หมายเลขประกาศ21841465
ตู้เย็นเพื่อสุขภาพ: เคล็ดลับเก็บผักผลไม้ให้สดนานตลอดเทศกาลกินเจ
ข้อมูลสินค้า
ประเภทการขายขาย/ให้เช่า/บริการ
สภาพสินค้าใหม่
ราคาสอบถาม
ข้อมูลผู้ขาย
ชื่อผู้ขายฝ่ายขาย
ประเภทผู้ขายบุคคล
ประเภทสมาชิกไม่เป็นสมาชิก จึงไม่มีข้อมูลบัตรประชาชน
หมายเลขโทรศัพท์043-761-599
อีเมล-
ข้อมูลติดต่อผู้ขาย@homeplusstorewww.facebook.com/damronghomeplushttps://www.drhome.plus/
ที่อยู่ผู้ลงประกาศมหาสารคาม » โกสุมพิสัย
เทศกาลกินเจเป็นช่วงเวลาที่หลายคนหันมาบริโภคผักผลไม้มากขึ้นเป็นพิเศษ การเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมและเก็บรักษาให้สดใหม่ได้นานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรุงอาหารได้อย่างสะดวกสบายและได้รับคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด บทความนี้จะมาแบ่งปันเคล็ดลับการใช้ตู้เย็นอย่างชาญฉลาด เพื่อยืดอายุผักผลไม้ให้สดใหม่เหมือนเพิ่งซื้อมา
หลักการพื้นฐาน: ทำความเข้าใจศัตรูตัวฉกาจของความสดใหม่
การเก็บรักษาผักผลไม้ให้สดนานนั้นไม่ได้อยู่ที่การแช่เย็นอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจหลักการสำคัญ 3 ข้อดังนี้
1. อุณหภูมิที่เหมาะสม: ผักและผลไม้ส่วนใหญ่ต้องการอุณหภูมิที่เย็นแต่ไม่ถึงกับเย็นจัด โดยช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมคือประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส การแช่ในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจทำให้เกิด "อาการผักช้ำในตู้เย็น (Chilling Injury)" ซึ่งผักบางชนิดจะเปลี่ยนสี เนื้อสัมผัสเละ และเน่าเสียง่ายขึ้น เช่น กล้วย มะเขือเทศ และแตงกวา
2. ความชื้นที่พอเหมาะ: ผักส่วนใหญ่ต้องการความชื้นสูงเพื่อป้องกันการเหี่ยวและแห้ง แต่ความชื้นที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดเชื้อราและเน่าเสียได้ ดังนั้นการควบคุมความชื้นจึงสำคัญมาก
3. ก๊าซเอทิลีน (Ethylene): เป็นก๊าซที่ผักผลไม้บางชนิดผลิตออกมาตามธรรมชาติเพื่อเร่งการสุกแก่ของตัวเองและพืชผักที่อยู่ใกล้เคียง ผักผลไม้บางชนิดจึงไวต่อก๊าซนี้มากและจะสุกงอมเร็วกว่าปกติเมื่ออยู่ใกล้กัน
ขั้นตอนการเตรียมผักผลไม้ก่อนเข้าตู้เย็น
การเตรียมวัตถุดิบอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุความสดได้เป็นอย่างดี ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
• ห้ามล้างก่อนเก็บ: นี่คือข้อผิดพลาดที่หลายคนทำ! ความชื้นที่ตกค้างจากการล้างจะเร่งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและทำให้ผักเน่าเสียได้เร็วขึ้น ควรล้างผักผลไม้ก่อนนำไปปรุงอาหารเท่านั้น หรือหากจำเป็นต้องล้าง ควรทำให้แห้งสนิทที่สุดด้วยผ้าสะอาดหรือเครื่องปั่นสลัด
• ตัดแต่งส่วนที่เน่าเสียออก: ตรวจสอบผักผลไม้ให้ทั่ว หากพบส่วนที่ช้ำหรือเน่าเสีย ให้ตัดทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการลามไปส่วนอื่น
• แบ่งบรรจุ: แยกผักแต่ละชนิดออกจากกัน โดยเฉพาะผักที่ผลิตก๊าซเอทิลีนสูง เช่น มะม่วง มะเขือเทศ แอปเปิ้ล กล้วย ไม่ควรเก็บรวมกับผักที่ไวต่อก๊าซนี้ เช่น ผักใบเขียว บรอกโคลี และแครอท
วิธีเก็บผักผลไม้แต่ละชนิดในตู้เย็น
เพื่อให้ผักผลไม้แต่ละชนิดคงความสดใหม่ได้นานที่สุด ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้
1. ผักใบเขียว (ผักกาดหอม คะน้า ผักโขม)
• วิธีเก็บ: ห่อด้วยกระดาษอเนกประสงค์หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ซับน้ำได้ดี เพื่อช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน จากนั้นนำใส่ถุงซิปล็อกหรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท แล้วแช่ในช่องแช่ผักที่มีความชื้นสูง (High Humidity)
• เคล็ดลับ: อย่าอัดผักแน่นเกินไป ควรให้มีพื้นที่ระบายอากาศบ้าง
2. ผักและสมุนไพร (ต้นหอม ผักชี)
• วิธีเก็บ: ตัดรากทิ้ง จากนั้นนำผักไปแช่ในแก้วหรือขวดที่มีน้ำเล็กน้อยเหมือนปักดอกไม้ แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น วิธีนี้จะช่วยให้ผักคงความสดกรอบได้นานหลายวัน
3. ผักหัวและผักราก (แครอท มันฝรั่ง หัวหอม)
• วิธีเก็บ: ผักจำพวกมันฝรั่งและหัวหอมไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น ควรเก็บไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเท และไม่มีแสงสว่างเพื่อป้องกันการงอก
• เคล็ดลับสำหรับแครอท: สามารถเก็บในถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ หรือเก็บในกล่องพลาสติกที่มีน้ำหล่อเลี้ยงเล็กน้อยเพื่อรักษาความกรอบ
4. ผลไม้ (กล้วย มะม่วง อะโวคาโด)
• วิธีเก็บ: ผลไม้ที่ยังไม่สุกดีสามารถวางไว้ที่อุณหภูมิห้องเพื่อเร่งให้สุกได้ แต่เมื่อเริ่มสุกแล้วควรนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อชะลอการสุกงอม
• เคล็ดลับ: กล้วยเป็นผลไม้ที่ผลิตก๊าซเอทิลีนสูงมาก ควรนำไปวางแยกต่างหากจากผักและผลไม้อื่น ๆ
การใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธีและการจัดการวัตถุดิบอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้คุณมีวัตถุดิบคุณภาพดีพร้อมใช้ตลอดเทศกาลกินเจนี้ ขอให้สนุกกับการเข้าครัวและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
หลักการพื้นฐาน: ทำความเข้าใจศัตรูตัวฉกาจของความสดใหม่
การเก็บรักษาผักผลไม้ให้สดนานนั้นไม่ได้อยู่ที่การแช่เย็นอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจหลักการสำคัญ 3 ข้อดังนี้
1. อุณหภูมิที่เหมาะสม: ผักและผลไม้ส่วนใหญ่ต้องการอุณหภูมิที่เย็นแต่ไม่ถึงกับเย็นจัด โดยช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมคือประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส การแช่ในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจทำให้เกิด "อาการผักช้ำในตู้เย็น (Chilling Injury)" ซึ่งผักบางชนิดจะเปลี่ยนสี เนื้อสัมผัสเละ และเน่าเสียง่ายขึ้น เช่น กล้วย มะเขือเทศ และแตงกวา
2. ความชื้นที่พอเหมาะ: ผักส่วนใหญ่ต้องการความชื้นสูงเพื่อป้องกันการเหี่ยวและแห้ง แต่ความชื้นที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดเชื้อราและเน่าเสียได้ ดังนั้นการควบคุมความชื้นจึงสำคัญมาก
3. ก๊าซเอทิลีน (Ethylene): เป็นก๊าซที่ผักผลไม้บางชนิดผลิตออกมาตามธรรมชาติเพื่อเร่งการสุกแก่ของตัวเองและพืชผักที่อยู่ใกล้เคียง ผักผลไม้บางชนิดจึงไวต่อก๊าซนี้มากและจะสุกงอมเร็วกว่าปกติเมื่ออยู่ใกล้กัน
ขั้นตอนการเตรียมผักผลไม้ก่อนเข้าตู้เย็น
การเตรียมวัตถุดิบอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุความสดได้เป็นอย่างดี ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
• ห้ามล้างก่อนเก็บ: นี่คือข้อผิดพลาดที่หลายคนทำ! ความชื้นที่ตกค้างจากการล้างจะเร่งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและทำให้ผักเน่าเสียได้เร็วขึ้น ควรล้างผักผลไม้ก่อนนำไปปรุงอาหารเท่านั้น หรือหากจำเป็นต้องล้าง ควรทำให้แห้งสนิทที่สุดด้วยผ้าสะอาดหรือเครื่องปั่นสลัด
• ตัดแต่งส่วนที่เน่าเสียออก: ตรวจสอบผักผลไม้ให้ทั่ว หากพบส่วนที่ช้ำหรือเน่าเสีย ให้ตัดทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการลามไปส่วนอื่น
• แบ่งบรรจุ: แยกผักแต่ละชนิดออกจากกัน โดยเฉพาะผักที่ผลิตก๊าซเอทิลีนสูง เช่น มะม่วง มะเขือเทศ แอปเปิ้ล กล้วย ไม่ควรเก็บรวมกับผักที่ไวต่อก๊าซนี้ เช่น ผักใบเขียว บรอกโคลี และแครอท
วิธีเก็บผักผลไม้แต่ละชนิดในตู้เย็น
เพื่อให้ผักผลไม้แต่ละชนิดคงความสดใหม่ได้นานที่สุด ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้
1. ผักใบเขียว (ผักกาดหอม คะน้า ผักโขม)
• วิธีเก็บ: ห่อด้วยกระดาษอเนกประสงค์หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ซับน้ำได้ดี เพื่อช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน จากนั้นนำใส่ถุงซิปล็อกหรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท แล้วแช่ในช่องแช่ผักที่มีความชื้นสูง (High Humidity)
• เคล็ดลับ: อย่าอัดผักแน่นเกินไป ควรให้มีพื้นที่ระบายอากาศบ้าง
2. ผักและสมุนไพร (ต้นหอม ผักชี)
• วิธีเก็บ: ตัดรากทิ้ง จากนั้นนำผักไปแช่ในแก้วหรือขวดที่มีน้ำเล็กน้อยเหมือนปักดอกไม้ แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น วิธีนี้จะช่วยให้ผักคงความสดกรอบได้นานหลายวัน
3. ผักหัวและผักราก (แครอท มันฝรั่ง หัวหอม)
• วิธีเก็บ: ผักจำพวกมันฝรั่งและหัวหอมไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น ควรเก็บไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเท และไม่มีแสงสว่างเพื่อป้องกันการงอก
• เคล็ดลับสำหรับแครอท: สามารถเก็บในถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ หรือเก็บในกล่องพลาสติกที่มีน้ำหล่อเลี้ยงเล็กน้อยเพื่อรักษาความกรอบ
4. ผลไม้ (กล้วย มะม่วง อะโวคาโด)
• วิธีเก็บ: ผลไม้ที่ยังไม่สุกดีสามารถวางไว้ที่อุณหภูมิห้องเพื่อเร่งให้สุกได้ แต่เมื่อเริ่มสุกแล้วควรนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อชะลอการสุกงอม
• เคล็ดลับ: กล้วยเป็นผลไม้ที่ผลิตก๊าซเอทิลีนสูงมาก ควรนำไปวางแยกต่างหากจากผักและผลไม้อื่น ๆ
การใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธีและการจัดการวัตถุดิบอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้คุณมีวัตถุดิบคุณภาพดีพร้อมใช้ตลอดเทศกาลกินเจนี้ ขอให้สนุกกับการเข้าครัวและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า