ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ขายของมือสอง ร้านค้าออนไลน์ ecommerce หางาน สมัครงาน PantipMarket.com


ดูข่าวทั้งหมด
ค้นหาแบบละเอียด

หมายเลขประกาศ21913100

การประชุมนานาชาติอิมพีเรียล สปริงส์ ประจำปี 2568 เปิดฉาก ณ กว่างโจว ผู้นำทั่วโลกผนึกกำลังขับเคลื่อนความร่วมมือและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

การประชุมนานาชาติอิมพีเรียล สปริงส์ (Imperial Springs International Forum) ประจำปี 2568 ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ถึง 3 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติอิมพีเรียล สปริงส์ นครกว่างโจว โดยมีเจ้าภาพมากมาย ทั้งสมาคมมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนออสเตรเลีย-จีน สมาคมมิตรภาพประชาชนจีนกับต่างประเทศ รัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง และเวิลด์ ลีดเดอร์ชิป อัลไลแอนซ์ คลับ เดอ มาดริด (World Leadership Alliance Club de Madrid) การประชุมครั้งนี้มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมกว่า 200 ท่าน อาทิ อดีตประมุขแห่งรัฐ ผู้นำรัฐบาล ผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการชั้นนำทั้งจากจีนและนานาชาติ มิตรประเทศ และผู้นำทางธุรกิจ จากกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งทั้งหมดได้มารวมตัวกันเพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาโลกให้ก้าวหน้า

การประชุมปีนี้จัดขึ้นในธีม "For Global Cooperation and Solidarity" (เพื่อความร่วมมือและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั่วโลก) โดยมีการจัดกิจกรรมหลัก 10 รายการ ครอบคลุมทั้งพิธีเปิดและพิธีปิด การประชุมแบบปิด การอภิปรายเต็มคณะ การประชุมย่อยคู่ขนาน และงานเลี้ยงรับรอง "Guangzhou Night" ผู้เข้าร่วมได้ร่วมแลกเปลี่ยนเจาะลึกประเด็นสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น "ความท้าทายด้านความมั่นคงโลกในยุคแห่งความไม่แน่นอน" "การปรับปรุงธรรมาภิบาลโลก: มุ่งยกระดับเสถียรภาพและความแน่นอน" "การทำความเข้าใจ ความเสมอภาค และความร่วมมือในโลกที่หลากหลาย" "ปัญญาประดิษฐ์: การสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรม ความมั่นคง และธรรมาภิบาล" "นับถอยหลังสู่ปี 2573: ส่งมอบสินค้าสาธารณะระดับโลก" "พลวัตในการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ" และ "แนวโน้มเศรษฐกิจโลกท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าและมาตรการภาษี"

หยาง เจิ้น (Yang Zhen) รองประธานคณะกรรมการแห่งชาติ ประจำสภาที่ปรึกษาทางการเมืองประชาชนจีน ได้ร่วมพิธีเปิดและกล่าวปราศรัย โดยท่านชี้ให้เห็นว่า ข้อริเริ่มด้านการพัฒนาโลก (Global Development Initiative), ข้อริเริ่มด้านความมั่นคงโลก (Global Security Initiative), ข้อริเริ่มด้านอารยธรรมโลก (Global Civilization Initiative) และข้อริเริ่มด้านธรรมาภิบาลโลก (Global Governance Initiative) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นั้น ได้นำเสนอ "ภูมิปัญญาจีนและแนวทางแก้ไขปัญหาแบบจีน" เพื่อตอบโจทย์ปัญหาท้าทายต่าง ๆ ที่มวลมนุษยชาติกำลังเผชิญ โดยจีนไม่ได้เป็นเพียงผู้เสนอแนวคิดเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังและมุ่งมั่น จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายต่าง ๆ ด้วยความเป็นเอกภาพ ส่งเสริมการพัฒนาก้าวหน้าด้วยการเปิดกว้างและการยอมรับความแตกต่าง สร้างแรงขับเคลื่อนความร่วมมือผ่านผลประโยชน์ร่วมกัน และมอบผลลัพธ์ที่ชัดเจนผ่านการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าเดิมให้แก่มวลมนุษย์

การประชุมนานาชาติอิมพีเรียล สปริงส์ เป็นเวทีระดับแนวหน้าในการแลกเปลี่ยนและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประชาคมโลก โดยจัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 การประชุมนี้ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมการเสวนา สร้างความเห็นพ้องร่วมกัน และขับเคลื่อนความร่วมมือมาโดยตลอด ดร. เชา ชัก วิง (Chau Chak Wing) ผู้ก่อตั้งการประชุม ประธานสมาคมมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนออสเตรเลีย-จีน, ประธานเวิลด์ ลีดเดอร์ชิป อัลไลแอนซ์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และประธานร่วมระดับโลกประจำศูนย์นานาชาตินิซามิ กันจาวี (Nizami Ganjavi International Center) เปิดเผยว่า การก่อตั้งและการพัฒนาเวทีนี้ตอบโจทย์ความต้องการของยุคสมัยอย่างแท้จริง โดยกล่าวว่า "ยิ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกันมากเท่าไร เรายิ่งต้องมีการพูดคุยกันมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งมีความท้าทายมากเท่าไร เรายิ่งต้องมีส่วนร่วมมากขึ้นเท่านั้น" ท่านยังได้ย้ำว่า การปฏิรูปและพัฒนาธรรมาภิบาลโลกให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปกป้องสันติภาพและการพัฒนาโลก ยังคงเป็นข้อกังวลหลักที่ผู้เข้าร่วมทุกท่านให้ความสำคัญ และเป็นที่คาดหวังอย่างยิ่งว่าจะมีการนำเสนอปรัชญาและวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ในเวทีนี้

ในระหว่างการประชุมนี้ อดีตผู้นำต่างประเทศและอดีตผู้นำองค์กรระหว่างประเทศกว่า 30 ท่าน พร้อมด้วยผู้แทนจากแวดวงการเมือง ธุรกิจ และวิชาการ จาก 23 ประเทศ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองที่มีเนื้อหาสาระสำคัญอย่างเข้มข้นภายใต้หัวข้อหลักของการประชุม และในหัวข้อ "การปรับปรุงธรรมาภิบาลโลก: มุ่งยกระดับเสถียรภาพและความแน่นอน" นั้น วิทยากรหลายท่านก็ได้ให้ข้อมูลเจาะลึกที่เป็นประโยชน์

วอลคาน บอสคีร์ (Volkan Bozkir) ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 75 ได้เน้นย้ำว่า ในขณะที่สหประชาชาติกำลังจะครบรอบปีที่ 80 ระบบระหว่างประเทศกำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญ องค์กรสหประชาชาติและสถาบันต่าง ๆ ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้น กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เกิดขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการปฏิรูปและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ท่านกล่าวว่า "ไม่มีองค์กรใดเข้ามาแทนที่สหประชาชาติได้" พร้อมทั้งย้ำว่า "เราต้องส่งเสริมให้องค์กรนี้สามารถมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม"

ฮัน ซึงซู (Han Seung-soo) อดีตนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี ได้แสดงทัศนะว่า ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าอย่างมหาศาล แต่ก็ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อันเนื่องมาจากการผูกขาดเทคโนโลยี ท่านจึงเสนอให้นำประสบการณ์ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) มาเป็นแนวทางในการส่งเสริมการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ระหว่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยี AI จะยังคงมีความปลอดภัย สามารถควบคุมได้ และสร้างประโยชน์แก่คนทั้งโลก โดยที่เทคโนโลยีเหล่านี้จะไม่ถูกผูกขาดโดยประเทศหรือกลุ่มบุคคลเพียงไม่กี่ราย

ในช่วงที่คลื่นแห่งการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลูกใหม่เร่งตัวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ความเสี่ยงด้านความมั่นคงทั้งแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่ ได้เข้ามาเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก โดยปัญหาท้าทายต่าง ๆ เช่น โลกที่พัฒนาก้าวหน้าอย่างไม่สมดุล ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ธรรมาภิบาล AI และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยิ่งเข้ามามีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ทั่วโลกจำเป็นต้องประสานงานยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากต่างกล่าวชื่นชมว่า เวทีนี้เป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้สื่อสารได้อย่างเกิดผล โดยบัน คีมูน (Ban Ki-moon) อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ให้ความเห็นว่า หัวข้อของการประชุมนั้น "เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน" เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกระบวนการสร้างความเห็นพ้องร่วมกันผ่านความเข้าใจ การเปิดรับความหลากหลาย และการเจรจา เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความไว้วางใจขึ้นใหม่ ลดความบาดหมาง และเสริมสร้างรากฐานความร่วมมือให้มั่นคง ท่านย้ำว่า "เราต้องร่วมกันพิทักษ์รักษาสันติภาพโลกและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้แน่ใจว่าผลประโยชน์จะตกทอดสู่คนรุ่นปัจจุบันและอนาคต"

ด้านเอดัวร์โด เฟรย์ รุยซ์-ตักเล (Eduardo Frei Ruiz-Tagle) อดีตประธานาธิบดีชิลี ได้เน้นย้ำว่า ในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วนี้ โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่มีความสำคัญยิ่ง ในขณะเดียวกัน องค์กรระหว่างประเทศบางแห่งก็ไม่สามารถดำเนินการตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งประเด็นนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เพราะสถาบันเหล่านี้คือแพลตฟอร์มที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือในระดับโลก

การประชุมนานาชาติอิมพีเรียล สปริงส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 โดยจัดประชุมจนประสบผลสำเร็จมาแล้ว 9 ครั้ง และได้รวบรวมบุคคลสำคัญทางการเมืองระดับโลกกว่า 200 ท่าน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้นำภาคธุรกิจ ทั้งจากจีนและต่างประเทศ รวมแล้วกว่า 600 คน เวทีนี้ได้เปิดให้มีการอภิปรายอย่างเจาะลึกในประเด็นต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ "ร่วมลงมือทำเพื่ออนาคตเดียวกัน" "พหุภาคีนิยม: แลกเปลี่ยนมากขึ้น เปิดกว้างมากขึ้น และความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่กว่า" "พหุภาคีนิยม 2.0: ความร่วมมือระดับโลกในยุคหลังการระบาด" "พหุภาคีนิยมและการพัฒนาที่ยั่งยืน" "เร่งรัดการปฏิรูปและเปิดประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย" "ธรรมาภิบาลโลกและข้อเสนอของจีน" "การสร้างเมืองที่เปิดกว้าง ยั่งยืน และฟื้นตัวเร็วภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" "ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง: โอกาสและความร่วมมือครั้งใหม่" และ "ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-ออสเตรเลีย" ซึ่งผลลัพธ์จากการหารือเหล่านี้ ล้วนก่อให้เกิดผลสำเร็จอันเป็นรูปธรรม และสร้างแรงกระเพื่อมอย่างกว้างขวางในเวทีโลก

ประกาศอื่นของผู้ขาย

รูปภาพรายละเอียดราคา