++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตะลึงชายไทย 42% นกเขาไม่ขัน ชี้ปัญหาเศรษฐกิจ สุรา บ่อนทำลาย''จุ๊กกรู''
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปัญหาเศรษฐกิจสังคม มลภาวะเป็นพิษ ทั้งสุรา และอาหารขยะ ทำชายไทยนกเขาไม่ขันแล้ว 42% อายุระหว่าง 40-70 ปี หวั่นรุนแรงขึ้น ขยับลงมาเป็นตั้ง แต่อายุ 30 ปีขึ้น ทั้งยาราคาสูง พบผลข้างเคียงอันตรายถึงหัวใจวายเฉียบพลัน ขณะที่แพทย์ไทยเจ๋งระดมวิจัยสมุนไพรช่วยหนุ่มๆ ฟิตปึ๋งได้ ...
นายแพทย์สรรชัย วิโรจน์แสงทอง ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนวัตกรรม C.I.R.D. (CAPP Innovation Research and Development Center) องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร เปิดเผยว่า จากการศึกษาพบว่า ชายไทยระหว่างอายุ 40-70 ปี พบภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction: ED) ได้ถึง 42% โดยปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยโดยตรง และอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ในที่สุด แต่ที่จริงแล้วพบได้ในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า อนึ่งต้องยอมรับกันก่อนว่า สมรรถภาพทางเพศส่วนมากขึ้นกับอายุ หากลองสังเกตตัวเองจะพบว่า อายุ 30 ก็ไม่เหมือน 20 และ 40 ก็ไม่เหมือน 30 ทั้งนี้สาเหตุอาจมีได้หลายปัจจัย แบ่งได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. ภาวะทางกายภาพ เช่น โรคเบาหวาน ทำให้เส้นเลือดเสื่อม
2. ภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความกังวล นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม เพราะการทำงานหนักเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีการพักผ่อนที่พอเพียง จะมีผลทำให้การผลิตฮอร์โมนเพศชายลดลง
ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้ยาในกลุ่ม phosphodiesterase-5 inhibitors (PDE5-Inhibitor) เพื่อรักษาอาการดังกล่าว แต่การใช้ยาในกลุ่มนี้ มีอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ในระดับสูง เช่น ความดันโลหิตต่ำ ปวดศีรษะ คัดจมูก ตลอดจนการใช้ยาในกลุ่มนี้ร่วมกับยาในกลุ่ม Nitrates อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำ หรือภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (heart attack) ได้ อีกทั้งยากลุ่มนี้มีราคาสูง ทำให้ผู้ป่วยที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งส่วนใหญ่พบในผู้ที่ไม่มีการจ้างงาน (78.5%) ไม่สามารถเข้าถึงยาเหล่านี้ได้
ทีมวิจัยของศูนย์วิจัยนวัตกรรม C.I.R.D. ซึ่งประกอบด้วยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของเมืองไทย พร้อมความร่วมมือจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้ทำการวิจัยกลุ่มยาสมุนไพรตะวันออกที่มีการนำมาใช้ในการบำรุงร่างกาย ช่วงต้นปี พ.ศ. 2554 นี้ โดยการทดลองจริงทางคลินิก (Clinical Trials) โดยใช้ทั้งยาจริงและยาหลอก โดยคัดเลือกเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศระดับเล็กน้อยถึง ปานกลางเข้าร่วมวิจัย โดยเจาะจงศึกษาสรรพคุณเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด ได้แก่ สอเอี้ยง (Suo Yan) ,อิมเอี้ยคัก (Yin Yang Huo) , เขากวาง (Lu Rong) , เม็ดเก๋ากี้ (Gou Gi Zi) , ปาเก็กเทียน (Ba Ji Tian) , เก้ากุ๊กเฮี้ยง (Gou Gu Ye) , เน็กฉ่งยัง (Rou Cong Rong) และสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ป่วย ชายชาวตะวันออกมาเป็นเวลานาน โดยไม่พบรายงานการเกิดพิษรุนแรงที่เป็นอันตรายจากการใช้ยา
ผลการวิจัยพบว่า ยาสมุนไพรที่ใช้ในการทดลอง มีประสิทธิศักย์ในการเพิ่มสมรรถภาพของ erectile function หรือระบบการแข็งตัวในผู้ป่วยชายไทยทีมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศปานกลางได้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับยาหลอก นอกจากนี้ยังพบว่า ยาสมุนไพรที่ใช้ในการทดลอง มีความปลอดภัยและไม่ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ดังนั้นผลิตภัณฑ์นี้ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเล็กน้อยและเล็ก น้อยถึงปานกลางนอกเหนือไปจากการใช้ยาที่ทำจากเคมี”
นพ.สรรชัย ยังทิ้งท้ายว่า จากผลการวิจัยดังกล่าวจะช่วยให้วงการแพทย์ไทย สามารถใช้ประโยชน์ในสรรพคุณทางยา ของสมุนไพรกลุ่มดังกล่าว ในการผลิตยาช่วยผู้หย่อนสมรรถภาพทางเพศได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทดแทนการนำเข้าและไม่มีผลข้างเคียงต่อผู้ใช้ยาอีกด้วย ซึ่งตัวเลขการนำเข้ายาจากต่างประเทศของไทยสูงถึงปีละ กว่า 60,000 ล้านบาท
แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
สาเหตุของโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
มีหลาย ระดับ หากไม่นับโรคทางกาย เช่น อัมพฤก อัมพาต โรคเกี่ยวกับ ระบบเส้นเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหัวใจ โรคเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการเสื่อมได้ทั้งสิ้น เนื่องจากสุขภาพทางกายไม่แข็งแรง ในคนปกติทั่วไป หากมีโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเกิดขึ้น มีปัจจัยทั้งด้านจิตใจและสิ่งแวดล้อมเข้ามา เกี่ยวข้องในการวิจัยที่ต่างประเทศ
การ เสื่อมในผู้ชายที่แข็งแรง อายุเฉลี่ย 40-60 ปี พบว่า การเสื่อมมีสูงถึงประมาณใกล้เคียง 50 % คือ 1 ใน 2 คนมีภาวะเสื่อม การเสื่อมมีหลายระดับ เช่น เสื่อมเล็กน้อย หรือเสื่อมบางครั้งบางคราว เสื่อมปานกลาง คือ เริ่มมีกิจกรรมทางเพศไม่ได้ และการเสื่อมสมบูรณ์แบบ คือ ไม่สามารถมีกิจกรรมทางเพศได้อีกเลย เป็นที่น่าสังเกตว่า การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเริ่มแฝงตัวในคนปกติมากขึ้น เรื่อย ๆ ภาวะการพร่องฮอร์โมนใน ชายวัยทอง ความ เชื่อที่มีกันมานานว่า ผู้ชายจะคงความเป็นชายหรือมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายไปตลอดชีวิต ส่วนผู้หญิงนั้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้วรังไข่จะหยุดการสร้าง ฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้เกิดกลุ่มอาการต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ และอารมณ์
แท้ ที่จริงแล้ว เมื่ออายุย่างเข้าวัย 40 ปีขึ้นไป การสร้างฮอร์โมนเพศชายจะลดลงอย่างสม่ำเสมอทุกปี เมื่อระดับของฮอร์โมนเพศชายลดลงถึงระดับหนึ่งจะเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ไปบางส่วน ทำให้เกิดอาการต่างๆ คล้ายกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
ภาวะ การพร่องฮอร์โมนเพศชายดังกล่าว มักจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อผู้ชายย่างเข้าสู่วัยกลางคน และอาการต่างๆ จะแสดงออกเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงกว่าระดับปกติของร่างกาย ประมาณ 20 เปอร์เซนต์ การพร่องฮอร์โมนเพศชายไปบางส่วนนี้จึงมีชื่อเรียกว่า ” พา – ดาม ” ตรงกับคำในภาษาอังกฤษคือ PADAM ซึ่งย่อมาจากคำว่า PARTIAL ANDROGEN DEFICIENCY OF THE AGING MALE
ผล การศึกษาวิจัยที่เชื่อถือได้มาจากการ ศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เมื่อผู้ชายอายุย่างเข้า 40 ปี การสร้างฮอร์โมนเพศชายจะลดลงปีละ 1 เปอร์เซนต์ และอาการต่างๆ อันเป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมนเพศชายนั้น จะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกิดขึ้นรวดเร็วและอาการมากเหมือนผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
อาการ ! ที่บ่งบอกถึง ” ภาวะการพร่องฮอร์โมนเพศชาย ”
อาการระยะแรก เมื่อร่างกายเริ่มพร่องฮอร์โมนเพศชาย อวัยวะต่างๆ ที่มีส่วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชายจะเริ่มเสื่อมลง ทำงานลดลงและเกิดอาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ตามมา
อาการทางด้านร่างกาย จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ ไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อต่างๆ ลดขนาดลง ไม่มีแรง และอวัยวะเพศเริ่มไม่แข็งตัวในช่วงตื่นตอนเช้า
อาการทางด้านสติปัญญาและอารมณ์ เครียดและหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เฉื่อยชา ขาดสมาธิในการทำงาน ความจำลดลง โดยเฉพาะความจำระยะสั้น
อาการทางด้านระบบไหลเวียนโลหิต บางคนอาจมีอาการ ร้อนวูบวาบหรือมีเหงื่อออกในตอนกลางคืน
อาการทางด้านจิตและเพศ จะมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นตกใจง่าย สมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลง หรือ ไม่มีอารมณ์เพศ บางคนเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย ปัจจุบันพบว่า ชายไทยหลังอายุ 40 ปีไปแล้ว มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีอารมณ์เพศ เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศเมื่อระดับฮอร์โมนเพศ ชายลดลง จึงไม่เกิดอารมณ์ที่จะมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งอวัยวะเพศชายเมื่อขาดฮอร์โมนเพศชายไปกระตุ้นแล้วก็มักจะเสื่อมลงตาม ไปด้วย
ที่มา:women.upyim.com