พระซุ้มกอ สูง ๒.๖ ซ.ม. กว้าง ๑.๙ ซ.ม. หนา ๐.๙ ซ.ม. พระนางพญา สูง ๒.๓ ซ.ม. กว้าง ๒.๑ ซ.ม. หนา ๐.๘ ซ.ม. (ข้อสังเกต - พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีหลายขนาด ขนาดใหญ่เหมาะสมที่จะแขวนคู่ (ซ้าย-ขวา) กับพระนางพญาพิมพ์เข่าโค้งและพิมพ์เข่าตรง ขนาดย่อมลงมาเหมาะกับพระนางพญาพิมพ์สังฆาฏิ ในหนังสือภาพพระเครื่องทุ่งเศรษฐี - กำแพงเพชร ของสนิมแดง (จาตุรนต์ สิงหะ) เขียนว่า พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ มีขนาดโดยประมาณดังนี้ ส่วนสูงประมาณ ๒.๕ ซ.ม. กว้างประมาณ ๑.๘ ซ.ม. เนื้อดินพิมพ์ใหญ่หนาประมาณ ๐.๘ ซ.ม. ส่วนเนื้อชินค่อนข้างบาง ซุ้มกอ คะแนนสูงประมาณ ๑.๕ ซ.ม. และบางมาก) พระสมเด็จ พิมพ์ทรงขนาดใหญ่ ลงรักน้ำดำ ( พระพิมพ์ใหญ่แม่พิมพ์เดืยวกัน - ในหนังสือเบญจภาคี เล่มใหญ่ปกแข็งหน้า ๕๙ เล่มเล็กปกอ่อนหน้า ๗๓ ) จากหนังสือพระสมเด็จฯ ของตรียัมปวาย ความแตกต่างกันอย่างหนึ่งของรักน้ำดำกับรักน้ำเกลี้ยง - การร่อนของรักน้ำดำมีลักษณะหลุดออกมาเป็นแว่น ๆ ตรงบริเวณที่ลงไว้บาง ๆ ไม่มีลักษณะหลุดร่วนเช่นรักน้ำเกลี้ยง (เป็นผุยหรือผง) และส่วนใหญ่จะไม่ร่อนออกเอง ต้องใช้ลอกหรือสะกิดออก และก็จะหลุดออกจากผิวเนื้อไม่หมดเกลี้ยงเกลาเหมือนรักน้ำเกลี้ยง Pra kamphaeng sumkor pim yai. Pra somdej wat rakang pim yai (prasomdet). Pra nangphya wat nangphya pim sangkati. ( Tip สำหรับผู้เริ่มศึกษาพระสมเด็จฯ - เรื่องที่ควรรู้ตั้งแต่เริ่มการศึกษา -- ๑.หนังสือทุกประเภททุกเล่มย่อมมีบางจุดบางอย่างที่คลาดเคลื่อน หรือบกพร่องไม่มากก็น้อย ถ้าเป็นหนังสือที่มีการตีพิมพ์มานานแล้วข้อมูลบางอย่างอาจล้าสมัย แต่ก็เป็นข้อมูลที่ดีที่สุด ณ เวลาที่พิมพ์หนังสือเล่มนั้น เครื่องมือ เครื่องใช้และอุปกรณ์บางอย่างที่ใช้ในการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลความรู้อาจมีประสิทธิภาพไม่เท่าของสมัยนี้ หนังสือและตำราสำหรับค้นคว้ามีน้อย เป็นต้น ถ้าพบข้อความบางประโยค หรือบางย่อหน้ามีความคลาดเคลื่อน บกพร่องไม่สมบูรณ์ หรือผิดพลาด จะเหมารวมเอาว่าหนังสือเล่มนั้นทั้งเล่มใช้ไม่ได้ ผู้เขียนไม่มีความรู้และไม่น่าเชื่อถือ ความคิดอย่างนี้เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่ควรทำคือ ศึกษาค้นคว้าว่าในหนังสือเล่มนั้น"มีอะไรบ้างที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้" (เช่นในตู้เย็นมีอะไรที่จะเอามาผัด มาแกงหรือทำกับแกล้มได้บ้าง - ค้น) ถ้าเป็นเรื่องของพระสมเด็จฯ นำมาทดลองใช้ในเวลาหาและพิจารณาพระ ซึ่งต้องใช้ความพินิจพิเคราะห์ ทบทวนและสรุปผลนำมาเป็นความรู้ต่อไป ๒.การหาและพิจารณาพระสมเด็จ ฯ เป็นเรื่องที่ยาก ต้องใช้เวลาศึกษา ฝึกและปฏิบัตินาน เหตุผลที่เป็นเรื่องยากได้แก่ ก.พระสมเด็จ ฯ มีหลายพิมพ์ทรงและหลายเนื้อ ในหนังสือเบญจภาคีมีรูปภาพพระสมเด็จวัดระฆังฯ ๔ พิมพ์ทรง (ไม่มีพิมพ์ทรงปรกโพธิ์) รวมจำนวน ๙๖ แม่พิมพ์ รูปภาพของพระสมเด็จบางขุนพรหม ๙ พิมพ์ทรง จำนวน ๑๒๑ แม่พิมพ์ รวมพิมพ์ทรงปางไสยาสน์อีก ๑ แม่พิมพ์ ไม่มีรูปภาพพระที่มีแม่พิมพ์ซ้ำกัน ในหนังสือพระสมเด็จฯ ของตรียัมปวายเขียนอธิบายเนื้อของพระสมเด็จ ๖ ชนิด (คณะผู้จัดทำ"หนังสือเบญจภาคี" เป็นคณะที่ทำหนังสือได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องรูปภาพ - มีพระบางแม่พิมพ์ไม่ได้ลงพิมพ์ แต่คงเป็นส่วนน้อย) ข.พระสมเด็จ ฯ เป็นพระที่ทำด้วยมือ ( hand made ) แต่ละองค์จึงมีความต่างกันบ้างแม้จะเป็นแม่พิมพ์เดียวกัน ซึ่งอาจเกิดจากการจัดและตวงส่วนผสมแต่ละครั้ง ส่วนผสมที่เป็นของเหลวไม่พอดีมากไปหรือน้อยไป เกิดการหดตัวต่างกันเมื่อแห้งสนิทแล้ว ฝีมือการกดพิมพ์ ถอดพิมพ์และตัดขอบข้างของผู้สร้างแต่ละคน ฯลฯ ค.ระยะเวลาในการสร้างรวม ๖ ปี (พ.ศ.๒๔๐๙ - ๒๔๑๕) ซึ่งคงมีการปรับปรุงชนิดของส่วนผสมและอัตราส่วนผสมหลายครั้ง รวมทั้งฝีมือในการกดพิมพ์ ถอดพิมพ์และตัดขอบข้างดีขึ้น สวยขึ้น (ข้อคิดเห็น - พระสมเด็จบางขุนพรหมซึ่งสร้างในพ.ศ.๒๔๑๓ ไม่มีเนื้อเกสรดอกไม้และเนื้อกระแจะจันทน์ เป็นไปได้ว่าเนื้อทั้งสองชนิดนี้มีทำในปีพ.ศ.๒๔๑๔ - ๒๔๑๕ ที่วัดระฆังฯ) ง.มีการทำพระปลอมจำนวนมาก ทั้งการถอดพิมพ์และแกะแม่พิมพ์เลียนแบบ บางฝีมือทำได้ใกล้เคียงจนเป็นการยากสำหรับผู้ไม่ชำนาญที่จะแยกความแตกต่างได้ ๓.พระสมเด็จเก่ามีของหลายวัด รูปทรงต่างกันไป ส่วนมากไม่ทราบว่าเป็นของวัดใด ไม่มีอะไรที่จะอ้างอิงได้ แต่ดูว่าเก่าและเป็นพระแท้ ราคาแล้วแต่จะตกลงกัน พระสมเด็จที่เป็นพิมพ์ทรงนิยมและราคาสูงมากคือพระสมเด็จวัดระฆัง ฯ และบางขุนพรหมที่หลวงวิจารณ์เจียรนัยเป็นผู้ออกแบบและแกะแม่พิมพ์ พิมพ์ทรงของหลวงวิจารณ์เจียรนัยนี้จัดเป็นพิมพ์ทรงมาตรฐาน และ *****ตรียัมปวายได้จัดให้พระสมเด็จ ฯ พิมพ์ทรงมาตรฐานนี้อยู่ในพระเบญจภาคี***** พระสมเด็จวัดระฆัง ฯ และบางขุนพรหมแท้ที่ตรียัมปวายเขียนอธิบายในหนังสือพระสมเด็จฯ คือ พระสมเด็จ ฯ พิมพ์ทรงมาตรฐาน ซึ่งหลวงวิจารณ์เจียรนัยเป็นผู้ทำแม่พิมพ์ (หมายถึงเฉพาะแม่พิมพ์ที่หลวงวิจารณ์เจียรนัยทำให้วัดระฆัง ฯ และวัดใหม่อมตรส) และเป็นพระเนื้อปูน ("พระสมเด็จอื่นไม่อยู่ในพระเบญจภาคี") เรื่องที่ควรพิจารณา ๒ อย่างเพื่อศึกษาและเสาะแสวงหาต่อไปคือ มีความต้องการพระสมเด็จ ฯ ที่อยู่ในชุดเบญจภาคี หรือมีความต้องการพระสมเด็จเก่าของวัดใดก็ได้ ใครทำแม่พิมพ์ก็ได้ (แบบนี้ไม่จำเป็นต้องศึกษาพิมพ์ทรงของหลวงวิจารณ์เจียรนัย มีโอกาสสูงที่จะได้พระและราคาไม่แพง) - - - หมายเหตุ - ตรียัมปวายเป็นผู้จัดพระระดับสุดยอด ๕ ชนิดรวมกันเป็นชุดสำหรับแขวน ตั้งชื่อเรียกว่า "พระเบญจภาคี" เมื่อพ.ศ.๒๔๙๔ ได้รับการยอมรับในวงการพระเครื่องและได้รับความนิยมตลอดมา )