ท่านพ่อพล ธรรมราช สื่อกลางจองบูชาวัตถุมงคล พ่ออาจารย์พล ธรรมราช
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน19/08/2014
อัพเดท10/10/2016
เป็นสมาชิกเมื่อ 12/06/2012
สถิติเข้าชม391011
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe




ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  กทม 00000
โทร.  0948866245
Mail  korntipchai@gmail.com
Search      Go

Home / All Product List / ทำบุญบูชา พ่องั่งเจ้าโลก

ทำบุญบูชา พ่องั่งเจ้าโลก

ทำบุญบูชา พ่องั่งเจ้าโลก

ทำบุญบูชา พ่องั่งเจ้าโลก

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  31/03/2015
แก้ไขล่าสุด  :  31/03/2015
ราคา  15,000

ในอดีตที่ผ่านมา พ่ออาจารย์ท่านเคยปรารภไว้ว่า จะไม่ทำเครื่องรางสายต่ำเด็ดขาด ซึ่งงั่งก็คือหนึ่งในนั้น แต่ก็ได้มีผู้เรียกร้องให้ทำให้เขาใช้ ซึ่งท่านก็ได้อนุโลมให้ แต่มีกฏเหล็กอยู่ว่า ถ้าไม่ทำก็แล้วไป แต่ถ้าทำแล้ว ของๆ เราจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินไม่ได้

ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นถึงพลังและอิทธิคุณบางประการของพ่องั่ง ที่หาได้ยาก เป็นพลังที่ดีงามและมีคุณเป็นเอนก จะหาพลังเช่นนี้ในมงคลวัตถุชิ้นใดนั้นเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

หากพูดถึงเครื่องรางงั่งเเล้วหลายๆ คนมักนึกไปถึงอาคมเขมรต่ำ ใช้ให้ผู้หญิงรักผู้หญิงหลง ใช้เพื่อเรื่องกามสวาท ต้องปลุกเสกในซ่องในป่าช้า เป็นของอาถรรพ์ที่มีพลังงานด้านลบปะปนอยู่มาก บางรายใช้เเล้วต้องเสนียดหรือไม่กล้านำเข้าบ้านเลยก็มี เพราะเครื่องรางประเภทนี้มักจะใช้จิตและเจตสิกของภูติพรายที่กระหายในกามมาแฝงไว้

พ่ออาจารย์ท่านเห็นเป็นเรื่องมิสมควรและเป็นการลบหลู่ต้นเหง้าพลังแห่งจิตวิญญาณของพ่องั่งอย่างมาก ท่านจึงดำริทำให้พ่องั่งนั้นเป็นงั่งจริงๆ เป็นงั่งแท้ๆ ในสมัยอารยธรรมฮินดูโบราณที่มีการพกการใช้งานกันจริงๆ

เครื่องรางงั่งนั้น กำเนิดมาจากมหากรุณาแห่งองค์พระสยมภูวญาณ(พระศิวะ)โดยแท้ สมัยก่อนนั้นมนุษย์มีการแบ่งชนชั้นวรรณณะ เทวาลัยทั้งหลาย เทพเจ้าพระองค์ต่างๆ ถูกจำกัดให้เป็นที่เคารพพและดำเนินการทางศาสนกิจเฉพาะบุคคลชั้นสูง ประชาชนคนชั้นแรงงานหรือทาสจัณฑาล คนเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าเทวาลัย ไม่มีสิทธิ์ที่จะศรัทธาหรือเพียงเอ่ยนามพระเป็นเจ้าของเขาก็จะได้รับการทารุณกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจากชนชั้นปกครอง

การถูกกดดันทางวรรณณะทางสังคมลุกลามไปทุกหย่อมหญ้า เลือดของเขาเหล่านั้นเปื้อนแม่พระธรณีมามิรู้เท่าไหร่น้ำตารินไหลมาเท่าไหร่แล้ว พวกเขาเหล่านั้นได้รวมตัวกันยามค่ำคืน นำวัสดุที่พอหาได้ปั้นเป็นเทวรูปขึ้นมากระทำการบูชากันอย่างลับๆ เพื่อมิให้ใครเห็นไม่ให้รู้ถึงหูชนชั้นปกครอง บูชาด้วยหัวใจด้วยศรัทธาที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขา

ในการณ์นั้นองค์พระสยม(ศิวะ)ได้ทราบถึงทุกขเวทนาของมนุษยชาติ ความทุกข์ระทมของเขาทั้งหลายจากรุ่นสู่รุนได้เข้าไปเกาะกินในกระเเสมหาญาณแห่งพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จึงโปรดให้พวกเขาเหล่านั้นได้พบทางออกและแสงสว่าง โดยการที่พระองค์เองได้ลงไปเอากำเนิดในชนชั้นจัณฑาลที่ต่ำที่สุดของอินเดียโบราณ

เมื่อถือกำเนิดขึ้นนั้นธรรมชาติทั้งหมดได้วิปริตโกลาหลแม้บรรยากาศก็เกิดอาการหวาดผวาสำแดงให้เหล่าจัณฑาลทั้งหลายเห็นว่า มีผู้ทรงบุญญาธิการถือกำเนิดขึ้นแล้วในหมู่จัณฑาลของพวกเขา บุคคลผู้นี้คือพระผู้ปลดแอกชาวจัณฑาลทั้งหลายออกจากสังคมมืดที่เลวร้ายโดยแท้จริง

องค์พระศิวะมหาเทพในภาคจัณฑาลนั้น เมื่อเติบโตขึ้นได้เข้าใจความเป็นอยู่ความทุกข์ทรมานของพี่น้องเพื่อนร่วมวรรณณะเป็นอย่างดี พระองค์ได้ดำเนินกลยุทธิ์สุดพิศดาร ด้วยการใช้เล่ห์ทางกามคุณให้เจ้าหญิงลูกสาวของพระราชาทุกหัวเมืองมาหลงรักชอบพอพระองค์ เมื่อพระธิดาของพระราชาทั้งหลายกลายเป็นภรรยาของจัณฑาลหนุ่มน้อยเเล้ว ต่างนางต่างก็รบเร้าพระบิดาตนเองให้ยกฐานะและรีบจัดพิธีอภิเษกให้กับจัณฑาลหนุ่ม

ต่อมาพระราชาทั้งหลายก็ทนการรบเร้าของพระธิดามิได้ เนื่องจากทุกพระองค์หากมิได้ แต่งงานกับจัณฑาลหนุ่มเเล้วก็พร้อมใจกันที่จะปลิดชีวิตของตนเอง เป็นเหตุให้องค์พระอวตารนั้นจากจัณฑาลต่ำสุด ได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของราชวงศ์กลายเป็นพระราชบุตรเขยแลได้กลายเป็นพระราชาที่กุมอำนาจปกครองมณฑล แว่นแคว้น และทวีปทั้งหลายต่อไป มีพระธิดาเเละลูกสาวเจ้าเมืองมากมายมาผูกสมัครรักใคร่ จากพระราชาจึงกลายเป็นมหาราชแห่งยุค

องค์พระอวตารได้ปลดแอกจัณฑาลทั้งหลาย ให้เข้าเทวาลัยบูชาพระเจ้าของตนเองได้ ให้สิทธิ์ในการรับราชการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงใช้ทุกวิถีทางเพื่อโปรดชนชั้นล่างสุดยกชีวิตของพวกเขาขึ้นมาจนได้ดิบได้ดี ท้ายที่สุดแห่งพระชนม์ชีพพระองค์ก็ได้ลาจากโลกนี้ไปเพื่อกลับสู่วิมานไกรลาส

เหล่าจัณฑาลทั้งหลายนั้น เมื่อองค์พระผู้ปลดปล่อยมิได้ดำรงค์พระชนม์อยู่เเล้วก็กลับมาตกสู่ในยุคมืด โดนคนชั้นปกครองข่มเหงรังแกอยู่ร่ำไป....

...จะมีสิ่งใดเลวร้ายเท่าการถูกกดขี่ข่มเหง เพราะชาติกำเนิดที่เลือกเกิดมิได้ เมื่อองค์อวตารมิได้ดำรงค์พระชนม์อยู่แล้ว จัณฑาลทั้งหลายก็เข้าสู่ยุคมืด พาลประสบพบเจอกับกลียุคอีกครั้งหนึ่ง เขาเหล่านั้นได้รับภัยจากสังคมรอบด้านอยู่ในสถานะที่ต่ำที่สุด มีค่าต่ำกว่าเดรัจฉานอย่างช้างม้าวัวควาย

ด้วยแรงศรัทธาในองค์พระผู้ปกป้อง จัณฑาลทั้งหลายจึงได้ประดิษฐ์พระรูปขององค์อวตารพระองค์นั้นขึ้นมาเพื่อจะกระทำการบูชาบอกกล่าวพระองค์อีกครั้ง แต่ทางการก็ได้ตามทำลายรูปเคารพและสถานที่บูชาต่างๆ อยู่ร่ำไป

จัณฑาลเหล่านั้นจึงเอารูปพระองค์ทำให้มีขนาดกะทัดรัดขึ้นเพื่อนำมาห้อยคอ แต่ก็ปรากฏว่า พระรูปที่ห้อยนั้นใครเห็นก็นำไปฟ้องทางการจัณฑาลเหล่านั้นก็จะถูกทุบตีทำร้ายเสมอไป จนท้ายที่สุดด้วยความจำเป็นเขาทั้งหลายต้องพกพระรูปไว้ในร่มผ้าเพื่อปกป้องชีวิตตนเองและไม่ให้มีผู้ใดได้เห็น

ด้วยมหากรุณาแห่งองค์พระศิวะเจ้าที่ชนทั้งโลกพึงเรียกพระนามว่า พระโพเลนาถ พระองค์มิได้เลือกชั้นวรรณณะที่จะสงเคราะสัตว์ผู้ยากทั้งหลายเลย เหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ด้วยอำนาจของพระรูปองค์พระอวตารนั้น ผู้ใดได้พกก็มักจะได้หญิงสาวชนชั้นสูงมาเป็นคู่ครอง ได้เลื่อนฐานะจากจุดต่ำสุดไปสู่จุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากจัณฑาลกลายเป็นเศรษฐีกลายเป็นเจ้าชาย จากคนไม่มีที่กินที่อยู่กลายเป็นเจ้าของที่ดิน มณฑล แว่นเเคว้น

จึงเกิดเป็นธรรมเนียมลับๆ ในหมู่จัณฑาลขึ้น โดยการสร้างพระรูปองค์พระอวตารนั้นด้วยพิธีไสยเวทย์เพื่อพกพาไว้ในซิ่นผ้า เมื่อจัณฑาลได้สมสู่กับเจ้านายลามไปถึงวรรณณะกษัตริย์ คติพระรูปองค์อวตารนี้ก็เผยแพร่เข้าสู่ชนชั้นสูง ต่อมาก็กลายเป็นธรรมเนียมที่ว่า หญิงอยากได้ผัวดีอยากได้ผู้มีสกุลสูงส่งก็เอามาพก ชายอยากได้เมียดีมีเมียที่มีสกุลสูงส่งก็เอามาพก เเต่ก็จะปกปิดกันไม่บอกแก่ใครๆ ทำให้มีผู้รู้น้อยมาก จะบอกก็เพียงทายาทของตนเท่านั้นเป็นคติจากรุ่นสู่รุ่น ใครที่มีความโลภมิปรารถนาเห็นผู้อื่นได้ดีไปกว่าตนเมื่อได้ดีเเล้วก็ไปทุบทำลายเเละสร้างข่าวผิดเพี้ยนต่างๆ นานาจนคนไม่กล้าที่จะบูชา เพื่อจะเหลือไว้ แต่ตนเองเท่านั้น ที่จะได้ดีเพียงคนเดียว จนถึงที่สุดแล้ว คตินี้ก็ค่อยๆ เลือนหายไป

พ่องั่งเจ้าโลก

พ่ออาจารย์ท่านเห็นเป็นเรื่องตลกอย่างยิ่ง เพราะคติงั่งนั้นได้แปรเปลี่ยนไปจากเดิมเเล้วมีการนำไปวางใต้ทางเท้า ใต้ซ่อง ใต้เตียงคนสมสู่กัน พกไว้ในกางเกงใน บูชาด้วยประจำเดือน ประกอบพิธีเชิญญาณด้วยจิตของภูติพรายเเละสัมภเวสี ซึ่งไม่ใช่เรื่องอันควรที่จะกระทำกับพระรูปองค์อวตารเช่นนี้ เหมือนลากฟ้าให้จมดินดึงดวงตะวันมาแปดเปื้อนโคลนตม

เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ใช้ที่ไม่รู้ น่าเวทนาชีวิตเขาเหล่านั้นที่จะได้รับเสนียดเเละผลเเห่งกรรม อันดึงพระรูปเเห่งเป็นเจ้าสูงสุดไปกระทำย่ำยี ชีวิตเขาทั้งหลายก็จะไม่ได้รับความสุขในชีวิตคู่ไม่พาลพบกับโชคดีหรือสิ่งที่ดีงาม จะกลับกลายตรงกันข้ามให้ประสบพบเจอเเต่สิ่งที่จะเข้ามาทำลายชีวิต

ถ้าไม่ทำก็แล้วไป แต่ถ้าทำแล้ว ของๆ เราจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินไม่ได้
ไศวะศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้งมีมนตราเเละพิธีกรรมมากมาย เมื่อมีผู้รู้ถึงข้อดีของพระงั่งจะให้พ่ออาจารย์ทำให้ ท่านก็เมตตาสงเคราะห์ไปตามวาระเเละโอกาส

ในภายหลังนั้นพระที่เเกะจากไม้ช่อฟ้าในสมัยสมเด็จโต วัดระฆัง พ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ค่อยจะทำเเล้ว หากทำก็จะทำเพื่อสงเคราะห์เป็นรายๆ เป็นกรณีไป ในการทำพระงั่งนี้ก็เช่นกัน ท่านไม่ใช้วิธีการเทหล่อแบบที่ไหนๆ

ท่านถือคติที่ว่า ชนโบราณนั้นได้เพียรกระทำรูปพระอวตารขึ้นมาจากจิตวิญญาณทุกองค์ จะเทหล่อมันก็สำเร็จง่ายเกินไป เราจะเเกะสลัก เพราะจะได้ท่องบ่นศิวะมันตราและใส่พลังอำนาจปลุกกระเเสจิตเข้าไปด้วย ใช้สิ่งที่สูงเหนือหัวมาสร้างของที่สูงส่ง

การสร้างนั้นก็ค่อนข้างจะยุ่งยาก เพราะในอดีตนั้นงั่งทุกตน ที่ได้สร้างจากชาวอารยะโบราณ ภายในองค์นั้นจะบรรจุแร่เหล็กไหล ซึ่งถือว่า เป็นธาตุกายสิทธิ์แห่งองค์พระเป็นเจ้าไว้ด้วย เรียกว่าใจงั่ง ไหนๆ เราก็ทำแล้ว ถ้าทำให้ดีกว่าโบราณไม่ได้ก็ไม่อยากเสียเวลามานั่งทำ

ใจงั่งนี้สำคัญที่สุด หากงั่งตนใดไม่มีใจก็เหมือนงั่งไม่มีชีวิต ใจงั่งนี้จะเป็นกายสิทธิ์ที่เก็บรวบรวมพลังงานของพระงั่งก็ว่า ได้ เพื่อจะใช้รองรับกระเเสมหาญาณของพระผู้เป็นเจ้าที่จะถ่ายทอดลงในพระรูปอวตารนั้นๆ

ซึ่งพ่ออาจารย์ก็ได้นำเหล็กอาถรรพ์ชนวนที่ให้ศิษย์ท่านหลอมเก็บไว้ให้ เพื่อทำดาบเเละมีดหมอตามตำราพิชัยสงคราม อันประกอบด้วยเหล็กไหลชนิดต่างๆ ตะปูสังขวานร ยอดปราสาท ปรอทสำเร็จ เหล็กเปียก เหล็กน้ำพี้ เหล็กพลิกศพกลับศพ และอื่นๆ อีกมากมาย มาพลีเเละตัดบรรจุเพื่อเป็นใจงั่งให้ตรงตามคติโบราณและเชื่อว่า จะต้องแรงกว่าที่โบราณเคยทำไว้

ด้านหลังนั้นอุดด้วยผงกามคุณตัณหาสิบแสน ที่ท่านไม่ค่อยจะยอมผสมหรือลงในวัตถุมงคลชนิดไหนแบบหัวเชื้อเพียวๆ ล้วนๆ ท่านว่า เป็นผงเสน่ห์ที่มีคุณอยู่ในชั้นบรมครู เหรือกว่าผงอิทธิเจ อิทธิเจดำอะไรทำนองนี้ เพราะต้องเข้าผงเข้าว่านลบผงเล่นสูตรตามวิชา

และได้ทำการฝังตะกรุดบรรจุวิชาด้านเสน่ห์ต่างๆ ไว้เเต่การทำวิชานี้ไม่ได้เน้นวิชาเสน่ห์ธรรมดาเเต่เน้นวิชาที่ช่วยให้มีชัยชนะ ท่านได้บรรจุยันต์ชัยมงคลไว้เพื่อให้ผู้บูชาเหนือกว่าคู่เเข่งทั้งหลาย ใครก็ตามไม่ได้ ใครก็แย่งของที่เราหมายปองมิได้ หากเรารักเราประสงค์ย่อมเป็นของของเรา เพราะเราจะมีชัยชนะเหนือเขาตลอดเวลาด้วยอาถรรพ์เเห่งวิชานี้

พ่ออาจารย์นั้น ท่านได้แกะพ่องั่งเจ้าโลกประทับนั่ง เบื้องหลังเป็นศิวลึงค์ศูนย์กลางพลังงานของจักรวาล เป็นตัวแทนแห่งองค์กำลังของพระศิวะเจ้าโดยแท้ เพื่อให้พลังนั้นไม่มีวันเสื่อมถอย ไม่มีวันหมดไปท่านว่า พ่องั่งหรือองค์อวตารนี้จะได้รับการเติมพลังจากองค์ต้นกำเนิดอยู่ตลอดเวลา แรงไม่มีวันตก

ในส่วนของการปลุกเสกนั้น พ่ออาจารย์ได้กระทำพิธีอธิษฐานฤทธิ์และเชิญญาณแห่งมหาเทพด้วยการประสระโลหิต โดยท่านได้กรีดเลือดของท่านเพื่อพลีกรรมบูชาองค์มหาเทพ เปรียบเสมือนการใช้เลือดเนื้อและชีวิตเพื่อเป็นสื่อสังเวยบูชาพระองค์ ให้สมกับเหตุการณ์ในอดีตที่พระศิวะเจ้า ทนเห็นเลือดเห็นน้ำตาผู้ศรัทธามิได้ ต้องรีบอวตารลงมาช่วยเหลือทันที

พ่ออาจารย์ท่านได้อ่านมนต์โองการชุมนุมเทพ และทำพิธีประสระโลหิตพร้อมเดินมนต์ชุมนุมคาถาเพื่อจะทำการปลุกเสกพระงั่ง ซึ่งเป็นเครื่องรางที่จะต้องเสกเดี่ยวเสกทีละองค์แบบนี้ทำพร้อมๆ กันกับอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เมื่อเลือดของท่านโชลมไปทั่วองค์เทวรูปแล้วท่านก็อธิษฐานจิตเชิญกำลังอำนาจญาณของมหาเทพให้อวตารลงมาสถิตย์พระรูปเฉกเช่นอดีตกาล ในระหว่างนั้นท่านต้องหยาดเลือดไปตลอด หยุดชะงักมิได้จนกว่าเลือดจะกระเด็นจากองค์พระศิวะมาสู่พานที่ใส่พระงั่ง เปรียบประดุจการเเบ่งภาคเเบ่งชีวิตออกมากำเนิดใหม่ เสร็จแล้วจึงจะทำการอธิษฐานจิตบรรจุคุณและคาถาอื่นๆ อีกคำรบหนึ่ง

การบูชา
การบูชานี้เมื่อผู้บูชาได้รับพระงั่งที่ประจุคุณตามไสยวิธีฝ่ายสูงไปแล้วให้กระทำการขอขมาท่านก่อนเพื่อจะทำการพกพาท่านไว้บูชาอันนี้สำคัญนักต้องทำเป็นอย่างเเรก เพราะถือคติไม่ห้อยคอ ให้พกท่านไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือทำเป็นพวงกุญเเจ เหน็บไว้ตรงเอวก็ได้ แต่ก็พยายามปกปิดเอาไว้ ไม่ควรให้คนภายนอกเห็น(พ่ออาจารยย์ท่านว่า เป็นเสน่ห์รุนแรงเเบบสุดๆ) จะได้เจอเนื้อคู่มีคู่ครองที่ดี เจอคนที่ดีเจอคนชั้นสูงเข้ามาในชีวิต(วันไหนหาคู่บอกท่านก่อนว่า จะเอาคู่ วันไหาหาลาภจะทำอะไรต้องการเท่าไหร่ ก็บอกท่านก่อน)จะไปหาคู่ หาลาภ เสี่ยงดวง พ่ออาจารย์ท่านว่า ใช้ได้ทั้งหมดขอให้บอกกล่าว และจะสำเร็จผู้ใช้งั่งจะได้ดีไม่มีวันตกต่ำ

  • หากประกอบธุรกิจใดๆ ก็ดี ลุ่มๆ ดอนๆ มิเจริญ ให้เอากระถางต้นไม้ เลือกต้นที่ชื่อเป็นมงคล มาวางไว้หน้าหางร้านหรือบริษัท และนำพระงั่งของเราไปฝังไว้ในดินใต้ต้นไม้นั้น ต้องคอยระวังอย่าให้คนเมาหรือสุนัขมาฉี่ใส่ ให้เป็นพื้นที่เป็นดินที่สะอาดจริงๆ เป็นการฝังอาถรรพ์ทำไปอย่าให้ใครรู้ท่านจะดลบันดาลให้กิจการของเราไปได้ดี มีคนมารุมล้อม ชักจูงดลใจคนชั้นสูง ลูกค้าชั้นดีคนมีอันจะกินให้ดำมาเนินธุรกิจกับเรา

แม้นมีปัญหาเรื่องที่ทางจะขายหรือที่ปลูกอะไรไม่จำเริญ ให้นำท่านไปตั้งบูชาไว้ในแผ่นดินจะกลบฝังท่านไว้ก็ได้ ตั้งบายศรี ผลไม้9อย่าง เครื่องหอมดอกไม้ นำโขดหินมาวางเเละนำมะพร้าวมาทุบให้แตกที่โขดหินหน้าท่าน ใช้น้ำมะพร้าวนั้นสังเวยบูชาท่าน อธิษฐานบอกกล่าวเเม่พระธรณีพร้อมพ่องั่งเรื่องใดก็ว่า ไป มีปัญหาใดเกิดขึ้นจะขอความอนุเคราห์ก็บอกไป

เคล็ดในการบูชา
พระงั่งนี้ไม่ต้องการการเอาใจใส่ คาถาไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะเป็นกายสิทธิ์ให้จิตเรายึดมั่นเเละซื่อตรงในองค์พระศิวะไว้ต้องการสิ่งใดก็อธิษฐานบอกท่านได้เลย เป็นการนำเอาปางเอาวิชาของพระองค์ที่สงเคราห์คนยากไร้ไม่มีทางออกในชีวิต ตกต่ำถึงที่สุดในสังคม และพลิกกลับมาได้ดียืนอยู่ในจุดสูงสุดเสมอมาใช้เพื่อสงเคราะห์ผู้บูชาโดยเเท้จริง วัตถุมงคลนี้ทำให้เฉพาะคน เพราะต้องใช้เวลาเเละพ่ออาจารย์ต้องใช้พลังงานทางจิตในการอธิษฐานสูงมาก

  • เก็บรูปถ่ายองค์พระศิวะที่พ่ออาจารย์ใช้ประกอบพิธีอธิษฐานจิตมาให้ชมกันชัดๆ

สั่งจองทำบุญบูชา พ่องั่งเจ้าโลก ร่วมทำบุญ 15,000 บาท

 เขียนความคิดเห็น (ความคิดเห็นจะขึ้นแสดงเมื่อได้ยืนยันผ่านทาง email แล้วเท่านั้น)
เลือกหมวดแสดง :
ชื่อ :    เจ้าของร้าน
Email :    ส่ง Email เมื่อมีคนตอบความคิดเห็น
แนบไฟล์ :