Male Fertity : L-Glutathione (แอล กลูต้าไทโอน) ทำให้ Sperm เคลื่อนที่ได้และลดอัตราการตายของ Sperm ด้วย
แม้ว่า ร่างกายสามารถผลิตกลูต้าไธโอนได้เอง และยังสามารถได้รับจากอาหารจำพวกผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ แต่สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เช่น แสงแดด, มลภาวะ ฝุ่น ควัน, การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และความเครียด มีผลทำให้ร่างกายได้รับกลูต้าไทโอนไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ประโยชน์ของ L-Cysteine แอล-ซีสเตอีน

• Detoxification : กลูตาไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้ แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกายนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ
• Antioxidant : กลูตาไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
• Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ protaglandin

ไกลซีน (Glycine) อีเมล

เขียนโดย Greenclinic
ไกลซีน (Glycine)
ไกลซีน จัดอยู่ในกลุ่ม กรดอะมิโนไม่จำเป็น (non-essential amino acid) มีรสหวาน จำเป็นสำหรับการสร้างโปรตีนในร่างกาย การสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก การสร้างของ RNA, DNA, กรดน้ำดี และกรดอะมิโนอื่น ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีประโยชน์ในการช่วยดูดซึมของแคลเซียมในร่างกาย และเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน
ไกลซีน มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่โดดเด่นหลายประการ เช่น ไกลซีนให้ผลดีต่อการรักษาภาวะต่อมใต้สมองทำงานน้อย และเนื่องจากไกลซีนช่วยเพิ่มครีเอทีนีนให้แก่ร่างกาย (ครีเอทีนีน เป็นสารที่สำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ) มันจึงใช้ได้ผลในการรักษาโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ และที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ หากร่างกายได้รับไกลซีนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น และมีพลังงาน แต่หากได้รับมากเกินไปจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้
ไกลซีน มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง จึงถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้าแบบคลุ้มคลั่งและอาการไฮเปอร์ และยังอาจช่วยป้องกันอาการของโรคลมชัดได้ด้วย
ปัจจุบัน แพทย์ทางโภชนาการหลายท่าน ใช้ไกลซีนในการรักษาภาวะน้ำตาลต่ำ (ไกลซีน กระตุ้นการหลั่งของกลูคากอน ซึ่งย่อยสลายไกลโคเจนเปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด)
นอกจากนี้ ไกลซีนยังถูกใช้ในการรักษาภาวะกรดในกระเพาะมากเกินไปอย่างได้ผล กรดอะมิโนชนิดนี้จึงมักถูกรวมไว้ในยาลดกรดหลายชนิดด้วยเช่นกัน ทั้งยังใช้ในการรักษาภาวะเลือดเป็นกรดบางกรณี โดยเฉพาะกรณี ลิวซีนไม่สมดุล ซึ่งส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกลิ่นตัวและลมหายใจ ซึ่งก่อนหน้านี้รักษาได้เพียงวิธีเดียวคือ จำกัดอาหารที่มีลิวซีน
จากผลวิจัยพบว่า ไกลซีน เพิ่มความจำในผู้ที่ประสบปัญหาหลากหลายจาก การนอนหลับ รวมถึงโรคจิตเภท, โรคพาร์คินสัน, Huntington’s disease (โรคที่ก่อให้เกิดความผิดปกติที่มีผลต่อการประสานงานของกล้ามเนื้อ และกระบวนการคิด), โรคเจ็ตแล็ก (Jet Lag) และความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเกินไป
การขาดไกลซีน ร่างกายจะไม่สามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายได้ ผิวจะหย่อนคล้อยและไม่สามารถต้านทานต่อการทำร้ายผิวจากรังสียูวีและอนุมูลอิสระได้ และหากมีบาดแผลจะยากต่อการรักษา

ประโยชน์ของ Alpha Lipoic Acid (ALA) - อัลฟา ไลโปอิก แอซิด
• เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงกว่า CoQ10 5 เท่า และแรงกว่าวิตามินซี และ อี 50เท่า
• กระตุ้นการสร้าง Glutathione ในตับให้เพิ่มขึ้น เหมาะที่จะทานคู่กับ Ivory Caps Glutathione 1500 mg เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น
• ต้านแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวและช่วยให้การรักษาสิวที่เกิดขึ้นเป็นไปได้รวดเร็ว ช่วยต้านการอักเสบระดับปานกลาง เนื่องจากมีปริมาณของ Sulfur เป็นองค์ประกอบด้วย จึงช่วยลดการบวมและอาการผิวแดงจากสิว
• จับตัวกับโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกาย เช่น ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู ปรอท แล้วขับออกจากร่างกาย (Chelation) อีกทั้งคุณสมบัติที่ซึมผ่านแนวกั้นสมองได้ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีบทบาทเข้าไปช่วยนำโลหะหนักออกมาขับทิ้ง ผ่านตับ หรือไตได้
• ALA ช่วยปกป้องตับมิให้ถูกอนุมูลอิสระทำลาย ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย มีการใช้สารนี้รักษาตับอักเสบ ตับแข็ง และโรคตับอื่นๆ รวมทั้งสารพิษตะกั่ว หรือโลหะหนักอื่นๆ และสารเคมีจาก อุตสาหกรรม เช่น carbon tetrachloride
• ใช้รักษาอาการปวดและชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า จากระบบประสาทถูกทำลาย ซึ่งอาจเกิดจากอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ประสาท เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ เกิดการเติมออกซิเจน (oxygenation) รวมทั้งอาการประสาทเสื่อมจากเบาหวาน ต้านการอักเสบ
• อาวุธใหม่ในการลดน้ำหนัก มีงานวิจัยว่า ALA มีผลอย่างไรกับเอนไซม์ APK (activated protein kinase enzyme) ซึ่งพบในสมองส่วนไฮโปทาลามัส น่าจะมีหน้าที่สำคัญต่อความอยากอาหาร APK เพิ่มขึ้นเมื่อ เซลล์ต้องการพลังงานมากขึ้น ซึ่งอาจไปเพิ่มความอยากอาหาร
กรดอัลฟาไลโปอิค(Alpha Lipoic Acid)
หนึ่งในอาหารเสริมที่ช่วยทำให้สิวดีขึ้น สามารถลดการอักเสบและรอยแดงจากสิวต่อต้านอนุมูลอิสระ เราจะเห็น Alpha lipoic acid ที่ขายกันในบ้านเราในรูปของอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องผิวพรรณ ใครทานอาหารเสริมพวกนี้อยู่ลองพลิกดูที่ส่วนประกอบดูครับว่า มีหรือเปล่า
กรดอัลฟาไลโปอิค คืออะไร
กรดอัลฟาไลโปอิคทำหน้าอะไร
หน้าที่หลักของกรดอัลฟาไลโปอิคคือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอน ซึ่งมีหน้าที่ขจัดสารพิษในตับ กรดอัลฟาไลโปอิคนั้นดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ง่าย พบได้มากในผักและเนื้อสัตว์ เนื่องจากกรดอัลฟาไลโปอิคสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน สามารถไปเลี้ยงเซลล์ได้ทุกส่วน ความสามารถอันยอดเยี่ยมนี้ทำงานได้เองภายในเซลล์เพื่อช่วยกำจัดสารพิษที่อยู่ในร่างกาย และยังต่อต้านการอักเสบอันเป็นเหตุให้เกิดสิว ช่วยรักษาการอักเสบไม่ให้สิวนั้นอักเสบลุกลามมากไป
กรดอัลฟาไลโปอิคนั้นทำงานร่วมกับวิตามินบี ซี และอี และสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น ๆ เพื่อให้เซลล์ร่างกายทำงานกันอย่างปกติ พึงระลึกไว้ว่าวิตามินเหล่านี้มีหน้าหลักในการต้านแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวและช่วยให้การรักษาสิวที่เกิดขึ้นเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น กรดอัลฟาไลโปอิคช่วยให้วิตามินเหล่านี้เกิดขึ้นใหม่ หรือหมุนเวียนกลับมาใหม่ ช่วยให้วิตามินเหล่านี้ทำงานได้มากขึ้น
กรดอัลฟาไลโปอิคทำความสะอาดและทำให้ผิวบริสุทธิ์ โดยการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ดังนั้นจึงสามารถป้องกันการเกิดสิว และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของเลือดไปยังประสาท ดังนั้นผิวก็จะได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการบำรุง ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสขึ้น
กรดอัลฟ่าไลโปอิคช่วยต้านการอักเสบระดับปานกลาง เนื่องจากมีปริมาณของ Sulfur เป็นองค์ประกอบด้วย จึงช่วยลดการบวมและอาการผิวแดงจากสิว กรดอัลฟ่าไลโปอิคนั้นถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากตัวหนึ่ง เนื่องจากสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงสามารถดูดซึมได้ง่ายและสามารถเลี้ยงไปทั่วร่างกาย
สรุปคุณสมบัติของ แอล-ธีอะนีน
1. ช่วยผ่อนคลายความเครียด (Relaxation Effect)
2. ทำให้สมาธิดีขึ้น คิดอ่านได้ดีขึ้น (Cognitive Enhancing effect)
3. ลดความเครียดต่อแรงกดดัน (Anti stress effect)
4. เพิ่มคุณภาพการหลับ ช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น (Promote good sleep-wake cycle)
ข้อห้าม
แอล-ธี อะนีนเป็นสารที่มีผลต่อจิต สมาธิ ความเครียด เหมาะในคนปกติ ที่มีชีวิต และความเครียดในระดับชีวิตประจำวัน ไม่สามารถใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคอย่างรุนแรงได้ จึงถือเป็น ข้อห้ามรับประทาน ในผู้ป่วยโรคจิตประสาท ทุกชนิด ไม่ว่า จะเป็นโรคซึมเศร้า โรค จิตเภท ก้าวร้าว หรือ ออทิสทิก และอื่น ๆ รวมทั้งโรคลมชักด้วย และไม่สามารถใช้แทนยาที่แพทย์สั่งได้ กรณีที่เป็นโรคทางจิต ทานยาจิตเวชอยู่ ถือเป็นข้อห้ามในการรับประทาน แอล-ธีอะนีน

จากผลการวิเคราะห์และวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากหลายๆ ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ได้ค้นพบว่า สารที่สำคัญในบิลเบอร์รี่ มีดังนี้
1. แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) สามารถจับกับเซลล์บุผิว (pigmented epithelium) ที่จอภาพเรตินาได้ดี โดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลิศ (Anti-oxidant) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และคืนสภาพสาร rhodopsin ได้หลังจากถูกแสง จึงช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดได้ดี
2. แทนนิน(Tannins) มีฤทธิ์ในการสมานแผล(Astingent) และให้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น พวกแบคทีเรียบางชนิด
3. ฟลาโวนอยด์(Flavonoid) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เช่นกัน และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดที่สำคัญต่อมนุษย์
4. กลูโคควินิน(Glucoquinine) เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้การทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
ประโยชน์ของอาหารเสริมที่สกัดจากบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพดวงตา
1. ช่วยถนอมดวงตา ทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น
2. ช่วยรักษาอาการตาบอดกลางคืน (Night blindness)
3. ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา เมื่อใช้สายตานานๆ
4. ช่วยป้องกันเลนส์ตาและช่วยให้คอลลาเจนในตาในส่วน cornea และหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น
5. ช่วยลดอนุมูลอิสระในจอตา ทำให้ป้องกันอาการเสื่อมที่มักจะเกิดกับดวงตาให้น้อยลงได้ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ต้อเนื้อ ตาเสื่อมในคนสูงอายุ(สายตายาว)
สรรพคุณอื่นๆ ที่ค้นพบนอกจากนี้ คือ
1. พบว่า สารแทนนิน ในผลบิลเบอร์รี่สามารถบรรเทาอาการท้องเสีย อาการคลื่นไส้ และภาวะอาหารไม่ย่อยได้
2. พบว่า สารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ สามารถลดอาการปวดเจ็บจากภาวะเส้นเลือดขอด (Varicose vein) ได้ เนื่องจากภาวะดังกล่าวเกิดจาก ความเสื่อมของเซลล์เช่นกัน
3. พบว่า สารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ สามารถใช้ลดอาการอักเสบในช่องปาก และเยื่อบุช่องปากได้
4. พบว่า สารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ ช่วยลดอาการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ที่ทำให้เกิดจุดด่างดำของผิวพรรณได้

เหตุผลสำคัญ เพราะมันมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในปริมาณสูง มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกายทั้งนั้น แถมยังไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
นอกจากนั้นยังเชื่อว่า เอนไซม์ในน้ำเมล่อนชื่อว่า superoxide dismutase มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดกระบวนการทางเคมีภายในร่างกาย ส่งผลให้สามารถลดระดับความเครียดของคนเราได้ ทำให้ความเจ็บปวด ปัญหาการนอนหลับลดลงได้ รวมทั้งมีกระบวนการรับรู้ที่ดีขึ้น เช่น มีสมาธิมากขึ้น สามารถปรับพฤติกรรม ลดอารมณ์ฉุนเฉียวโมโหง่าย ดูเป็นมิตรขึ้นได้อีกต่างหาก
ถ้ายังไม่รู้ว่า จะหยิบอะไรเข้าปาก ผลไม้ที่ชื่อ "เมล่อน" ก็น่าสนใจไม่หยอก เพราะนอกจากจะไม่อ้วน ต้านแก่แล้ว ยังลดความเครียดได้ฉับพลันอีกด้วย

Q : เคยได้ยินว่า คอลลาเจนที่ดีที่สุดต้องมาจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่เหรอคะ
A : คอลลาเจนที่ดีที่สุดในโลก เคยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ตั้ง แต่ที่เตานิวเคลียร์ระเบิดที่ญี่ปุ่นทางนักวิทยาศาสตร์บอกว่า จะมีสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อน ซึ่งกัมมันตภาพรังสี จะอยู่ยาวนานถึง 20 ปี อันตรายมากค่ะ เราจึงต้องใช้ คอลลาเจนเกรดพรีเมียมจากแหล่งอื่นที่มีคุณภาพเทียบเคียงกัน แต่ราคาต้นทุนสูงกว่า มาจากฝั่งอเมริกา เป็นปลาที่เลี้ยงในทะเลสาบในอเมริกา ค่ะ

สั่งซื้อสินค้า / ติดต่อสอบถาม

เขียนอีเมลถึงเจ้าของร้าน

ส่งเมลถึง:careyou1
อีเมลผู้ส่ง:
เนื้อความ:
มีไฟล์แนบ
ทำสำเนา