- น้ำมันปลาแซลมอลธรรมชาติแท้ อุดมไปด้วย Omega 3, 6 ช่วยบำรุงขนและผิวหนังโดยเฉพาะ
- แก้ปัญหาขนร่วง การผลัดขน ผิวแห้ง ตกสะเก็ด
- ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น eczema และ psorisis
- สูตรพิเศษมีส่วนผสมของ B-Carotene (เบต้าแคโรทีน) 10% (สูงสุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ) ช่วยให้เส้นขนเงางาม สีขนสวยเด่นชัดขึ้น และยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้สัตว์เลี้ยงอีกด้วย
- มี EPA และ DHA ช่วยเพิ่มขนาดของเซลล์ประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำ ช่วยใหเสัตว์เลี้ยงามารถเรียนรู้ได้ดี บำรุงสมองเสริมสร้างพัฒนาการ
-ช่วยต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ป้องกันเซลล์ต่างๆ ไม่ให้เสื่อมสภาพ ชะลอการเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ
- กลิ่นหอมน่าทานในแบบที่สุนัขและแมวชอบ ช่วยให้ทานง่าย
- ขวดออกแบบพิเศษ มีขนาดตวงในตัวให้แล้วค่ะ
- กระบวนการผลิตผ่านมาตราฐานยุโรป คงคุณค่าสารอาหารไว้ได้ครบถ้วน
สามารถทานต่อเนื่องได้ ไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสัตว์เลี้ยง
สินค้าใหม่ Exp: 09/2011
วีธีให้:
- ใช้สลิ้งป้อนโดนตรงหรือผสมในอาหารให้สัตว์เลี้ยงกินได้ทุกเวลา
ขนาดการใช้: (เห็นผลเร็วเมื่อทานอย่างต่อเนื่อง)
น้ำหนัก 1-10 กก. 5 ml /วัน
น้ำหนัก 11-20 กก. 10 ml /วัน
น้ำหนัก 21-50 กก. 15 ml /วัน
น้ำหนัก 51 กก.ขึ้นไป 20 ml /วัน
ส่วนประกอบ :
Natural Salmon oil 90%
B-Carotene (เบต้าแคโรทีน) 10% (สูงสุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ)
Oropharma Opti Coat is a 100 % natural dietary supplement based on essential fatty acids.
It limitsmoulting outside the season and prevents a dry and flaky skin.
The salmon oil in Opti Coat contains large amounts of omega-3 and omega-6
essential fatty acids for a healthy, glossy skin and coat.
Because Opti Coat contains the natural plant pigment,
β-carotene, your dog's coat will take on a beautiful,
healthy color. β-carotene also strengthens immunity and fertility.
Directions for use
Daily 1 dose (= 10 ml) of Opti Coat over 400 g of food.
// ทำไมต้องให้สุนัขและแมวกินน้ำมันปลา? //
เพราะน้ำมันปลาประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุนัขและแมว ซึ่งร่างกายของสัตว์เลี้ยงไม่สามารถผลิตได้เอง น้ำมันปลาช่วยเสริมสร้างสุขภาพทั้ง บำรุงสมองเนื่องจากเซลล์สมอง มีกรดไขมันชนิดนี้มาก จึงช่วยเสริมสร้างเซลล์สมองของสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังช่วยบำรุงขนและผิวหนังของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในลูกสุนัขและแมว จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองทำให้มีสุขภาพดีตั้ง แต่เริ่มแรก
ซึ่งในอาหารสัตว์ที่มีราคาแพงจะระบุว่า มีส่วนผสมของ โอเมก้า3 (Omega 3) ซึ่งก็ได้มาจากน้ำมันปลานั้นเอง แต่ในอาหารสัตว์มักจะผสมโอเมก้า3 ในปริมาณที่น้อยมาก ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของสัตว์เลี้ยง
// น้ำมันปลาจากทะเลดีกว่าน้ำมันจากปลาชนิดอื่นอย่างไร? //
น้ำมันปลาที่ขายในท้องตลาดมีอยู่มากมายหลายเกรด หลายราคา แต่สำหรับสุนัขและแมว ถ้าคุณภาพดีจะต้องสกัดมาจากปลาทะเล โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกโดยเฉพาะปลาแซลมอน เพราะมีปริมาณสารอาหารสูง แต่ไขมันต่ำ ทำให้สัตว์เลี้ยงไม่อ้วน และมีเบต้าแครอทีนที่ไม่มีในปลาชนิดอื่นๆ
ซึ่งทางร้านได้เลือกสรรเฉพาะสินค้าที่ที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมที่จะใช้กับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ดังนั้น ทางร้านจึงเลือกใช้ น้ำมันแซลมอนปลาเกรด Super Premium จากประเทศไอซ์แลนด์ เพราะเป็นน้ำมันปลาที่สกัดจากปลาแซลมอนแท้100%
น้ำมันปลานี้จะแทรกซึมอยู่มากในเนื้อปลา หนังปลา หัวปลา และหางของปลา ซึ่งมีปริมาณโอเมก้า3 สูง อีกทั้งยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยง ที่ช่วยบำรุงผิวหนังและขนให้เงางามอีกด้วย สารอาหารสำคัญนอกจาก โอเมก้า3 แล้วน้ำมันปลายังประกอบด้วยสารอาหารอื่นๆ ได้แก่
- ไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA)
- โดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA)
- กรดไขมันอิ่มตัว
- วิตามินอี
- วิตามินเอ
- วิตามินดี
ดังนั้นน้ำมันปลาทะเลจึงเหมาะที่จะใช้เสริมสร้างสุขภาพของสุนัขและแมวที่เรารัก ให้มีสุขภาพดี และมีชีวิตอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้น