RareBooks Store ร้านหนังสือหายาก
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
สินค้าแนะนำ
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน29/02/2012
เป็นสมาชิกเมื่อ 17/02/2012
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe

ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  กรุงเทพมหานคร 10300
โทร.  088-505-6554
Mail  rarebooks.store@gmail.com
Search      Go

Home / All Product List / (ขายแล้ว) พระราชพิธีราชาภิเษก์สมรส พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก และ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมนเทียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พ.ศ. ๒๔๙๓ และ เรื่อง บรมราชาภิเษก พระนิพนธ์ในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร

(ขายแล้ว) พระราชพิธีราชาภิเษก์สมรส พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก และ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมนเทียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พ.ศ. ๒๔๙๓ และ เรื่อง บรมราชาภิเษก พระนิพนธ์ในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร

รูปภาพประกอบทั้งหมด 1 รูป

(ขายแล้ว) พระราชพิธีราชาภิเษก์สมรส พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก และ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมนเทียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พ.ศ. ๒๔๙๓ และ เรื่อง บรมราชาภิเษก พระนิพนธ์ในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  12/04/2012
แก้ไขล่าสุด  :  13/05/2012
ราคา  ขายแล้ว

หนังสือที่ได้รวบรวมเรื่องราวของพระราชพิธีราชาภิเษก์สมรส พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก และ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมนเทียร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ซึ่งจัดพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพลตรี หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ (หม่อมราชวงศ์เฉลิมลาภ ทวีวงศ์)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีหมั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2492 ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากนั้น รัฐบาลได้แจ้งให้ประชาชนชาวไทยทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จนิวัติประเทศไทยพร้อมด้วยพระคู่หมั้นในวันที่ 24 มีนาคม พุทธศักราช 2493

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกำหนดให้วันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2493 เป็นวันประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม อันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อใกล้ถึงเวลาพระฤกษ์ เวลา 09.30 น. หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ทรงนำหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ไปยังวังสระปทุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ลงนามในสมุดทะเบียนสมรส ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชสักขี 2 คน คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และพลเอกมังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่า การกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามด้วย นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่แรกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ที่ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย

เมื่อสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จออก ณ ชั้น 2 ของพระตำหนักแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ฯ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนเครื่องราชสักการะ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประทานน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์แก่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ตามโบราณราชประเพณี พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และบุคคลที่ได้รับเชิญมาร่วมในพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ ถวายของขวัญ ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานของที่ระลึกเป็นหีบบุหรี่เงินขนาดเล็ก ประดับอักษรพระนามาภิไธยย่อ ภ.อ. และ ส.ก

ต่อมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ พระอัครมเหสี เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์แก่สมเด็จพระราชินีในศุภมงคลโอกาสนี้ด้วย เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล แล้วเสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยให้คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการและคณะทูตานุทูต เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

ในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 29 เมษายน พุทธศักราช 2493 ทั้งสองพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานโดยรถไฟพระที่นั่งไปประทับ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 5 วัน (ข้อมูลจาก http://www.infoforthai.com/forum/topic/449)

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก และ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมนเทียร อันมีเนื้อหาที่สำคัญ ควรค่าแก่การศึกษามากมาย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้นพปฎลเศวตฉัตรพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในรัชกาลที่ ๙ เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ ๔ - ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ปรากฏบันทึกรายละเอียดไว้ ดังนี้

เนื้อหา
1 การเตรียมพิธี
2 วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
3 วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
4 วันที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
5 วันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
6 วันที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
7 อ้างอิง
8 แหล่งข้อมูลอื่น

การเตรียมพิธี

พราหมณ์ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี สระเกษ สระแก้ว สระคงคา และสระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น มาทำพิธีเสกน้ำ สำหรับถวายเป็นน้ำอภิเษก และ น้ำสรงพระมูรธาภิเษก

นอกจากนี้ ยังมีการประกอบพิธีจารึกพระปรมาภิไธยลงบนพระสุพรรณบัฎ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะดวงตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ ตามเวลาพระมหามงคลฤกษ์

วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
พิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์

เวลา ๑๘.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานมายังพระบรมมหาราชวัง เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระทวารเทเวศร์รักษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนชนวน พระราชทานแก่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต เพื่อทรงนำไปจุดเทียนที่เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุด เทียนพระมหามงคลและเทียนเท่าพระองค์

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ขึ้นยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ สังฆการี อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๓๐ รูป มีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ขึ้นสู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณทางประตูสนามราชกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล

ถึง เวลา ๑๘.๕๐ น. อันเป็นมหามงคลฤกษ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนทองชนวน ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน เสร็จแล้วถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช จากนั้นสมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปจุดเทียนชัยในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญมงคลคาถา จุดเทียนชัย ชาวพนักงาน ประโคม ฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ แตร ดุริยางค์

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนชนวนแก่มหาดเล็ก พร้อมด้วยธูปเงิน เทียนทอง และดอกไม้ ไปบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ คือ

พระมหาเศวตฉัตร ๕ แห่ง ในพระที่นั่งต่าง ๆ ดังนี้
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
พระที่นั่งอนันตสมาคม

ปูชนียสถานสำคัญ อีก ๑๓ แห่ง ดังนี้
พระสยามเทวาธิราช ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเครื่องต้น ที่ห้องภูษามาลา
เทวสถาน พระอิศวร
เทวสถาน พระนารายณ์
เทวสถาน พระคเณศร์
พระหลักเมือง
พระเสื้อเมือง

พระกาฬชัยศรี
พระเพลิง
พระเจตคุปต์
เทวรูป ณ หอแก้วพระภูมิ
เทวรูป ณ หอเชือก
เทวรูป ณ ตึกดิน

สมเด็จพระสังฆราชเสด็จกลับไปขึ้นนั่งอาสนะที่เดิม พระศาสนโสภณ (จวน อุฎฐายี) วัดมกุฎกษัตริยาราม อ่านประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จบแล้ว พระสงฆ์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ๓๐ รูป และในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ๔๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระครูวามเทพมุนี ประธานพิธีพราหมณ์ ถวายน้ำพระมหาสังข์ พราหมณ์เป่าสังข์ แล้วถวายใบสมิตสำหรับทรงปัดพระองค์ ประกอบด้วย

ใบมะม่วง ๒๕ ใบ ได้แก่ ภยันตราย
ใบทอง ๓๒ ใบ ได้แก่ อุปัทวันตราย
ใบตะขบ ๕๖ ใบ ได้แก่ โรคันตราย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับใบสมิตมาทรงปัดพระองค์ เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี รับพระราชทานกลับไป กระทำพิธีศาสตร์ปุณยา ชุบโหมเพลิง ณ ที่ทำพิธีพราหมณ์

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ ธูปเทียนบูชา พระสยามเทวาธิราช พระแท่นอัฐทิศ และพระที่นั่งภัทรบิฐ

เจ้าพนักงานสังฆการี นิมนต์ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ชั้นพระราชาคณะ จำนวน ๕ รูป ขึ้นนั่งยังอาสนะบนพระแท่นบรรทมในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ขึ้นยังห้องพระบรรทม พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการพระรัตนตรัย เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ ณ ห้องกลาง ทรงพระมหามงคล พระสงฆ์ ๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรจบแล้ว ทรงเปลื้องพระมหามงคล พระสงฆ์ถวายบังคมลา

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จกลับไปประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาธรรมที่พระแท่นสวดภาณวาร พระราชาคณะ นั่งปรก และสวดภาณวารต่อไปตลอดคืน เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓

การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เวลา ๑๑.๒๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงรับการสรงพระมูรธาภิเษก จากสหัสธารา พระสงฆ์ในมณฑลพระราชพิธี เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร มโหระทึก และเครื่องดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ ๒๑ นัด

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ สู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพาเป็นปฐม เพื่อทรงรับน้ำอภิเษก จากสมาชิกรัฐสภา [1] เมื่อทรงผันพระองค์ เวียนมาสู่ทิศบูรพาอีกครั้งแล้ว เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร (จิตร ณ สงขลา) ประธานวุฒิสภา กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ, นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กราบบังคมทูลเป็นภาษาไทย

เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี (สวาสดิ์ พราหมณกุล) ทำหน้าที่พระมหาราชครู กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ และภาษาไทย แล้ว น้อมเกล้าฯ ถวาย พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขณะนี้ ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตร เครื่องดุริยางค์

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ประทับ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระราชครูวามเทพมุนี ร่ายเวทย์ สรรเสริญศิวาลัยไกรลาส จบแล้ว กราบบังคมทูลถวาย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เป็นภาษามคธ แล้วทูลเกล้าฯ ถวาย พระสุพรรณบัฎ จารึกพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร”, เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์, เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์, เครื่องราชูปโภค และ พระแสงราชศาสตราวุธ ขณะนั้น พระสงฆ์ เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตรฯ กองทหารถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารยิงปืนกองแก้วจินดา ตามกำลัง วันศุกร์ ๒๑ นัด ทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ ๑๐๑ นัด พระสงฆ์ทั่วพระราชอาณาจักร ย่ำระฆังถวายชัยมงคล

เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แล้ว พระราชครูวามเทพมุนีกราบบังคมทูลถวายชัยมงคลด้วยภาษามคธและภาษาไทย จากนั้นจึงมี พระปฐมบรมราชโองการ พระราชทานอารักขาแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งหลายว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระราชครูวามเทพมุนี รับสนองพระปฐมบรมราชโองการ แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจรรยา ดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานไว้ ทุกประการ

ต่อมา เวลา ๑๔.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน โดยมี คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล

จากนั้น เวลา ๑๔.๔๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสี ให้ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี

วันที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร
เวลา ๑๙.๕๔ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จฯ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประทับแรม ในพระบรมมหาราชวัง รุ่งเช้า จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชร เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เสด็จออกสีหบัญชร
เวลา ๑๖.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จออกยังท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล

ต่อมาเวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลและสมาคมต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายชัยมงคล ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชร พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ในนามพสกนิกรชาวไทย ทั่วพระราชอาณาจักร

เวลา ๑๗.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ในพิธีเฉลิมพระนาม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และ พระราชทานสมณศักดิ์ แก่พระราชาคณะ เสร็จแล้ว ทรงสดับพระธรรมเทศนา มงคลสูตร รัตนสูตร และ เมตตสูตร รวมหนึ่งกัณฑ์ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญานวโร)

วันที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
พิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระราชวงศ์ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ สถาปนาฐานันดรศักดิ์ ได้แก่

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล

จากนั้นทรงสดับพระธรรมเทศนาโดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ถวายพระธรรมเทศนา เทวตาทิสนกถา ทศพิธราชธรรม และจักรวรรดิวัตรรวมหนึ่งกัณฑ์ (ข้อมูลจาก http://www.infoforthai.com/forum/topic/449)

หน้าปกเป็นกระดาษอาร์ตมันสีขาว หุ้มปกด้วยพลาสติกอย่างดี เนื้อกระดาษสภาพดีมาก
ภายในเป็นกระดาษอย่างดีพิมพ์อักษรดำ และกระดาษอาร์ตมันพิมพ์ภาพสีขาวดำ

สนใจติดต่อ 088-505-6554, 089-755-5565
E-mail: rarebooks.store@gmail.com
Website: http://www.pantipmarket.com/mall/rarebooksstore/
Facebook: http://www.facebook.com/pages/RareBooks-Store-ร้านหนังสือหายาก/305195526209095



แนะนำร้าน พระแกลเลอรี่ (Phra Gallery) จำหน่าย พระเครื่อง พระบูชา ของโบราณ
Website: http://www.phra-gallery.com/th/index.php หรือ http://www.pantipmarket.com/mall/phragallery/
Facebook: http://www.facebook.com/PhraGalleryThailand

สั่งซื้อสินค้า / ติดต่อสอบถาม

เขียนอีเมลถึงเจ้าของร้าน

ส่งเมลถึง:RareBooks Store ร้านหนังสือหายาก
อีเมลผู้ส่ง:
เนื้อความ:
มีไฟล์แนบ
ทำสำเนา