แม่ธรณี แม่คงคา แม่โพสพ
แม่ธรณี แม่คงคา และแม่โพสพนั้น เป็นความเชื่อของผู้ที่นับถือลัทธิเทวนิยม ศาสนาที่มีเทพเจ้า สมมติขึ้นมาเพื่อยึดเป็นที่พึ่งทางใจว่า สิ่งเหล่านี้ได้ช่วยอุ้มชูชีวิตขึ้นมาให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับนางธรณีในวันตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นางธรณีนั้นเกิดจากบารมีของพระพุทธองค์บันดาลให้เกิดขึ้นมาเฉพาะกิจเท่านั้น แล้วพอเสร็จกิจปราบมารได้ นางธรณีก็หายไป ดังนั้น การกราบบูชาท่านเหล่านั้นจึงไม่มีผล เพราะท่านไม่มีตัวตน ทีนี้บังเอิญไปอธิษฐานแล้วสมปรารถนาขึ้นมา ก็เลยเข้าใจว่า สิ่งที่สมมตินั้นเป็นผู้บันดาลขึ้น แต่ความจริง ความสำเร็จขึ้นอยู่กับบุญในตัวที่เคยทำมาข้ามชาติ
ที่ลูกอยากได้ข้าวมาบูชา แล้วเกิดมีต้นข้าวงอกให้เก็บข้าวได้นั้น ก็เป็นเหตุบังเอิญ ซึ่งเกิดจากมูลของนกที่มาถ่ายเอาไว้ ซึ่งมีเศษของเมล็ดข้าวเปลือกปนอยู่ด้วย แล้วเมล็ดข้าวเปลือกนั้น ก็ได้ดิน อากาศ ฟ้า ที่ถูกส่วนพอเหมาะพอดี จึงเจริญเติบโตเป็นต้นข้าว
คาถาบูชาพระแม่โพสพ
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า
โพสะวะโภชะนัง อุตตะมะ ลาภัง มัยหัง สัพพะสิทธิหิตั้ง โหตุ
ตำนานพระแม่โพสพ
คาถาบูชาพระแม่โพสพ สำหรับคติความเชื่อเรื่อง แม่โพสพ ตำนานพระแม่โพสพ เป็นเทพธิดา หรือเทพีประจำพืชพรรณธัญชาติ ซึ่งหมายถึง ต้นข้าว ซึ่งถือว่า เป็นพืชพรรณชนิดเดียวที่มีเทพธิดาประจำ
พระแม่โพสพ เป็นท่านเทพธิดาที่ได้รับความเคารพนับถือกราบไหว้มา แต่โบราณกาล กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ที่คุ้มครองดูแลต้นข้าวให้เจริญงอกงาม ให้ผลิตผลอุดมสมบูรณ์
แม่โพสพ จึงเป็นเทพธิดาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงอยู่ของชีวิตเหล่าชาวนา เมื่อแรกทำนา จนกระทั่งถึงเวลาไถคราด เก็บเกี่ยวรวงข้าวด้วยเคียวเหล็ก จะต้องประกอบพิธีเซ่นบูชาแม่โพสพทุกระยะไป
เช่น ก่อนหน้าเวลาฤกษ์แรกนา จะปลูกศาลเพียงตา สูงระดับสายตาคนขึ้น ณ ที่ใดที่หนึ่ง ที่กำหนดไว้เป็นที่แรกนา ตระเตรียมเครื่องสังเวยบูชา แม่โพสพให้ครบถ้วน พร้อมทั้งกล่าวคำขวัญเป็นถ้อยคำไพเราะ อ้อนวอน พระแม่โพสพให้คุ้มครองรักษาต้นข้าว ขอให้ปีนี้จงทำนาได้ผล ไม่ว่า จะเป็นนาหว่าน นาดำ เพราะแม่โพสพเป็นหญิงขวัญอ่อนง่าย จึงต้องทำพิธีเรียกขวัญเสมอ พระคาถา คาถาอาคมต่างๆ
ช่วงเวลา
เมื่อถึงเวลาเกี่ยวข้าวในนาเสร็จเรียบร้อยแล้วชาวนานำข้าวฟ่อนมากองเรียงกันเป็นวงกลม
ในลานนวดข้าวที่จัดเตรียมไว้ใช้โค กระบือย่ำฟ่อนข้าวเปลือกที่ติดรวงข้าวออกมาเป็น
เมล็ดข้าวเปลือก ก่อนจะขนข้าวเปลือกเข้ายุ้ง ชาวนาทุกครอบครัวจะทำพิธีเรียกขวัญแม่
โพสพเข้ายุ้งบางท้องถิ่นจะเรียกว่าทำพิธีสู่ขวัญข้าว พิธีที่ต้องใช้หมอสู่ขวัญมาทำพิธี
ความสำคัญ/กิจกรรม
โพสพ (โพสก) เทพธิดาประจำข้าว การเรียกขวัญแม่โพสพ เพื่อเป็นการแสดงความ
กตัญญูกตเวทีต่อสิ่งที่มีพระคุณต่อตนเอง โดยเฉพาะแม่โพสพ ซึ่งมีความสำคัญต่อการ
ดำรงชีวิตของมวลมนุษยชาติทั่วโลก พิธีนี้จะทำโดยทั่วไปทุกท้องถิ่นของจังหวัดที่มีการ
ทำนา
เมื่อถึงฤดูกาลทำนาปีจะเริ่มต้นประมาณเดือน (พฤษภาคม) ชาวนาจะนำโคกระบือ ออก
ไปไถนาประมาณตี 4 (ฝนเริ่มตกลงมาแล้ว) ชาวนาจะช่วยกันโดยนำกระบือของตนเองที่
มีอยู่มาช่วยกันไถนา เพื่อให้การไถนาเสร็จเร็วขึ้น เป็นสังคมแบบพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและ
กัน เมื่อต้นข้าวในนาปลูกดำหว่านข้าวเสร็จแล้ว ชาวนาก็จะดูแลรักษาวัชพืชและอื่น ๆ ให้
ข้าวอุดมสมบูรณ์ไม่มีการใส่ปุ๋ย เมื่อถึงเวลาเกี่ยวข้าวในนาเสร็จเรียบร้อยแล้วชาวนานำข้าว
ฟ่อนมากองเรียงกัน เป็นวงกลมในลานนวดข้าวที่จัดเตรียมไว้ใช้โค กระบือย่ำฟ่อนข้าว
เปลือกที่ติดรวงข้าวออกมาเป็นเมล็ดข้าวเปลือก ก่อนจะขนข้าวเปลือกเข้ายุ้ง ชาวนาทุก
ครอบครัวจะทำพิธีเรียกขวัญแม่โพสพเข้ายุ้งบางท้องถิ่นจะเรียกว่าทำ พิธีสู่ขวัญข้าว พิธีที่
ต้องใช้หมอสู่ขวัญมาทำพิธี
เครื่องเซ่น มีเหล้าหนึ่งขวด ไก่ต้นหนึ่งตัว ไข่ต้ม ยายศรี ขนมต้มแดง ต้มขาว ฯลฯ หรือ
ตามที่หาได้ใส่ในกระทงที่เย็บด้วยใบตองปักด้วยธงสีต่าง ๆ มีต้นข้าวมัดเป็นหุ่นแม่โพสพ
ใส่รวมในกระจาด ใช้ผ้าแดงผ้าขาวคลุมกระจาดคอนหรือหาบไปนา (ภาษาถิ่น) เมื่อถึงทุ่ง
นาจะกู่เรียกแม่โพสพให้มาเข้ายุ้งข้าวของตน
ต่อมาเกิดเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ ทำให้ปัจจุบันชาวนาไม่ต้องขนข้าวเข้ายุ้ง
เนื่องจากมีรถเกี่ยวข้าวพอเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มีพ่อค้ามารับซื้อข้าวเปลือก
ถึงที่ พิธีกรรมนี้จึงหมดไป