จำหน่าย,ขาย,สแตนเลส 316,316L,304,304L,310,310S,410,420J2,416,431,440C,630,17-4PH
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า แจ้งการชำระเงิน
สมาชิกร้านค้า
สินค้าแนะนำ
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน09/04/2013
อัพเดท01/05/2024
เป็นสมาชิกเมื่อ 26/01/2012
สถิติเข้าชม315711
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe

ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  บริษัท เอเชี่ยนพลัส ซัพพลาย จำกัด 234/7 หมู่ 7 ถ.สุขมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
โทร.  087-6039752 02-1863711 02-1863713 Fax.02-1863712
Mail  asianplussupply@hotmail.com
Search      Go

Home > All Product List > นำเข้าและจำหน่ายสแตนเลส 17-4,สแตนเลส 17-4PH,SUS630,17-4 PH,เพลาสแตนเลส 630,SUS630,17-4,316,316L,310,310S,420,440C,304,304L,416,ขายสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,จำหน่ายสแตนเลส,แผ่นสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,เพลาสแตนเลส,สแตนเลสเส้น,สแตนเลสสี่เหลี่ยม,แท่ง,กลม,Stainless 17-4P


นำเข้าและจำหน่ายสแตนเลส 17-4,สแตนเลส 17-4PH,SUS630,17-4 PH,เพลาสแตนเลส 630,SUS630,17-4,316,316L,310,310S,420,440C,304,304L,416,ขายสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,จำหน่ายสแตนเลส,แผ่นสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,เพลาสแตนเลส,สแตนเลสเส้น,สแตนเลสสี่เหลี่ยม,แท่ง,กลม,Stainless 17-4P

รูปภาพประกอบทั้งหมด 9 รูป

นำเข้าและจำหน่ายสแตนเลส 17-4,สแตนเลส 17-4PH,SUS630,17-4 PH,เพลาสแตนเลส 630,SUS630,17-4,316,316L,310,310S,420,440C,304,304L,416,ขายสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,จำหน่ายสแตนเลส,แผ่นสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,เพลาสแตนเลส,สแตนเลสเส้น,สแตนเลสสี่เหลี่ยม,แท่ง,กลม,Stainless 17-4P

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  14/10/2016
แก้ไขล่าสุด  :  17/07/2023
ราคา  ตามตกลง

คุณสมบัติสแตนเลส 17-4PH UNS S17400

17-4PH Stainless Steel UNS S17400 17-4 PH สแตนเลสสตริปเป็นสเตนเลสชุบแข็งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด มันเป็นเหล็กกล้ามาร์เทนซิติกที่รวมความแข็งแรงสูงความต้านทานการกัดกร่อนคุณสมบัติทางกลที่ไร้ที่ติได้ถึง 600 ° F และความเหนียวที่ดี สิ้นสุดการใช้งานแอปพลิเคชัน

รายละเอียด
Type 17-4PH เป็นเหล็กกล้าไร้สนิมตกตะกอนมาร์เทนซิติกที่ให้การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของความแข็งแรงสูงความต้านทานการกัดกร่อนที่ดีคุณสมบัติทางกลที่ดีที่อุณหภูมิสูงถึง 600 ° F (316 ° C) ความเหนียวที่ดีทั้งในโลหะฐานและรอยเชื่อม และใช้เวลาสั้น ๆ ในการอบชุบด้วยความร้อนที่อุณหภูมิต่ำ

เคมีทั่วไป
คาร์บอน: 0.070 สูงสุด / แมงกานีส: สูงสุด 1.00 / ซิลิกอน: 1.00 สูงสุด
โครเมียม: 15.00-17.00 นิกเกิล: 3.00-5.00 /ทองแดง: 3.00-5.00
Columbium + Tantalum: 5 x คาร์บอนต่ำสุด - 0.45 สูงสุด /ฟอสฟอรัส: 0.040 สูงสุด
ซัลเฟอร์: 0.030 สูงสุด /เหล็ก: ความสมดุล

คุณสมบัติทางกายภาพ
ความหนาแน่น: 0.28 ปอนด์ / in3 7.80 g / cm3
ความต้านทานไฟฟ้า: (microhm-cm):
68 ° F (20 ° C): 98

ความร้อนเฉพาะ: BTU / lbl ° F (kJ / kg • K):
32 - 212 ° F (0 - 100 ° C): 0.11 (0.46)

การนำความร้อน: BTU / ชม. / ft2 / ft / ° F (W / m • K)
ที่ 300 ° F (149 ° C): 124 (17.9)
ที่ 900 ° F (482 ° C): 157 (22.6)

โมดูลัสของความยืดหยุ่น: ksi (MPa)
แรงดึง 29 x 103 (200 x 103)
11 .2 x 103 (78 x 103) เป็นแรงบิด

การซึมผ่านของสนามแม่เหล็ก: ferromagnetic อย่างมากในทุกสภาวะ
คุณสมบัติเชิงกลที่อุณหภูมิห้อง
คุณสมบัติ: อบอ่อน ASTM A693 (เกจทั้งหมด), AMS 5604 (เกจ: <.015> ความแข็ง: สูงสุด 38 สูงสุด

AMS 5604 (เกจ: <0.015 นิ้ว)
ความต้านทานแรงดึงสูงสุด: สูงสุด 185 KSI (สูงสุด 1255 MPa)
ความแข็งแรงของผลตอบแทน (ชดเชย 0.2%): สูงสุด 160 KSI (สูงสุด 1105 MPa)
การยืดตัว: 3% ความแข็งขั้นต่ำ: สูงสุด 38 ครั้ง
* สำหรับความหนาทั้งหมดควรสั่งวัสดุ ASTM A693 แทน AMS 5604 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 0.015 "

ภาพรวมของสแตนเลส 17-4PH
17-4PH Stainless Steel 17-4 Precipitation Hardening หรือที่เรียกว่า Type 630 เป็นสเตนเลสชุบแข็งแบบตกตะกอนโครเมียม - ทองแดงที่ใช้สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงและทนต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง ความแข็งแรงสูงจะคงอยู่ที่ประมาณ 600 องศาฟาเรนไฮต์ (316 องศาเซลเซียส)

คุณสมบัติทั่วไป
โลหะผสม 17-4 PH เป็นเหล็กกล้าไร้สนิมมาร์เทนซิติกที่ตกตะกอนด้วยการเติม Cu และ Nb / Cb เกรดนี้รวมความแข็งแรงความแข็งสูง (สูงถึง 572 ° F / 300 ° C) และความต้านทานการกัดกร่อน คุณสมบัติทางกลสามารถปรับให้เหมาะสมได้ด้วยการอบชุบ สามารถให้ผลผลิตสูงมากถึง 1100-1300 MPa (160-190 ksi) ไม่ควรใช้เกรดที่อุณหภูมิสูงกว่า 572 ° F (300 ° C) หรือที่อุณหภูมิต่ำมาก มีความต้านทานเพียงพอต่อการกัดกร่อนในชั้นบรรยากาศหรือในกรดหรือเกลือเจือจาง ซึ่งความต้านทานการกัดกร่อนเทียบเท่ากับโลหะผสม 304 หรือ 430

มาตรฐาน:
ASTM A693 เกรด 630 (AMS 5604B) UNS S17400
EURONORM 1.4542 X5CrNiCuNb 16-4
AFNOR Z5 CNU 17-4PH
DIN 1.4542

คุณสมบัติและประโยชน์ของสแตนเลส 17-4PH
ความต้านทานการกัดกร่อน
โลหะผสม 17-4 PH ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่าสเตนเลสสตีลที่แข็งตัวได้มาตรฐานและเทียบได้กับโลหะผสม 304 ในสื่อส่วนใหญ่ หากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการแตกร้าวจากการกัดกร่อนของความเครียดจะต้องเลือกอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่า 1,022 ° F (550 ° C) โดยควรเป็น 1094 ° F (590 ° C) 1022 ° F (550 ° C) คืออุณหภูมิในการแบ่งเบาบรรเทาที่เหมาะสมที่สุดในสื่อคลอไรด์
1094 ° F (590 ° C) คืออุณหภูมิการแบ่งเบาบรรเทาที่เหมาะสมที่สุดในสื่อ H2S
โลหะผสมอาจเกิดรอยแยกหรือการโจมตีเป็นรูหากสัมผัสกับน้ำทะเลนิ่งเป็นระยะเวลาใดก็ได้
ทนต่อการกัดกร่อนในอุตสาหกรรมเคมีปิโตรเลียมกระดาษนมและอาหาร (เทียบเท่าเกรด 304L)

ลักษณะทั่วไปสแตนเลส 17-4PH,ขายสแตนเลส 17-4,สแตนเลส STL17-4,นำเข้าสแตนเลส 17-4PH,
จำหน่าย,ขาย,สแตนเลส 630,17-4 PH,SUS630,17-4,316,316L,310,310S, 420,440C,304,304L,416,Stainless 630,17-4PH 420,420J2,431,ขายสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,สแตนเลส,แผ่นสแตนเลส,สแตนเลสแผ่น,เพลาสแตนเลส,สแตนเลสเส้น,สแตนเลสสี่เหลี่ยม,แท่ง,กลม,ตัน,แบนสแตนเลส

630 (1.4542) PH 17-4 เหล็กกล้าไร้สนิม
630 (1.4542) PH 17-4 สเตนเลสสตีล 630 (1.4542) สแตนเลสเป็นเหล็กสแตนเลสที่มีคุณภาพที่ใช้ในประเทศของเราและในโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอายุหรือในคำอื่น ๆ มันเป็นส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิล มีส่วนผสมของออสเทนนิติกและสเตนเลสสตีล ซึ่งรวมอยู่ใน

คุณสมบัติสำคัญของสเตนเลส
1.คงทนต่อการกัดกล่อน หรือเป็นสนิม เนื่องจากเนื้อสเตนเลสจะสร้างฟิล์มบางๆ เรียกว่า PASSIVE FILM มาเคลือบผิวหน้าตลอดเวลาเมื่อผิวนั้นทำปฏิกิริยากับอ๊อกซิเจน (H2O) ที่มีอยู่ในบรรยากาศทั่วไป
2.ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย เนื่องจากสเตนเลสไม่เกิดสนิมจึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
3.แข็งแกร่ง เนื้อสเตนเลสมีความแข็งแกร่ง และมีจุดหลอมเหลวสูงกว่าเหล็กมาก ส่งผลให้ชิ้นงานที่ทำจากสเตนเลสมีความแข็งแรงทนทานมาก แต่การทำชิ้นงานจากสเตนเลสก็ทำได้ยากเช่นกัน อุปกรณ์สำหรับงานแปรรูป ตัด เจาะ หรือเชื่อม ต้องเป็นเฉพาะที่ใช้กับงานสเตนเลส

จุดด้อยของสเตนเลส
4.มีความเปราะกว่าเหล็ก จึงไม่เหมาะสำหรับทำวัสดุที่ต้องดัดงอมากๆ และบ่อยๆ เช่น ลวดสลิงสำหรับงานรอก
5.เคลือบสีไม่ติด เนื่องจากสเตนเลสมีการสร้างฟิล์มด้วยตัวเองทำให้สีที่เคลือบไม่สามารถเกาะติดบนผิวสเตนเลสได้
6.เป็นสนิมได้ หากใช้งานในสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีอ๊อกซิเจนปกคลุมผิวสเตนเลส
7.ผุ กร่อนได้ หากผิวสเตนเลสสัมผัสกับกรดเข้มข้น หรือคลอไรด์ (Cl) เพราะสเตนเลสไม่สามารถคงทนต่อกรดเข้มข้นหรือคลอไรด์ จึงจำเป็นต้องเพิ่มนิเกิ้ล (Ni) เข้าไปในส่วนผสมให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความคงทนต่อการกัดกร่อน
สเตนเลสแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลัก

MARTENSITIC เป็นกลุ่มที่มีส่วนผสมของโครเมี่ยม (Cr) ระหว่าง 12 - 18% โดยมีเกรด 403, 410, 414,416, 420, 431, 416, 440A/B/C, 501 และ 502 คุณสมบัติหลักคือ สามารถชุบแข็งได้ ซึ่งส่งผลให้เนื้อสเตนเลสมีความแข็งแกร่งมากและทนต่อการเสียดสีได้ดี จึงเหมาะกับงานทำชิ้นส่วนเครื่องมือ เครื่องจักร แต่แม่เหล็กสามารถดูดติดได้

FERRITIC เป็นกลุ่มที่มีโครเมี่ยม (Cr) อยู่ระหว่าง 12 - 18% และมีคาร์บอน (C) น้อยกว่า 0.2% สเตนเลสในกลุ่มนี้มีราคาถูกที่สุด ไม่สามารถรีดให้แข็งขึ้นได้ แม่เหล็กดูดติด และไม่สามารถชุบแข็งได้ มีโอกาสเป็นสนิมได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น หากใช้งานในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม จึงนิยมนำมาใช้งาน บางชนิดที่ไม่สัมผัสกับกรดโดยตรง เช่น ฝอยขัดหม้อ ลวดรัดสายไฟฟ้า โครงโต๊ะวางเตาแก๊ส เกรดในกลุ่มนี้มี 405, 430, 442 และ 446

AUSTENITIC เป็นกลุ่มที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยมีโครเมียม (Cr) 10.5 -24% เมื่อเพิ่มนิเกิ้ล (Ni) จะทำให้สเตนเลสมีคุณสมบัติทนต่อสนิมและการกัดกร่อนได้ดี สามารถเพิ่มความแข็งด้วยการรีดเย็นได้ แม่เหล็กดูดไม่ติด แต่ไม่สามารถชุบแข็งได้ เกรดในกลุ่มนี้มี 201, 202, 301, 302, 303, 304, 305, 308, 309, 310, 314, 316, 347 และ 348

DUPLEX เป็นกลุ่มที่ผสมกันระหว่า AUSTENITIC และ FERRITIC ซึ่งนำข้อดีของทั้งสองกลุ่มมารวมกันเพื่อวัตถุประสงค์ของการใช้งานเฉพาะเจาะจงบางประเภท ซึ่งไม่ค่อยมีการผลิตมากนัก

ประเภทสแตนเลสสำเร็จรูป
สแตนเลสเส้น (Stainless Bar)
สแตนเลสเส้นกลม (Stainless Round Bar)
สแตนเลสเส้นสี่เหลี่ยม (Stainless Square Bar)
สแตนเลสเส้นหกเหลี่ยม (Stainless Hexagon Bar)
สแตนเลสเส้นฉาก (Stainless Angle)
เส้นแบน (Stainless Flat Bar)
แผ่น (Stainless Sheet) No. 304, 316L, 430
สแตนเลสแผ่นเรียบ (Stainless steal sheet)
สแตนเลสแผ่นลายกันลื่น Checker plate stainless steel
สแตนเลสแผ่นเจาะรู
แป๊ปสแตนเลส (Stainless Pipe) No. 304, 316L, 420
แป๊ปสแตนเลสเงา (Stainless steal solid pipe)
แป๊ปสแตนเลสด้าน (Stainless steel pipe ASTM)
แป๊ปสแตนเลสด้านมีตะเข็บ
แป๊ปสแตนเลสด้านไม่มีตะเข็บ (Seamless stainless pipe)
แป๊ปสแตนเลสกลม (Round stainless pipe)
แป๊ปสแตนเลสสี่เหลี่ยม (Square stainless steal pipe)
แผ่นสแตนเลส สแตนเลสแผ่น (Stainless Sheet) - No. 304, 316L, 430
แผ่นสแตนเลสตัดขายตามต้องการ แผ่นสแตนเลสตัดขายตามขนาด แบ่งขาย
- สแตนเลสแผ่นเรียบ (Stainless Steel Sheet) แบ่งขาย
- สแตนเลสแผ่นลายกันลื่น (Checker Plate Stainless Steel)
- สแตนเลสแผ่นเจาะรู (Stainless Steel Sheet with hole)
- ชิมสแตนเลส (Spring Stainless Sheet)
สแตนเลสเส้น (Stainless Bar)
- สแตนเลสเส้นกลม (Stainless Round Bar)
- สแตนเลสเส้นสี่เหลี่ยม (Stainless Square Bar)
- สแตนเลสเส้นหกเหลี่ยม (Stainless Hexagon Bar)

สแตนเลส แต่ละเกรดมีคุณสมบัติดังนี้ครับ
สแตนเลส 304
- ใช้งานทั่วไปไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อนสูง สามารถขึ้นรูปเย็น
และเชื่อมได้ดี
สแตนเลส 304L
- ใช้งานเชื่อมที่ดีกว่า ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับงานแท้งค์ต่างๆ
สแตนเลส 316
- ใช้กับงานทนกรด ทนเคมี หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อย
สแตนเลส 316L
- ใช้กับงานทนกรดที่เข้มข้นมากกว่า ทนเคมีมากกว่า หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อยมาก (มีความทนกรดมากกว่า)
สแตนเลส 420 (มาตรฐานอเมริกา) 420J2 (มาตรฐานญี่ปุ่น)
- เป็นสแตนเลสเกรดชุบแข็ง สามารถนำไปชุบแข็งได้
(ชุบแล้วความแข็งขึ้นประมาณ 58 HRC)
สแตนเลส 431
- เป็นสแตนเลสที่เคลือบแข็งที่ผิวมา สามารถนำไปชุบแข็งได้เช่นกัน
(ชุบแล้วความแข็งขึ้นประมาณ 50-55 HRC) แต่น้อยกว่าเกรด 420

สแตนเลส 301
-ใช้เกี่ยวกับงานสปริง คอนแทค สายพานลำเลียง
สแตนเลส 310 /310S
-ใช้กับงานทนความร้อนสุง 1,150 องศา งานเตาอบ เตาหลอม ฉนวนกั้นความร้อน
สแตนเลส 309/309S
-ใช้เกี่ยวกับงานทนความร้อนเช่นกัน 900 องศา (น้อยกว่า 310/310S)
สแตนเลส 409/409S
-ใช้กับงานอุปกรณ์ท่อไอเสีย ชิ้นส่วนผนังท่อเป่าลมร้อนต่าง ๆ
Duplex Plate 2205
-ใช้งานขุดเจาะแก๊สและน้ำมัน อุตสาหกรรมเคมี ปิโตรเคมี
อุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อ
สแตนเลส 440C
-ใช้สำหรับงานทำมีด งานชุบแข็งได้ดี ความความทนทน ทนสึกได้สูง เป็นสแตนเลสสำหรับงานมีคมไว้ตัด

SUS304Cu
เพิ่มธาตุ Cu ทำให้ขึ้นรูปได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นรูปลึก
เครื่องใช้ในบ้าน กระติกน้ำสูญญากาศ อ่างห้องครัว อ่างอาบน้ำเป็นต้น
SUS304Ni9
เพิ่มปริมาณ Ni ทำให้ขึ้นรูปได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นรูปลึกได้ดี เครื่องใช้ในบ้าน กระติกน้ำสูญญากาศ อ่างห้องครัว อ่างอาบน้ำเป็นต้น
SUS304L
ลดปริมาณธาตุคาร์บอน ทำให้ทนการกัดกร่อนรอบขอบเกรนได้ดียิ่งขึ้น เครื่องจักร เครื่องมือในโรงงานเคมี เชื้อเพลิงและโรงงานปิโตรเคมีที่ต้องทนการกัดกร่อนรอบขอบเกรน ชิ้นส่วนโครงสร้าง ชิ้นส่วนรับความร้อน
SUS316
ทนความผุกร่อนสูง ทนความร้อนสูง ใช้งานได้ในพื้นที่ภาวะกัดกร่อนสูง มีเวิร์คฮาดเดนนิงน้อย แม่เหล็กดูดไม่ติก เครื่องมือทดสอบน้ำทะเล โรงงานเคมี โรงงานทำสีย้อม โรงงานทำกระดาษ กรดสมุนไพร เครื่องจักรกลเกษตร เครื่องถ่ายภาพ โรงงานผลิตอาหาร เครื่องใช้ชายฝั่งทะเล
SUS316L
ลดปริมาณคาร์บอน ทำให้ทนการกัดกร่อนรอบขอบเกรนยิ่งขึ้น สามารถใช้งานในภาวะการกัดกร่อนสูง มีเวิร์คฮาดเดนนิงน้อย แม่เหล็กดูดไม่ติด เครื่องมือทดสอบน้ำทะเล โรงงานเคมี โรงงานทำสีย้อม โรงงานทำกระดาษ กรดสมุนไพร เครื่องจักรกลเกษตร เครื่องถ่ายภาพ โรงงานผลิตอาหาร เครื่องใช้ชายฝั่งทะเล
SUS321
ด้วยการเพิ่ม Ti ทำให้ทนต่อการกัดกร่อนรอบขอบเกรน ทนความร้อน และทนต่อการเกิดออกไซด์ที่อุณหภูมิสูง ภาชนะทนความร้อน ยานยนต์ เครื่องบิน ท่อระบาย ฝ่าครอบหม้อน้ำ เครื่องมือสัมผัสเคมี เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน
SUS301
มีโครเมียมและนิกเกินต่ำกว่า 304 สามารถเพิ่มความแข็งแรงด้วยการทำงานเย็น รถไฟ เครื่องบิน สายพาน สปริง
SUS301L
มีคาร์บอนน้อย ทนการกัดกร่อนรอบขอบเกรนได้ดีกว่า เพิ่มความแข็งได้โดยการทำงานเย็น กรอบรถไฟ งานประดับในสถาปัตยกรรม
SUH409L
ดัดแปลงได้ง่าย เชื่อมได้ดี ด้านทานการเกิดออกไซด์ที่อุณหภูมิถึง 800℃ ส่วนใหญ่ใช้เป็นปลายท่อในระบบท่อไอเสียรถยนต์
SUH410L
ด้วยความที่เหนียวมาก เปลี่ยนรูปได้ดี เชื่อมได้ดี หักพับได้ดี ทนความร้อนได้ดี ทนการเกิดออกไซด์ได้ดีแม้ตรงแนวเชื่อม การใช้งานเช่น ตู้แช่ขนาดใหญ่ ท่อไอเสียส่วนหน้า หม้อน้ำ หัวเตา ท่อไอเสีย
SUS430
ขยายตัวเนื่องจากความร้อนน้อย ดัดแปลงง่าย ทนความร้อน หัวเตาเผา เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องครัว อ่างล้างจาน
SUS436L
ด้วยการเพิ่ม Mo Ti Nb ทำให้ทนการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม ทั้งการขึ้นรูปและเชื่อมได้ดี ระบบท่อไอเสียรถยนต์ หม้อน้ำ
SUS444
ด้วยการเพิ่ม Mo Ti Nb ทำให้ทนการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม ทั้งการขึ้นรูปและเชื่อมได้ดี ทนการกัดกร่อนจากความเค้นได้ดีกว่าเกรด 316 ระบบท่อไอเสีย ระบบจ่ายน้ำ ถังน้ำ
SUS420J2
ความแข็งแรงสูงหลังชุปแข็ง เครื่องจักร เข็มฉีด วาร์ว
สินค้าโปรโมชั่นราคาพิเศษ

แผ่นสแตนเลส สแตนเลสแผ่น (Stainless Sheet) - No. 304, 316L, 430
แผ่นสแตนเลสตัดขายตามต้องการ แผ่นสแตนเลสตัดขายตามขนาด แบ่งขาย
- สแตนเลสแผ่นเรียบ (Stainless Steel Sheet) แบ่งขาย
- สแตนเลสแผ่นลายกันลื่น (Checker Plate Stainless Steel)
- สแตนเลสแผ่นเจาะรู (Stainless Steel Sheet with hole)
- ชิมสแตนเลส (Spring Stainless Sheet)

สแตนเลสเส้น (Stainless Bar)
- สแตนเลสเส้นกลม (Stainless Round Bar)
- สแตนเลสเส้นสี่เหลี่ยม (Stainless Square Bar)
- สแตนเลสเส้นหกเหลี่ยม (Stainless Hexagon Bar)

• ค่าการนำความร้อน (Thermal conductivity)
สเตนเลสทุกชนิดจะมีค่าการนำความร้อนต่ำกว่าเหล็กกล้าคาร์บอนมาก สเตนเลสเกรดที่มีส่วนผสมโครเมียมอย่างเดียว (plain chromium steel) มีค่าการนำความร้อน +_1/3 และเกรดออสเทนนิติกมีค่าการนำความร้อน +_1/4 ของเหล็กกล้าคาร์บอน ทำให้มีผลต่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูง เช่นมีผลต่อการควบคุมปริมาณความร้อนเข้าระหว่างการเชื่อม, ต้องให้ความร้อนเป็นระยะเวลานานขึ้น เมื่อต้องทำงานขึ้นรูปร้อน
• สัมประสิทธิ์การขยายตัว(Expansion coefficient)
สเตนเลสเกรดที่มีส่วนผสมโครเมียมอย่างเดียวมีสัมประสิทธิ์การขยายตัวคล้ายกับเหล็กกล้าคาร์บอน แต่เกรดออสเทนนิติกจะมีสัมประสิทธ์การขยายตัวสูงกว่าเหล็กกล้าคาร์บอน 1½ เท่า การที่สเตนเลสมีการขยายตัวสูง แต่มีค่าการนำความร้อนต่ำทำให้ต้องหามาตรการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียหายที่ตามมาเช่น ใช้ปริมาณความร้อนในการเชื่อมต่ำ, กระจายความร้อนออกโดยใช้แท่งทองแดงรองหลัง, การจับยึดป้องกันการบิดงอ ปัจจัยเหล่านี้ต้องพิจารณาการใช้งานร่วมกันของวัสดุ เช่นท่อแลกเปลี่ยนความร้อน (heat exchanger) ระหว่างเปลือกโครงสร้างเหล็กกล้าคาร์บอน และท่อออสเทนนิติคเป็นต้น

• ฟิล์มป้องกันและการสร้างฟิล์ม (Passive film)
สเตนเลสจะมีฟิล์มบางๆ ต้านทานการกัดกร่อน จำเป็นต้องรักษาความสมบูรณ์ของฟิล์มป้องกัน ดังนี้
• หลีกเลี่ยงความเสียหายหรือการสัมผัสรุนแรงทางกล
• ซ่อมปรับปรุงพื้นที่ที่มีผลต่อการเสียหายเช่น บริเวณที่เกิดสะเก็ดหรือคราบออกไซด์เนื่องจากอุณหภูมิสูงใกล้ๆ แนวเชื่อม, บริเวณที่เกิดความเสียหายทางกลหรือมีการเจียระไน, มีการปนเปื้อนโดยวิธีการสร้างฟิล์มป้องกัน (passivation) อย่างเดียวหรือใช้ทั้งวิธีการแช่กรดเพื่อกำจัดคราบจากออกไซด์ (pickling) หรือ การแช่กรดหรือทาน้ำยาสร้างฟิล์มออกไซด์ (passivation) ที่ผิวเหล็กกล้าสเตนเลส

• แน่ใจว่า มีออกซิเจนเพียงพอและสม่ำเสมอที่สร้างออกไซด์ที่ผิวของ เหล็กกล้าสเตนเลสได้
• การเสียหายที่ผิวเนื่องจากการเสียดสีที่ผิวโลหะกับโลหะอย่างรุนแรง (Galling /pick up / seizing)
ผิวหน้าสเตนเลสมีแนวโน้มที่จะเกิดการเสียหายเนื่องจากการเสียดสีอย่างรุนแรง ต้องหลีกเลี่ยงและระมัดระมัดระวัง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวโดยสำหรับผิวหน้าที่มีการเสียดสีกันตลอดเวลา ควรใช้ Load หรือแรงเสียดสีต่ำสุด และต้องแน่ใจว่า การเสียดสีไม่สร้างความร้อนเกิดขึ้น ควรรักษาผิวสัมผัสไม่ให้มีการบดกับผงฝุ่น เม็ด ทรายฯลฯ และใช้น้ำมันหล่อลื่นหรือเคลือบผิว

เทคนิคการขึ้นรูป สแตนเลส
หลักการขึ้นรูป การขึ้นรูปโลหะแผ่นด้วยแรงกดเป็นวิธีหลักในการเปลี่ยนรูปโลหะให้ได้รูปร่างตามที่ต้องการ ไม่ว่า จะด้วยวิธีการที่เรียกว่า การปั้มขึ้นรูป (Pressing) การลากขึ้นรูป (Drawing) หรือ การขึงขึ้นรูป (Stretching) ด้วยใช้วิธีการอัดแผ่นโลหะให้ไปอยู่ในช่องพื้นที่ตามที่ต้องการ
เทคนิคการตัดแผ่น หรือ เจาะรูสเตนเลส สแตนเลส 310S

การตัดแผ่นเปล่า (Blanking) หรือ อาจเรียกว่าการปั้มแผ่น (Punching) หมายถึง แผ่นที่ได้จากการตัดบริเวณรอบให้ขาดจากกันในขั้นตอนครั้งเดียว
การเจาะ (Piercing) หรือ อาจเรียกว่า การเจาะรู (perforating) จะคล้ายกับการตัดแผ่นเปล่า (Blanking) ต่างกันตรงที่ ส่วนที่เป็นแผ่นเปล่าจะเป็นเศษทิ้ง และบริเวณโดยรอบจะเป็นชิ้นงาน

1.2 ขั้นตอนการตัดแผ่นเปล่า
การเจาะ (Piercing) อาจหมายถึงรูที่มีรูปร่างเหมือนแผ่นเปล่า ปกติจะพิจรณาใน 2 ขั้นตอนการทำงาน ได้แก่ การเจาะและหลุดออก ขั้นตอนการเจาะมี 6 ลำดับดังนี้
1.3 ลักษณะขอบของแผ่นเปล่า ลักษณะขอบที่ได้จากแผ่นเปล่าด้วยการตัดจากเครื่องตัดแผ่นเปล่าแบบทั่วไปจะมีลักษณะไม่เรียบโดยจะมีลักษณะเป็นขอบล้มในแนวตั้ง ซึ่งเมื่อขยายภาพตรงตำแหน่งขอบจะได้ภาพดังข้างล่าง
เกร็ดความรู้ในการใช้สเตนเลส
ค่าการนำความร้อน (Thermal conductivity) เพลากลวงสแตนเลส SUS 304 316 316L

เทคโนโลยีการตัดด้วยพลาสม่า
การตัดโลหะเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในวงการอุตสาหกรรม ไม่เฉพาะ แต่งานอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น งานอุตสาหกรรมขนาดย่อม หรืองานภายในครอบครัวก็มีความจำเป็นมากเช่นกัน การตัดโลหะที่มีประสิทธิภาพยังช่วยให้งานอื่นๆ เช่น การออกแบบ ทั้งที่เป็นชิ้นส่วนของเครื่องจักรเครื่องมือ และโครงสร้างรูปแบบต่างๆ มีอิสระในการออกแบบมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องคำนึงถึงขอบเขตของรอยตัดต่างๆ ต่อไป นอกจากนั้นยังช่วยให้งานซ่อมแซม ดัดแปลงหรืองานอดิเรกอื่นๆ สำเร็จลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันการตัดโลหะด้วยอาร์คพลาสมาเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็วและงานออกมาเรียบร้อย

สเตนเลสหรือเหล็กกล้าไร้สนิม เป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของธาตุโครเมี่ยมมากกว่า 10.5 % ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้เกิดการต้านทานการเกิดสนิม แต่ระดับชั้นของคุณภาพความต้านทานสนิมจะขึ้นกับปริมาณของโครเมียมที่ผสมตั้ง แต่ 10.5 % ขึ้นไป ตลอดจนธาตุอื่นๆ ที่ผสมร่วมเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน กรณีการนำสเตนเลสมาใช้ในผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร อาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.สเตนเลสที่มีความต้านทานการกัดกร่อนต่ำ (ปริมาณโครเมียมตั้ง แต่ 10.5-16%) มีนิกเกิลหรือไม่ก็ได้ ได้แก่เกรด 409, 410 อนุกรม 200 เกรดนี้จะไม่นิยมนำมาทำอุปกรณ์เพื่อบรรจุอาหาร
2.สเตนเลสที่มีการต้านทานการกัดกร่อนปานกลาง (ปริมาณโครเมียมตั้ง แต่ 16-18%) มีความเหมาะสมที่จะนำมาทำภาชนะบรรจุอาหารทั่วไป
3.สเตนเลสที่มีการต้านทานการกัดกร่อนสูงถึงสูงมาก (ปริมาณโครเมียมตั้ง แต่ 18%ขึ้นไป) เหมาะสมสำหรับงานอาหารเครื่องดื่มจนถึงอุปกรณ์ประกอบอาหารทางอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ทางด้านเคมีอุตสาหกรรม

คุณสมบัติสำคัญของสเตนเลส
1.คงทนต่อการกัดกล่อน หรือเป็นสนิม เนื่องจากเนื้อสเตนเลสจะสร้างฟิล์มบางๆ เรียกว่า PASSIVE FILM มาเคลือบผิวหน้าตลอดเวลาเมื่อผิวนั้นทำปฏิกิริยากับอ๊อกซิเจน (H2O) ที่มีอยู่ในบรรยากาศทั่วไป

2.ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย เนื่องจากสเตนเลสไม่เกิดสนิมจึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย

3.แข็งแกร่ง เนื้อสเตนเลสมีความแข็งแกร่ง และมีจุดหลอมเหลวสูงกว่าเหล็กมาก ส่งผลให้ชิ้นงานที่ทำจากสเตนเลสมีความแข็งแรงทนทานมาก แต่การทำชิ้นงานจากสเตนเลสก็ทำได้ยากเช่นกัน อุปกรณ์สำหรับงานแปรรูป ตัด เจาะ หรือเชื่อม ต้องเป็นเฉพาะที่ใช้กับงานสเตนเลส

จุดด้อยของสเตนเลส
4.มีความเปราะกว่าเหล็ก จึงไม่เหมาะสำหรับทำวัสดุที่ต้องดัดงอมากๆ และบ่อยๆ เช่น ลวดสลิงสำหรับงานรอก
5.เคลือบสีไม่ติด เนื่องจากสเตนเลสมีการสร้างฟิล์มด้วยตัวเองทำให้สีที่เคลือบไม่สามารถเกาะติดบนผิวสเตนเลสได้
6.เป็นสนิมได้ หากใช้งานในสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีอ๊อกซิเจนปกคลุมผิวสเตนเลส
7.ผุ กร่อนได้ หากผิวสเตนเลสสัมผัสกับกรดเข้มข้น หรือคลอไรด์ (Cl) เพราะสเตนเลสไม่สามารถคงทนต่อกรดเข้มข้นหรือคลอไรด์ จึงจำเป็นต้องเพิ่มนิเกิ้ล (Ni) เข้าไปในส่วนผสมให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความคงทนต่อการกัดกร่อน
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการตัดพลาสม่า กระบวนการของการ ตัดแบบบพลาสม่า (Plasma)

กระบวนการตัดพลาสม่า (Plasma arc cutting , PAC)
เป็นกระบวนการหลอมละลายชิ้นงานโดยการอาร์คผ่านพื้นที่เล็กๆ และมีการกำจัดโลหะที่หลอมละลายออกไปโดยใช้แก๊สที่มีความเร็วสูง ซึ่งวิ่งผ่านรู Orifice ซึ่งแก๊สดังกล่าวถูกเรียกว่า Plasma gas ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอุณหภูมิระหว่าง 10,000-14,000 oC กระบวนการตัดพลาสม่านี้ ถูกสร้างขึ้นกลางทศวรรษที่ 1950

ข้อดีของกระบวนการตัดพลาสม่าแบบนี้ มีดังนี้

  1. ใช้แรงในการจับยึดชิ้นงานน้อยกว่า
  2. อุณหภูมิในการตัดสูงกว่าการตัดแก๊ส (OFC) จึงทำให้มีความสามารถในการตัดได้เร็วกว่า
  3. สามารถเริ่มทำการตัดได้ทันที่โดยไม่จำเป็นต้องให้ความร้อนเพื่ออุ่นชิ้นงานก่อน (Preheat)

ข้อจำกัดของกระบวนการตัดแบบนี้ มีดังนี้
1. อาจเกิดอันตรายจากความร้อน , ไฟฟ้าช๊อต , แสงที่จ้า , ควันที่เกิดจากการตัด และระดับเสียงที่มากกว่าการตัดวิธีอื่น นอกจากนั้นยังควบคุมขนาดของการตัดได้ยากกว่าการตัดโดยใช้เครื่องมือตัด
2. อุปกรณ์มีราคาแพงเมื่อเทียบกับกระบนการตัดแก๊ส
3.ใช้พลังงานมากกว่า

พลาสม่า (Plasma) คือประจุที่เกิดจากการอาร์คระหว่างอิเลคโตรคและชิ้นงาน ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดพลาสม่า ได้แก่ กระแสที่ใช้ , รูปร่างของหัวตัด (Torch) , อัตราการไหลของแก๊ส ซึ่งการอาร์คจะเกิดขึ้นภายใน Orifice ที่อยู่ด้านล่างของอิเลคโตรด
พลาสม่าแก๊สจะถูกพ่นผ่านบริเวณที่เกิดการอาร์ค ซึ่งจะได้รับความร้อนอย่างรวดเร็วจนมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีความเร็วเพิ่มขึ้นเพื่อไหลผ่านรู Orifice และถูกพ่นเข้าสู่ชิ้นงานในบริเวณที่ทำการตัด

โดยที่ค่าความเข้มและความเร็วของพลาสม่าแก๊สจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย เช่น ชนิดของแก๊ส ,ความดัน , รูปแบบการไหล , กระแสไฟฟ้าที่ใช้ , ขนาดและรูปร่างของรู Orifice และระยะห่างระหว่างอิเลคโตรดกับชิ้นงาน

ควันพิษที่เกิดจากการตัด
ปริมาณควันพิษที่เกิดขึ้นจากการตัดพลาสม่า มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น กระแสที่เกิดจากการอาร์ค , ความเร็วในการตัด, วัสดุที่ใช้ในการตัด และชนิดของแก๊สที่ใช้ โดยผิวโลหะด้านได้รับการตัดจะจะเกิดออกไซด์ของเหล็กที่ถูกตัด โอโซนและออกไซด์ของไนโตรเจน สำหรับการกำจัดควันพิษออกจากพื้นที่ทำงานจะใช้ระบบระบายอากาศ ซึ่งควรจะต้องผ่านกรองอากาศ ก่อนที่จะปล่อยออกสู่ภายนอก การควบคุมควันจากการตัด มีหลายวิธีได้แก่ การตัดบนโต๊ะที่มีน้ำและใช้น้ำรดที่หัวตัดเพื่อลดปริมาณควันจากการอาร์ค , นอกจากนั้นยังคงใช้วิธีจุ่มชิ้นงานลงใต้ผิวน้ำ ซึ่งวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำป้อนเข้าไปที่หัวตัด

ในการตัดแผ่นอลูมิเนียมและแมกนีเซียมบนโต๊ะหล่อน้ำนั้น มีแนวโน้มว่า จะเกิดการระเบิดของไฮโดรเจน ซึ่งยังไม่ทราบกลไกของการเกิดระเบิด แต่สันนิษฐานว่า ไฮโดรเจนจะถูกปลดปล่อยออกมาจากปฏิกริยาของการที่อลูมิเนียม และแมกนีเซียมหลอมเหลวและน้ำ ซึ่งไฮโดรเจนจะสะสมอยู่ใต้ผิวชิ้นงาน ซึ่งจะเกิดการจุดระเบิดขึ้นเมื่อมีการอาร์คใกล้บริเวณดังกล่าว

ระดับสียง
ปริมาณของเสียงที่หัวตัดพลาสม่า จะขึ้นอยู่กับปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่หัวตัด ซึ่งโดยปกติจะมีระดับที่ 110 dBA ที่ 400 A โดยเสียงดังกล่าวมีความถี่อยู่ระหว่าง 5,000 ? 20,000 Hz ดังนั้นผู้ใช้งานควรมีการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียงในขณะทำงาน

สำหรับการควบคุมระดับเสียงจะใช้วิธีใช้น้ำรด (Water Shroud) ซึ่งจะทำหน้าที่ดูดซับเสียงรอบ ๆ Nozzle ของหัวตัด และน้ำที่อยู่ใต้ Plate จะช่วยป้องกันเสียงเล็ดลอดลงมาจากรอยที่ตัด ซึ่งจะสามารถลดระดับเสียงลงได้ 20 dBA ในส่วนของวิธีการตัดใต้ผิวน้ำจะลดระดับเสียงลงได้มากกว่าวิธีใช้น้ำรดเนื่องจากการอาร์คจะเกิดใต้ผิวน้ำ

การแผ่รังสี
การอาร์คของพลาสม่าจะก่อให้เกิดรังสี UV และรังสีอินฟราเรด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อดวงตาและผิวหนัง นอกจากนั้นการแผ่รังสียังทำให้เกิด โอโซน , ออกไซด์ของไนโตรเจน และแก๊สพิษอื่น ๆ โดยรอบอีกด้วย จึงจำเป็นต้องสวมใส่แว่นตาและผ้าคลุมผิวหนังไว้ โดยตารางที่ 4. ได้แนะนำการตัดที่พิกัดกระแสต่าง ๆ นอกจากนี้ยังอาจใช้ผนังและม่านป้องกันไว้

630 (1.4542) PH 17-4 เหล็กกล้าไร้สนิม
630 (1.4542) สเตนเลสสตีลเป็นเหล็กกล้าไร้สนิมคุณภาพสูงที่ใช้ในประเทศของเราและในโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุหรือในคำอื่น ๆ มันเป็นส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิลที่มีส่วนผสมของออสเทนนิติกและมาร์เทนนิติก กลุ่มเหล็กกล้าไร้สนิมชุบแข็ง

เหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 630 และเหล็กกล้าไร้สนิมเกรดอื่น ๆ สามารถให้ประโยชน์ต่าง ๆ ตามเกรดอื่น ๆ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเหล็กกล้าไร้สนิม ซึ่งรวมอยู่ในกลุ่มนี้แสดงความต้านทานการกัดกร่อนต่อเหล็กกล้าไร้สนิมทั้งออสเทนนิติกและมีคุณสมบัติในการรับความต้านทานสูงผ่านการบำบัดความร้อนเช่นสแตนเลสมาร์เทนซิติก คุณภาพที่ใช้กันมากที่สุดในกลุ่มสแตนเลสนี้คือ 17-4 PH (โครเมียม 17% และนิกเกิล 4% บรรจุอยู่ในชื่อ)

630 - ค่าวัสดุคุณภาพสเตนเลสสตีล 17.4 PH (1.4542)
พื้นที่การใช้งาน
สแตนเลสคุณภาพ 630, ความแข็งแรงเชิงกลสูง, ความแข็งสูงและมีอัตราส่วนราคา - ประสิทธิภาพที่ดีโลกเป็นประเภทเหล็กที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สเตนเลสเกรด 630 มักถูกใช้ในเพลาปั๊มและวาล์วเครื่องใช้ในครัวอุตสาหกรรมปิโตรเคมีโรงงานเคมีและวัสดุตก แต่งสแตนเลส

1.4542 คือ PH 17-4 เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการใช้งานสเตนเลสสตีลคุณภาพสูงที่สุดในอุตสาหกรรมการป้องกัน วัสดุสแตนเลสนี้ ซึ่งเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมการป้องกันในประเทศของเรามีการใช้บ่อยเนื่องจากค่าเชิงกลสูงและชีวิตที่ยาวนาน

รักษาความร้อน
วิธีการแก้ปัญหา (สภาพ A) - เหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 630 ถูกทำให้ร้อนที่ 1,040 ° C เป็นเวลา 0.5 ชั่วโมงจากนั้นอากาศเย็นถึง 30 ° C ส่วนเล็ก ๆ ของเกรดเหล่านี้สามารถดับน้ำมันได้

การชุบแข็ง - เหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 630 ถูกชุบแข็งอายุที่อุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้คุณสมบัติเชิงกลที่ต้องการ ในระหว่างกระบวนการการเปลี่ยนสีผิวเผินเกิดขึ้นตามมาด้วยการหดตัวที่ 0.10% สำหรับสภาพ H1150 และ 0.05% สำหรับสภาพ H900

การเชื่อมโลหะ
สแตนเลสเกรด 630 สามารถเชื่อมได้โดยใช้วิธีการทั่วไปทั้งหมดและไม่ต้องการการให้ความร้อนล่วงหน้า ควรใช้ความระมัดระวังในการออกแบบและการเชื่อมเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยเชื่อม

เครื่องจักรกล
เหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 630 สามารถกลึงได้ในสภาพที่ผ่านการบำบัดแล้ว มีอัตราการตัดเฉือนใกล้เคียงกับเหล็กเกรด 304

การประยุกต์ใช้งาน
การใช้งานที่สำคัญของเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 630 ได้แก่ :
ส่วนประกอบเครื่องยนต์ เพลามีความแข็งแรงสูงและใบพัดเรือ แม่พิมพ์พลาสติก วาล์วและเกียร์

สั่งซื้อสินค้า / ติดต่อสอบถาม

เขียนอีเมลถึงเจ้าของร้าน

ส่งเมลถึง:จำหน่าย,ขาย,สแตนเลส 316,316L,304,304L,310,310S,410,420J2,416,431,440C,630,17-4PH
อีเมลผู้ส่ง:
เนื้อความ:
มีไฟล์แนบ
ทำสำเนา