พระกริ่งสมเด็จโตปางเทศนาธรรม (กริ่งครูใหญ่)

ได้ฤกษ์ทำเสียที ถ้าสังเกตุให้ดีจะรู้สึกได้ว่า คลาดไปคลาดมาท่านไม่ยอมทำรูปเหมือนสมเด็จโตง่ายๆ

จวบจนท่านได้ไปวัดระฆังนี่แหละ พอกลับมาก็ดำริทำทันที ท่านเล่าให้ฟังว่า เราไปยืนดูบริเวณรอบๆ วัดเเล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆ เราเห็นเด็กผมจุกผมแกละนุ่งโจงกระเบนวิ่งไปวิ่งมาใต้ต้นไม้ เห็นเเเล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆ พอจะเอื้อมมือไปจับเขาก็หายไปเเล้ว อันนี้เป็นเรื่องทางจิตของท่าน ที่ผมกล่าวไปเเต่ต้นเเล้วว่า ท่านมีอดีตผูกพันกับสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) เคยเป็นเด็กวัดบวชเรียนรับใช้อาศัยบุญบารมีขององค์ท่านมาก่อน

สมเด็จโตดีอย่างไร ทำไมใครๆ ก็อยากบูชา พ่ออาจารย์เล่าว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะ เเม้เเต่พระที่ท่านสร้างก็กลายเป็นจักรพรรดิ์เเห่งพระเครื่องมีราคาเล่นหาสูงลิบ ในส่วนศีลาจารวัตรข้อปฏิบัติท่านก็ไม่บกพร่องไม่หลงใหลไปตามสมณศักดิ์เกียรติยศ ภูมิจิตภูมิธรรมของท่านก็สูงส่ง ยากจะหาพระเถระในยุคเดียวกันเเละยุคถัดมาที่จะปรากฏเกียรติคุณเเละมีจริยวัตรงดงามเฉกเช่นนี้ การกระทำของท่านแฝงด้วยปรัชญาข้อคิดที่งามพร้อมสมควรนำมาเป็นแบบอย่าง เหนือสิ่งอื่นใดนั้นคือใครนับถือท่านเเละท่านเลือกช่วยใครเเล้วจะรุ่งเรืองสมชื่อใหญ่โตเด่นดังเหมือนนามมงคลว่า โตของท่าน สมเด็จโต วัดระฆัง ทั้งชื่อท่านเเละชื่อวัดล้วนเป็นมงคลนามมีความหมายมีนัยยะ สิ่งนี้หากผู้นับถือยึดมั่นเเละรู้ความหมายเเล้วมันก็จะช่วยเสริมสร้างกำลังใจได้อีกโขทีเดียว

พ่ออาจารย์ได้ขอความเมตตาอาราธนาสมเด็จบรมครูของท่านมา เพื่อช่วยกันหาทางว่า จะสร้างสิ่งมงคลอะไรที่จะมีพุทธคุณสื่อถึงสมเด็จโดยตรงอย่างสมเกียรติคุณเเละศักดิ์ศรีของท่าน เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับสิริมงคลสูงสุดเเละใช้การได้จริง ซึ่งท่านก็ได้รับมติให้ทำพระกริ่ง แต่พระกริ่งรุ่นเเรกของพ่ออาจารย์พลนั้น ท่านย่อมพิถีพิถันต่างจากพระธรรมดาเเน่นอน

พ่ออาจารย์กล่าวว่า สมเด็จโตนั้น ไม่ใช่เพียงผู้สร้างจักรพรรดิเเห่งพระเครื่องอย่างพระสมเด็จวัระฆังเท่านั้น เเม้พระสกุลกำเเพงเพชรหรือพระซุ้มกอท่านก็เป็นผู้ค้นพบเป็นผู้เเปลลานทอง เเม้เเต่พระคาถาชินบัญชรที่เราๆ สวดๆ ใช้ๆ กันก็ท่านอีกนั่นเเหละที่เป็นแปลออกมา พ่ออาจารย์ไม่ได้กล่าวอะไรมาก เเต่กล่าวเเฝงนัยยะเเบบที่ท่านไม่เคยกล่าวมาเลยนั่นก็คือ ถ้าใครสวดชินบัญชรได้ ก็ถือว่า หนทางมีเเล้วเปิดเเล้วถ้าได้พระกริ่งครูใหญ่เราไปเสริม ต่อไปชีวิตเขาจะยิ่งกว่าเจ้าสัวยิ่งกว่าเสือติดปีกทีเดียว

โบราณถือว่า พระกริ่งเป็นพระเครื่องตระกูลสูง ไม่มีเหตุการณ์สำคัญจะไม่สร้าง อาศัยข้อที่พ่ออาจารย์ได้ไปวัดระฆังเเละเห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตต่างๆ ย้อนเข้ามาในความจำได้หมายรู้ของท่านถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ และมติที่สมเด็จครูท่านให้เสกรูปเหมือนกริ่งมาโปรดลูกหลาน ที่ต้องสร้างเป็นพระกริ่ง เพราะจะได้มีเสียงดังกังวาล มีการเคลื่อนไหวอยู่ในองค์ท่าน สมกับชื่อเสียงเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จโต วัดระฆัง จะเรียกว่าเป็นการรวมความหมายของสมเด็จโตเเละระฆังมารวมกันเป็นสมเด็จโตบรรจุกริ่งที่จะสามารถส่งเสียงดังกังวาลเช่นระฆังก็ย่อมได้

พ่ออาจารย์ให้คติว่า ท่านต้องการของท่านเเบบนี้ เราเสกเราทำให้เป็นสื่อชนิดใจถึงใจทีเดียว ผู้รับไปห้อยคอนั้น หากปรารถนาสิ่งใดยกพระกริ่งครูใหญ่นี้ขึ้นมาอธิษฐานเเละเขย่าให้ได้ยินเสียงกริ่งพอประมาณ คำอธิษฐานนั้นจะดังเข้าไปกระทบทิพย์โสตของสมเด็จบรมครูท่านที่จะต้องรีบเข้ามาแก้ไขจัดการคลี่คลายเหตุเเห่งทุกข์โดยเร็วพลัน พระกริ่งรุ่นเเรกของเราดีเเบบนี้

นอกจากนี้พระกริ่งเรายังใช้ในการเสี่ยงทายได้ เเม้จะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น องค์พระท่านก็จะบอกจะเตือนให้ร่างกายเรารู้สึก หากรู้สึกว่า องค์พระสั่นขึ้นมาเอง จะเดินทางไปไหนทำอะไรก็ให้ระงับเอาไว้ก่อนเเต่ถ้าได้ยินเสียงกริ่งกรุ๊งกริ๊งดังเองโดยที่เราไม่ได้เขย่า ถือว่า เป็นสิริมงคลยิ่งนัก จะคิดทำการณ์อะไรให้ตัดสินใจทำลงไปเถิด ประสบความสำเร็จเเน่นอน

พ่ออาจารย์สร้างโดยการเเกะเเบบลอยองค์จากเนื้อไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง ซึ่งมีน้อยมาก(ไม่รู้จะทำได้กี่องค์) ท่านถือเคล็ดที่ว่า รูปเหมือนท่านหากเกิดจากไม้นี้ที่ท่านสร้างเเละเสกไว้ดีเเล้วก็มีค่าเหมือนเป็นสิ่งสำเร็จที่ท่านทำขึ้นเอง พุทธคุณย่อมสุดยอดเหนือคำบรรยายทั้งปวง

พ่ออาจารย์ได้เเกะพระกริ่งครูใหญ่ พระกริ่งรุ่นเเรกของท่านเป็นรูปเหมือนปางเทศนาธรรม ตามพระสมเด็จโตนั่งธรรมาสองค์ใหญ่ที่ท่านบูชา พ่ออาจารย์บอกว่าที่เราเเกะเเบบนี้ เพราะเราถืออากัปกิริยานี้เป็นสิ่งที่มีความหมายลึกซึ้ง สมเด็จครูท่านเทศนาธรรมนั้นเพื่อโปรดสัตว์ ใช้ธรรมเทศนาฉุดชักสติปัญญาของมนุษย์ให้อยู่ในทางที่ถูกที่ควร ใช้พระธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปลี่ยนที่มืดให้สว่าง เปลี่ยนความเห็นผิดเป็นความเห็นชอบ ใช้หลักธรรมนี้เปลี่ยนเเปลงชีวิตลูกศิษย์ให้ถึง ซึ่งความสำเร็จเเละความเจริญรุ่งเรืองโดยถือคติที่ปางนี้คือปางโปรดสัตว์โดยเเท้จริง เป็นปางที่มีคุณยิ่งใหญ่โดยเเท้จริง และท่านมีมติให้บูชารูปเคารพท่านปางนี้จริง เพื่อพลิกชีวิตผู้บูชาจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยใช้คติที่ได้กล่าวนี้

พระกริ่งครูใหญ่หรือพระกริ่งอาจารย์ใหญ่ก็เรียก พ่ออาจารย์เพียรเเกะมาได้สวยงามขนาดใหญ่กว่าสูงกว่าพระกริ่งทั่วไป2เท่าเเต่ก็ห้อยคอกำลังงดงาม กล้าพูดหลังจากที่สนทนากับท่านได้เลยว่า สิ่งนี้จะหายากเเละจะไม่ค่อยมีใครได้ครอบครองเช่นพระนารายณ์เเน่นอน พระกริ่งครูใหญ่นี้ เม็ดกริ่งในองค์พระเป็นเหล็กไหลทุกองค์ ท่านแฝงวิชาไว้ในการเสกทุกกระบวนการที่ทำพระกริ่งจริงๆ

• มีข้อแม้ในการรับไปบูชา ผู้ที่จะเช่าพระกริ่งนี้ จะต้องนำไปเลี่ยมกรอบเงินหรือทองคำเท่านั้นเพื่อใช้ห้อยคอจริงๆ เเละต้องห้อยเดี่ยวด้วยเเยกสร้อยไว้ต่างหากเลยเส้นหนึ่ง

พระกริ่งครูใหญ่นี้นอกจากจะบรรจุเม็ดกริ่งด้วยเหล็กไหลเวลาเขย่าจะมีเสียงดังไพเราะเเล้ว ยังบรรจุผง2ชนิดซ้ายขวาก่อนทำการปิดผนึกด้วย นั่นคือผงหัวเชื้อกระปุกครูล้วนๆ ที่ตกทอดมาเเต่สมเด็จโต วัดระฆังในอดีต เป็นผงวิเศษ5ประการที่ท่านจะโปรยผสมเวลาสร้างพระสมเด็จ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านอุดให้เพียวๆ ก่อนจะทำการปิดผนึกเลย ท่านว่า เอาให้เเรงกว่าพระสมเด็จที่เขาเล่นหากันองค์ละหลายๆ ล้านทีเดียว ส่วนรูอีกข้างหนึ่งท่านบรรจุผงอิติปิโสกลบทเต็มสูตรเอาไว้ ซึ่งท่านลบมือเอง เรียกได้ว่า ผงทั้งซ้ายขวานี้คือผงสองศิษย์อาจารย์ที่มีค่ายากจะหาที่ไหนได้อีกเเล้วนั่นเอง

ผู้บูชาท่านนั้น หากถอดสร้อยไว้ไม่ได้ใช้ให้อาราธนาไว้บนพาน ถวายหมากพลู น้ำเปล่าน้ำชาประจำ เมื่อจะนำมาห้อยก็หยิบมาคล้องคอก็ได้ ใส่สวดมนต์ปฏิบัติธรรมทำความเพียรต่างๆ ได้ผลดีนัก มีคุณานุภาพสุดจะประมาณได้ตามเเต่อธิษฐานทุกประการ

พระกริ่งครูใหญ่นี้ พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นเอกลักษณ์จริงๆ เพราะเป็นกระกริ่งทำมือทีละองค์จากเนื้อไม้สักทองช่อฟ้าเก่า ก่อนทำเเต่ละองค์ต้องจุดธูปบอกกล่าวเชิญครูแฟง ท่านว่า เเกะยากกว่าพระที่เคยเเกะมาทั้งหมด เพราะนี่คือครูใหญ่ของเราเอง ท่านพูดเเบบน่าคิดว่า ถ้าไม่มั่นใจไม่มีใครเอารูปครูออกมาให้บูชาเเน่นอน

ถือได้ว่า เป็นพระกริ่งรุ่นแรกที่สมศักดิ์ศรีเเละคุ้มค่าการรอคอยที่สุดเเละยังเป็นรูปเหมือนครูใหญ่รุ่นเเรกของท่านที่ท่านปรารภอยากจะสร้างเเบบจริงๆ เเท้ๆ ตามสูตรตามหลักวิชาของท่านให้เราได้บูชากันตั้งเเต่ได้ไม้มาก็ว่า ได้

พระกริ่งสมเด็จโตปางเทศนาธรรม (กริ่งครูใหญ่) บูชาองค์ละ 8,000 บาท