ท่านพ่อพล ธรรมราช สื่อกลางจองบูชาวัตถุมงคล พ่ออาจารย์พล ธรรมราช
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน19/08/2014
อัพเดท10/10/2016
เป็นสมาชิกเมื่อ 12/06/2012
สถิติเข้าชม351376
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe




ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  กทม 00000
โทร.  0948866245
Mail  korntipchai@gmail.com
Search      Go

Home / All Product List / พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)
รูปภาพประกอบทั้งหมด 1 รูป

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  22/10/2014
แก้ไขล่าสุด  :  22/10/2014
ราคา  4,000

พระผงรุ่นนี้องค์พระจะค่อนข้างหนา อยู่ในลักษณะแบบกลักไม้ขีด เป็นพระผงที่เน้นพุทธคุณไปในเรื่องเสน่ห์เมตตาล้วนๆ เป็นการเปิดพิมพ์ครั้งแรกของหลวงพ่อเลยก็ว่า ได้ ซึ่งแม่พิมพ์นั้นท่านได้แกะเก็บไว้ตั้ง แต่สมัยเป็นฆราวาสแล้ว

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด) คืออะไร
พระผงนี้หลวงพ่อท่านแกะพิมพ์ ต้องท้าวความตั้งเเต่สมัยก่อนทีเดียว การทำพระผงรุ่นนี้อาศัยตัวผู้รับบูชาเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ว่า จะอยู่ที่ไหน ท่านกำหนดให้ตัวเราคือจุดศูนย์กลางแห่งมหาทิศทั้ง4

กล่าวง่ายๆ คือการจัดวางรูปแบบแม่พิมพ์นั้นมีนัยยะสำคัญโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้บูชาสามารถท่องเที่ยวไปในมหาทิศทั้ง 4 และเพื่อเป็นมหาเสน่ห์อย่างยิ่งยวดทั้ง 4 ทิศ จึงได้จักทำแม่พิมพ์นี้ขึ้นมา โดยกำหนดครูเสน่ห์ใหญ่ทั้ง 4 องค์ ประจำอยู่ในแม่พิมพ์ ซึ่งท่านบอกว่า โดยปกติของเสน่ห์มักจะเป็นรูปทะลึ่ง ซึ่งเวลาผู้หญิงเห็นส่วนมากเขาจะหนีมากกว่าที่จะชอบ บางคนไปเจอคนดีๆ เข้าเขาเห็นห้อยขุนแผนหรือห้อยอะไรที่ดูทะลึ่งๆ เขาจะกลัวหรือรังเกียจไปเลยก็มี ดังนั้นท่านจึงได้จัดสร้างในรูปแบบที่ไม่ลามกตามกระเเสเครื่องรางในยุคปัจจุบัน เพื่อให้คงความเข้มขลังแบบที่บูรพาจารย์ทั้งหลายเคยทำเคยสร้างกันมา

ในพระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)นี้ มีรูปเทวดาต่างๆ ซึ่งเป็นครูใหญ่ครูต้นทางวิชาการด้านมหาเสน่ห์ปรากฏอยู่ 4 องค์ อันได้แก่
1. ด้านบนซ้าย คือ องค์พระพาย บรมครูทางเสน่ห์เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่แห่งธาตุบาล ให้การอุปถัมภ์ธาตุลม ซึ่งหลวงพ่อได้เล่าไว้ว่า คนสมัยโบราณนั้นจะใช้ธาตุลมเป็นใหญ่เวลาที่จะเล่นของเสน่ห์นี้ ก็จะอธิษฐานฝากพระพายนี่เเหละ ให้พัดพาเอามนต์เอาคาถาไปตกต้องแก่ผู้นั้นผู้นี้ ให้เค้าหลงใหลงงงวยในอำนาจพระคาถา ซึ่งพระพายนี้ที่ท่านเอามาลงไว้ก็เพื่อให้ผู้บูชาอธิษฐานถึงพระองค์ท่านได้ เวลายกองค์พระขึ้นมาขอพระมีความประสงค์ต้องใจแก่ผู้ใด ก็ขอให้เดชะวายุเวทย์ขององค์พระพายผู้บังคับมิ่งม้าอัศดร พัดพาไปดลจิตดลใจคนผู้นั้นเป็นการเฉพาะ ท่านให้เหตุผลว่า ที่ต้องเป็นเทพเจ้าพระองค์นี้ก็ เพราะว่า จะมีอะไรในโลกที่รวดเร็วไปเสียได้มากกว่าลม ลมหรืออากาศนี้มีอยู่ในทุกที่ เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องสูดเข้าผายออกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อองค์พระพายให้การอุปถัมภ์แล้ว จะได้แรงเเละเร็วเหมือนมหาวายุพัด เป็นเคล็ดทางไสยศาสตร์ที่สามารถเข้าออกชำแรกเนื้อแฝงกายแฝงใจอยู่กับเค้านั่นเอง

  1. ด้านบนขวามือ คือ อสูรคุรุศุกราจารย์ (พระศุกร์) พระศุกร์นั้นเป็นครูใหญ่ทางวิชาไสยศาสตร์และมนต์ดำอย่างแท้จริง ถ้าเปรียบองค์พระพฤหัสเป็นไสยเวทย์ฝ่ายขาว พระศุกร์ก็เสมือนไสยเวทย์ฝ่ายดำนั่นเองเป็นดวงดาวที่เข้าอุปถัมภ์ผู้ใดเเล้ว คนผู้นั้นจะมีดวงเป็นคนเจ้าเสน่ห์ เป็นที่นิยมแก่บุคคลโดยรอบในทุกชนชั้นของสังคม ตลอดจนให้ผลทางด้านอารมณ์คือมักมากในกามคุณด้วย หลวงพ่อในสมัยก่อนที่ท่านแกะพิมพ์นี้ไว้นั้น ท่านพึงใจให้คนที่ดวงชะตาอาภัพอับโชคเรื่องความรักได้บูชาเทพเจ้าพระองค์นี้โดยเฉพาะ ท่านถือว่า เป็นครูต้นเเห่งไสยศาสตร์เป็นเทพเจ้าเเห่งเสนห์ที่รู้จบเรื่องเวทย์มนต์คาถาโดยถ่องแท้ ท่านเเกะรูปเเละเชิญท่านไว้อยู่กับเนื้อกับตัวเรา เหมือนเอาพระศุกร์มาเสริมแก่ชะตาเราจากอาภัพก็จะได้มีคู่ มีพื้นดวงที่ปรับที่แก้เสียใหม่เป็นคนมีเสน่ห์มีหน้าตาในสังคม
  2. ด้านล่างซ้ายมือ คือพระฤาษีโคบุตร นี่ก็เป็นบรมครูด้านเสน่ห์อีกองค์ ประวัติท่านไม่ว่า จะไปอยู่ที่ไหนนางฟ้านางสวรรค์เป็นสิบเป็นร้อยได้เห็นท่านก็หลงหัวปักหัวปำเป็นเมียท่านไปหมด ย้ายจากตรงนี้ไปที่ไหนก็ได้ใหม่ที่นั่นไม่รู้จักหมดรู้จักจบสิ้น ท่านว่า เหมือนลักษณะของคนเจ้าเสน่ห์โดยเฉพาะ ไม่ใช่รักเพียงนางสองนาง แต่เหมาทีละสิบทีละร้อยจนหมดปริมณฑลในบริเวณนั้นทีเดียว ใครเห็นท่านก็ตกหลุมรักพร้อมที่จะพลีกายถวายใจให้กับท่าน ท่านถืออานิสงค์ทางด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อที่จะให้ผู้ประสบพบเจอเราเพียงมองหรือเห็นเราก็ตกหลุมรักเพื่อให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นเหมือนเทพธิดาต่างๆ ที่ตกหลุมรักพระฤาษีโคบุตรนั่นเอง
  3. ด้านล่างขวามือ คือนางตัณหา หลวงพ่อท่านเรียกว่าแม่ยั่วเมือง นางตัณหานี้บางที่ก็ตีไปเป็นพระอุมาปางที่ลงมาเพื่อยั่วเย้าพระศิวะบางที่ก็ตีไปเป็นนางตัณหาธิดาพญามารที่มายั่วยวนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เเต่ทางหลวงพ่อท่านได้พูดไว้เเต่เป็นฆราวาสว่า นางตัณหาของเราในพระผงรุ่นนี้ก็คือรูปเปรียบตัวแทนแห่งกามคุณและตัณหานั่นเอง หากมนุษย์ยังเสพย์กามเเละมีกิเลสตัณหามีความปรารถนา พลังของนางก็จะยิ่งทวีความรุนแรงเเละเเกร่งกล้ามากขึ้นเฉกเช่นเทพเจ้าองค์อื่นๆ ท่านประสงค์ใส่รูปนางนี้ไว้ลงมนต์ตัณหาสิบแสนไม่ใช่เพียงเรื่องตัณหากำหนัดเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อเพิ่มความแรงให้กับองค์พระด้วย ท่านว่า เเรงเท่าใจของเราใจเรากล้าใจเราเชื่อมันเท่าไหร่จะเป็นพลังส่งไปให้นางตัณหานี้แรงขึ้นเป็นเงาตามตัว ขึ้นอยู่กับน้ำใจของเราโดยเฉพาะว่า มั่นใจเเละสนิทใจแค่ไหน ท่านเสกท่านเชิญมาดีเเล้วให้เเรงเสมอใจเสมอตัณหาในตัวของเราเพียงนั้น

พระผงนี้มีความหมายลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้บูชาเป็นจุดศูนย์กลางอยู่ในมหาทิศทั้ง 4 ซึ่งใน แต่ละทิศก็จะเเวดล้อมด้วยเทพเจ้าเเละบริวารของท่านเสริมส่งให้เราเป็นผู้มีเสน่ห์ขั้นสูงเเละส่งผลให้เราสำเร็จเรื่องที่ขอได้ไวสมความปรารถนาด้วย

มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)นี้ นอกจากผงลบกระดานชนวนทางด้านเสน่ห์ล้วนๆ เเล้ว ท่านยังเน้นผงพิเศษให้มีเเรงอาถรรพ์เพิ่มขึ้นอีกเฉกเช่นพระเครื่องที่บูรพาจารย์ในอดีตทำไว้ ซึ่งได้ผสมผงต่างๆ ลงไปเพิ่ม ดังนี้
1. ผงดินหน้าตะโพน เป็นดินที่ขูดออกมาจากหน้าตะโพนเก่าที่ใช้งานเเล้ว ท่านถือคติที่ว่า ตะโพนนี้ยิ่งตียิ่งดังยิ่งกังวาลไปไกล ตะโพนนี้ตีที่ไหนก็มีคนไหลเวียนมารวมตัวกันที่นั่น ถือเป็นกลเม็ดทางไสยศาสตร์ที่ว่า ผู้บูชาวัตถุมงคลที่ทำจากดินนี้จะได้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นมหานิยมชมชอบเเก่คนหมู่มาก อยู่ที่ไหนคนก็อยากเข้ามาหามาทำความรู้จัก

  1. ผงดินอาถรรพ์ 7 ป่าช้า เป็นผงดินที่ลูกศิษย์ท่านรวบรวมมาให้ จากป่าช้าอาถรรพ์ที่พลีเเละขออนุญาตินายป่าช้ามาเเล้ว ซึ่งคติบูรพาจารย์ แต่โบราณนั้นเวลาทำของเสน่ห์มักจะขาดดิน 7 ป่าช้าไม่ได้เลย ดิน7ป่าช้านี้ หลวงพ่อท่านบอกว่าไม่ได้เอาอาถรรพ์เอาคุณของผีมาใช้ ที่เอาดินนี้มาผสมเราก็ทำน้ำมนต์ประสระเเล้วเสียครั้งหนึ่ง ดินนี้ถือว่า มีอาถรรพ์ในตัวเอง ที่ว่า อาถรรพ์นั้น เพราะแม้เเต่คนตาย ยังต้องไปชุมนุมกันในบริเวณนี้ จะยากดีมีจนสวยงามหล่อเหลามาจากไหน พอตายก็โดนฝังรวมกันอยู่บริเวณนี้ จากยุคสมัยสู่ยุคสมัยก็ยิ่งทวียิ่งเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ จากสิบเป็นร้อยจากร้อยเป็นพัน ถือเป็นสถานที่อาถรรพ์ที่ใช้เคล็ดทางมหานิยมได้ เพราะเเม้เเต่จะตายก็ยังต้องมาหาที่นี่มาอยู่รวมกันที่นี่นั่นเอง
  2. ผงพรายช้างเผือก เป็นผงพรายที่ไม่ใช่พรายมนุษย์ เเต่เป็นพญาช้าง ที่หลวงพ่อได้ลงมนต์ช้างประสมโขลงไว้ โอม พญาลืมพง ช้างเห็นช้างหลง คนเห็นคนหลง หงษ์เห็นหงษ์หลง.... ท่านถือคติที่ว่า ผู้บูชาจะได้มีแรงดุจพญาคชสาร เเละที่ต้องเป็นช้างเผือกก็ เพราะเป็นช้างที่มีลักษณะดีเป็นมงคลอยู่โขลงไหนก็เป็นหัวหน้าเขาเป็นผู้นำเขา เป็นช้างที่แม้เเต่พระมหากษัตริย์ก็ต้องออกไปคล้องมาสู่บารมีของพระองค์เองเป็นสมบัติจักรพรรดิ์ นางช้างทั้งหลายไม่ว่า เชือกไหนเห็นพ่อพลายช้างเผือกนี้ก็โอนอ่อนผ่อนตามจนมีลูกมาเป็นโขลงเป็นฝูง ถือเป็นเคล็ดทางเสน่ห์ที่พอนำมาลงมนต์ช้างผสมโขลงเเล้วยิ่งทวีความดุดันเเละรุนแรงมากขึ้นไปอีก
  3. ผงไม้ตะเคียนทองอาถรรพ์ ต้นที่มีแม่นางตะเคียนทองแม่นางสไบทองสิงอยู่ ถือเป็นไม้ที่เฮี้ยนเเละเเรงจนถึงขั้นตกน้ำมันทีเดียว เป็นไม้ที่มีเเม่ยาตะเคียนสไบทองอาศัยอยู่ หากผู้ใดได้เคารพบูชาอธิษฐานขอพรท่านก็จะเพิ่มความแรงเเละไวๆ ในทุกๆ เรื่องที่ท่านช่วยเหลือได้ให้สมความปรรารถนา
  4. ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ใส่เป็นหัวเชื้อเป็นชนวน สำหรับรายการนี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เพราะความเข้มขลังนั้นติดระดับประเทศอยู่เเล้ว
  5. ผงว่านทางเสน่ห์ที่หลวงพ่อท่านนำมาเข้าเก็บไว้ เป็นว่านที่ท่านพลีมาเองจากธรรมชาติ ทั้งเสน่จันทร์ ดอกทอง นางล้อม นางแย้ม และอื่นๆ อีกมากมายที่ท่านหาท่านเก็บมาพลีนำมาป่นผสมเข้าว่านเป็นโถว่านที่ท่านเสกไว้ให้เเรงเทียบเคียงผงอาถรรพ์ทีเดียว

ก็อธิบายคร่าวๆ ตามที่ท่านอนุญาติให้เปิดเผย แต่ความจริงท่านผสมไปมากกว่านี้ ทั้งผงเสน่ห์ยาแฝด ผงศิวลึงค์เขมรโบราณและอื่นๆ อีกมาก ถือเป็นพระผงอาถรรพ์ที่ท่านตั้งใจให้เข้มขลังเหมือนสมัยบูรพาจารย์ทำไว้ทีเดียว

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)นี้ จะฝังตะกรุดต่างๆ กัน ดังนี้
1. ด้านหน้า จะฝังตะกรุดดอกเล็กไว้กลางเทพเจ้าทั้ง4 เป็นตะกรุดที่ท่านลงด้วยยันต์และเสกด้วยมนต์ที่ชื่อว่า พระพุทธเจ้าเรียกนางภิกษุณี ถือเป็นเคล็ดว่า เราจะชอบใครจะอธิษฐานหาใคร เรียกเขาเเล้วเขาต้องมา เทพทั้ง4จะต้องดลบันดาลให้เขามาหาเราเฉกเช่นพระพุทธเจ้าเรียกนางภิกษุณี

  1. ด้านหลัง ดอกที่หนึ่ง เป็นตะกรุดที่ลงหัวใจพระศุกราจารย์ เพื่อเอาดวงดาวศุกร์นี้มาไว้ประจำกับตัวเเนบเนื้อแนบตัวเราส่งผลให้เราเป็นคนเจ้าเสน่ห์มีดวงเป็นที่นับหน้าถือตาใครเห็นก็อยากมารู้จัก ส่งผลกระตุ้นเรื่องกามารมย์โดยเฉพาะ
  2. ด้านหลัง ดอกที่สอง เป็นตะกรุดฝนเสน่ห์แสนห่า เปรียบความเมตตากับน้ำฝนหยดหนึ่งที่ตกลงมาบนโลกมนุษย์ ฝนตกลงมาเท่าไหร่ในห่าหนึ่งกี่ล้านเม็ด และเเสนห่าฝนนี้จะมีเม็ดฝนประมาณมิได้กี่ร้อยล้านเม็ด ผู้ที่บูชาก็จะได้รับกระเเสความเมตตาเสน่หาเหมือนฝนเเสนห่าที่ตกลงมาครอบคลุมกายไว้ฉันใดก็ฉันนั้นจะติดต่อพูดคุยเจรจาเรื่องใด จะจีบใครทักใคร ก็พลอยทำให้คนเหล่านั้นได้รับกระเเสเสน่ห์ฝนแสนห่านี้ไปด้วยนั่นเอง
  3. ด้านหลัง ดอกที่สาม เป็นตะกรุดสวรรค์หลงทาง เเม้เเต่เทพเจ้าบนสวรรค์ยังหลงทางด้วยฤทธิ์เเห่งมนต์เเละพระยันต์นี้ เมื่ออยู่กับเนื้อกับตัวเราก็จะเป็นที่น่าพึงใจหลงใหลได้ฉันใดก็ฉันนั้น ถือเป็นวิชาทางมหารักมหาหลงที่เน้นเรื่องสะกดให้หลงโดยเฉพาะ
  4. ด้านหลัง ดอกที่สี่ เป็นตะกรุดรักกูทั้งไตรภพ ไตรภพในที่นี้ก็คือสวรรค์มนุษย์และบาดาล ครอบคลุมสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เน้นการสื่อจิตให้เค้ารักเค้าปรารถนาดีต่อเราเมตตาต่อเราถือเป็นตะกรุดที่ดีทางเสน่ห์และมหาเมตตาใหญ่ในตัวเอง

คาถาบูชา
โอมรำจิตพิศดาร พระพายพัดท่าน ถูกต้องรำจวนจิต รำจวนป่วนจิต รำจวนป่วนใจ พระพายพัดไปถูกต้องรำจวน รำจวนกวนจิต รำจวนกวนใจ ทอดเนตรแลไป เป็นละลวยมหาละลวย เห็นเราเเล้วงงงวยจงใจรัก ไม่เห็นหน้าก็อยู่มิได้ให้ร้องไห้มาหา มะอะอุ พรหมมะจิตตัง พระพายเจ้าเอ๋ย จงไปพัดเอาจิตนาง(นึกหน้าคนที่เราชอบ) มาสู่จิตเรา สัมพะหุลา ปัตติโย สังวิมังสังสะพูเทวา ถูกตาผู้นั้น สวาหะ

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด)นี้ ท่านใดจะจองบูชาก็ดำเนินการได้เลย ผมจะเเจ้งยอดให้ทางหลวงพ่อทำให้ทันที และหลังจากทำการจองเเล้วก็จะจัดส่งให้ภายใน 2 อาทิตย์ จัดเป็นพระผงมวลสารดีๆ อีกรุ่นหนึ่งที่กว่าจะสร้างได้เเต่ละองค์นั้นยากเย็นมาก แม้ แต่การลงตะกรุดก็พิถีพิถันทำให้เต็มสูตร ยิ่งการเสกพระนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะหลวงพ่อพูดเองว่า แต่ละองค์นั้นเสกให้ครบทุกบทถึงเรียกว่าพระเเสนมนต์ เป็นพระผงที่ดูมีเสน่ห์ในตัวเอง เพราะขึ้นพิมพ์แบบโบราณโดยเเท้จริง

พระผงจตุรทิศแสนมนต์ (กลักไม้ขีด) ร่วมทำบุญบูชาองค์ละ 4,000 บาท

 เขียนความคิดเห็น (ความคิดเห็นจะขึ้นแสดงเมื่อได้ยืนยันผ่านทาง email แล้วเท่านั้น)
เลือกหมวดแสดง :
ชื่อ :    เจ้าของร้าน
Email :    ส่ง Email เมื่อมีคนตอบความคิดเห็น
แนบไฟล์ :