ได้สั่งสินค้าในเว็บนี้ไปเมื่อประมาณวันที่ 2 เดือนสิงหาคม ได้ของวันที่ 4 ว่าจะมารีวิวให้เลย แต่ก็คิดว่ารอใช้ให้เห็นผลก่อน วันนี้ก็ตามสัญญากับแม่ค้ามิ้มที่น่ารักจ้า มารีวิวให้ละน๊าา รวมเวลาที่ใช้ผลิตภัณฑ์ก็เกือบ 20 วันค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอชมว่าคุณมิ้มแพ็คของเรียบร้อยมาก ขนาดของพวกครีมที่ซีลพลาสติกมาแล้ว แถมเป็นขวดพลาสติค แม่ค้ายังจะห่อเม็ดแป๊ะ(พลาสติกกันกระแทกนั่นแหล่ะจ้า)มาเลย แล้วไม่ได้มัดรวมห่อนะคะ มาแบบแยกชิ้น แล้วครีมกะปุกนึง500-600 ml. ราคาหน่อยเดียว ไหนจะค่าส่งนู่นนี่ ยังต้องมาเสียค่าเม็ดแป๊ะอีก เราเลยอารมณ์ดี 2 ต่อ ทาครีมไปบี้เม็ดแป๊ะไป 555+

แล้วที่ประทับใจอีกอย่างก็คือด้วยความที่เห็นในหน้าเว็บบอกว่าต้องรอรอบ เพื่อสั่งของ แต่นี่เราได้ของเลยวันรุ่งขึ้นก็เลยถามคุณมิ้มว่าทำไม คุณมิ้มก็บอกว่า เพราะว่าถ้าเป็นของบางอย่างจะมีในสต๊อก เราก็แบบ โอยย ตายแน่ชั้น ได้ของเก่าชัวร์เรยย ก็ลุ้นๆๆ จนคุณไปรษณีย์มา ก็ถ่ายรูปๆ แล้วก็รีบแกะเชคของเลย ปรากฎว่า... ของทุกชิ้นใหม่มากๆค่ะ :D ดูวันที่ผลิตแล้วพึ่งจะเดือนหรือ2เดือนเอง ความคิดแง่ลบเลยหมดไป ต้องขอโทษตรงนี้ด้วยนะคะ เพราะว่าเคยสั่งของทางเนตเยอะแล้วก็หลายเว็บมาก ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น เมกา ถ้าได้ของสต๊อกเมื่อไหร่ส่วนใหญ่จะผลิตมานานแล้ว ได้มาเจอเว็บนี้ก็เบาใจค่ะ ราคาใช่ คุณภาพโอเค แหมฝอยมาเยอะ เริ่มเลยเนาะ

ตัวแรกนะคะ ก็ Mistine มิสทีน Bio Lotion Double AHA 10/10 จ้าา

ตัว นี้เห็นเป็น AHA เลยคิดไว้ก่อนว่า มันต้องทำผิวชั้นแห้งเป็นขุยๆแน่เล๊ยยย แต่ปรากฎว่าไม่ใช่เลยจ้า ตัวนี้ทาไปแล้วซึมเข้าผิวค่อนข้างเร็ว แต่จะช้ากว่าตัวอื่นอยู่นิดเดียวเท่านั้น แถมไม่ทำให้ผิวแห้งเลยแม่แต่น้อย แต่ช่วยให้ชุ่มชื่นรึเปล่าไม่แน่ใจค่ะ เพราะเราใช้คู่กับครีมมิสทีนตัวอื่น กลัวไม่พอ 555+ ความขาวคอนเฟิร์มค่ะ ขาวจิงแน่นอน แต่ต้องใช้เวลานิดนึง ของเราใช้ไป 1 สัปดาห์ก็เริ่มจากเพื่อนกับแฟนทัก ก่อนว่าไปทำไรมาดูขาวผ่องขึ้น เราก็แอบปลื้ม ตอนอาบน้ำเรยเชคดู เออ ขาวขึ้นจิงด้วยเห้ย แต่อาทิตย์แรกจะเน้นไปทางผิวจะดูผ่องๆ สีผิวสม่ำเสมอดูสุขภาพดีก่อนนะคะ พอใช้มาจนถึงประมาณวันที่ 19 ก็ชัดเรย ไปกินข้าวต้มร้านประจำ พี่ที่ร้านก็ทักค่ะ ว่าขาวขึ้นจิง อร๊ายยปลื้ม ตัวนี้ให้เต็ม10เรยคร๊าา


ตัวต่อมานะคะ Mistine Q10 Plus Cherry Extract Body Lotion 9/10 จ้า

เรา ก็ใช้คู่กันกับตัวแรก แต่เราจะใช้ทาช่วงกลางคืนค่ะ เหตุผลคือ 1. กลิ่นหอมมากก นอนไปดมไป หลับสบายค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบทาครีมหอมๆก่อนนอน เมื่อก่อนก็จะใช้ของวิคทอเรียซีเคร็ท กลิ่น มิดไน้ท์มิโมซ่า ชอบมากค่ะ แต่แฟนบ่นว่าฉุนไป เพราะครีมตัวนี้อ่ะ เนื้อค่อนข้างข้นแล้วเกลี่ยยาก พอเกลี่ยไม่ไปก็ขี้เกียด โปะเพิ่มเรย 555+ ออกแนวมักง่ายเนอะ แล้วทีนี้กลิ่นมันเลยตลบอบอวลมากค่ะ ยิ่งห้องแอร์นี่แทบไม่ต้องฉีดสเปรย์เลย แต่แฟนไม่ชอบน่ะสิ เจอของมิสทีนตัวนี้เข้าไป มันใช่ค่ะ 555+ แต่เหตุผลข้อ2ที่ต้องทาก่อนนอนคือ เราทาแล้วรู้สึกเหมือนผิวหมองๆนิดนึงแฮะ อาจจะเป็นเพราะเราทาทับครีมมิสทีนAHAก็เป็นได้นะคะ แต่อภัยค่ะ เพราะว่าทาปุ๊ป เปิดแอร์นอนปั๊ป ปกติตื่นมาถ้าไม่ทาครีมเหนียวๆข้นๆแบบเจอร์เก้นหรือวิคทอเรียผิวจะแห้งแกรก กรากแล้วคันมาก เจอตัวนี้ไป เห้ย มันเด้งอ่ะ ใช้ไปตัวนี้เห็นผลเร็วค่ะ ทั้งทันทีที่ใช้แล้วก็หลังจากตื่น แต่จะให้เห็นผลจิงๆนี่เราจำไม่ได้ว่า 3 วันหรือ 5 วันนะคะ แต่จำได้แน่ว่าไม่เกินอาทิตย์นึงอ่ะ ตัวนี้เราปลื้มมากๆ เพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบที่จะมานั่งคอยอยู่บนเตียงให้ครีมซึม แบบจับนู่นจับนี่ไม่ได้เลยนะ เพราะมันจะเป็นคราบมันๆหมดเลย ใครใช้ครีมพวกนี้จะรู้ดี 555+ แต่มาเจอตัวเนี้ย ซึมเร็วแถมให้ความชุ่มชื่นเท่ากับตัวแพงๆ+เหนียวๆอีก ชอบค่ะ รักเลย~

ต่อกับตัวนี้น๊าา Mistine White Spa Gold Caviar Body Lotion 10/10 จ้าา

ตัว นี้เราเอาไว้ทาตอนกลางวันคู่กับตัวAHAค่ะ เหตุผลเพราะ 1. มันจะซึมเร็ว แล้วเวลาเหงื่อออกหรือโดนน้ำเวลารดน้ำต้นไม้แล้วไม่เป็นขุยคราบ(ตัวบนก็ไม่ เป็นนะคะ ที่ใช้กลางคืนเพราะรู้สึกจะชุ่มชื้นกว่าแล้วเหมือนหมองนิดนึง นิ๊ดดเดียวจิงๆ เอ๊ะ หรือเรานอยด์ไปเอง55+) 2. ซึมเร็วม๊ากกกก ไม่ใช่ระเหยไปกับแอลกอฮอเหมือนบางยี่ห้อนะคะ คือระหว่างระเหยกับซึมต้องทาเองง่ะ แล้วจะรู้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ปกติตอนกลางวันเราใช้ครีมของวาสลีนค่ะ เหนสาวๆห้องแป้งแนะนำกัน แต่อันนั้นต้องรอให้ครีมซึมซักพักถึงจะทาครีมกันแดดตามได้ แต่มิสทีนตัวนี้ไม่ต้องค่ะ 555+ รัชอาวมาก คือทาแขนทาขาครบแล้ว สามารถเอาครีมกันแดดมาทาส่วนที่เราลงครีมครั้งแรกต่อได้เลย ช๊อบชอบ

เรา ก็รีวิวมาได้ 3 ตัวแล้ว ช่วยเรื่องขาวทั้งหมดเพราะว่าไปเดินจตุจักรมาค่ะ คงรู้สภาพอากาศกันดีเนาะ เลยต้องโบ๊ะครีมหน่อย ในความรู้สึกของเรานะคะ ตัวที่ช่วยให้ขาวขึ้นเนี่ย เราฟันธงเลยว่า AHA แน่นอน ส่วนที่ทำให้ผิวเรียบเนียนดูสุขภาพดีก็ต้อง Q10เชอรี่ แล้วตัวที่ทำให้ผ่องเด้งก็น่าจะเป็นตัวโกลด์คาเวียร์นะ เราจะไม่บอกว่าครีมมิสทีนเนี่ยมันมีสรรพคุณดีเลิศ เพราะจากราคาแล้ว (พูดแบบไม่เกรงใจแม่ค้าเลย)มันให้ทั้งหมดในขวดเดียวไม่ได้หรอกค่ะ แต่เราก็สามารถมิกซ์แอนด์แมชต์ได้นี่นา แถมราคาถูกม๊ากกกก ถูกกว่าครีมที่รวมทุกอย่างไว้ในขวดเดียวเยอะ(เราเคยใช้ตั้ง3เดือนไม่มีไร เปลี่ยนแปลงเรย เหนียวก็เหนียว ฮืออ เสียดายตัง T^T) แล้วที่สำคัญตัวครีมไม่หนักเลยค่ะ สามารถทาทับกันได้เลย ที่ออกมาพูดตรงนี้เพราะกลัวเดี๋ยวคนจะหาว่าเป็นคนของมิสทีนมาอวยกันรึเปล่า ขอบอกว่าไม่ใช่แน่นอนค่ะ เพราะเราก็พึ่งใช้มิสทีนครั้งแรกเหมือนกัน บอกตรงๆจากราคาแล้วตอนแรกไม่กล้าใช้เลย แต่พอดีได้ไปห้องเพื่อนไปเห็นครีมมิสทีนตัวไว้ท์สปามาเลยลองจกๆดูแล้วชอบ กลิ่นค่ะ แต่ตอนสั่งกลับไม่สั่งอันนั้นนะ 555+ ดันสั่งอย่างอื่นแทน ^-^" แล้วก็ครีมกำจัดขนค่ะ เหนเพื่อนมันทำแล้วอเมซิ่งมาก เลยลองมาซื้อดู อ่ะรีวิวเลยดีกว่า
Mistine ครีมกำจัดขน Easy Out 8/10

ตัวนี้ลอง แล้วค่ะ ไม่เหม็นไม่แสบ แล้วก็ไม่ทำให้ผิวลอกเป็นขุยๆ แต่อาจจะเป็นที่คนนะคะ เพราะเพื่อนเราคนที่ลองให้ดูก็เป็นขุยนิดหน่อย แต่ทาครีมก็หายค่ะ ตัวนี้ใช้ง่าย ขนหลุดดี ขนที่ขึ้นมาใหม่ก็ไม่แข็งเพิ่มแถมปกติเวลาโกนเนี่ย วันเดียวขนจะเริ่มขึ้นเป็นตอแล้ว(อันนี้ความเห็นส่วนตัวมากๆนะคะ เพราะเรื่องแบบนี้มันแล้วแต่คนเนาะ) แต่มาใช้ตัวเนี้ย พึ่งเริ่มมีแพลมๆออกมาในวันที่3แหล่ะ คะแนนเราหัก2แต้มเพราะ 1. อยากให้ช่วยเรื่องขนที่ขึ้นใหม่ให้อ่อนนุ่มด้วยง่าา แต่ราคาเท่านี้แล้วไม่ทำให้ขนแข็งมากขึ้นก็พอใจแล้วล่ะจ้าา และ 2. ต้องทาครีมหนานิดนึงนะ ไม่ใช่ทาบางๆแบบเนยปลายมีดขนมปังทั้งแถว ฮาา ก็ตอนแรกเราไม่รู้ง่ะ ก็ทาไปนิดเดียว ด้วยความงก และเสียวกับอาการแพ้ เพราะผิวแพ้ง่ายนิดนึงค่ะ ผลที่ออกมาเลยเหมือนขนร่วงเป็นหย่อมๆ 555+ คราวนี้เลยจัดการโบกนิดนึง ออกมาเป็นที่พอใจค่ะ เอ๊ะ..อย่างนี้นี่ความสามารถน้อยเองแล้วโทษผลิตภัณฑ์ป่ะเนี่ย แม่ค้าอย่าว่าเค้าน๊าา :p

ต่อมา ครีมลอกหน้า มิสทีนสูตรผสมไข่ขาว 6/10

ตัว นี้บอกตามตรงเลยว่าไม่ชอบกลิ่นค่ะ แอลกอฮอรึ่มเลย แถมพอกแล้วหน้าแห้งอีก แต่ แต่ แต่.. มันดีจิงๆเรยจ๊อชชช พวกสิวเสี้ยนแล้วก็สิ่งสกปรกอ่ะ หลุดออกมาให้เห็นเรยจ๊าา แต่ดึงยากนิดนึงนะ แอบเจ็บ 555+ ต่อมาเลยรู้เคล็ดลับว่า ถ้าเป็นคนที่หน้าแห้งมากๆเนี่ย ก็ทาออยล์ที่หน้านิดนึงนะคะ แบบ ครึ่ง-หนึ่งหยด ลูบให้ทั่วใบหน้าส่วนที่จะพอกค่ะ อาการหน้าแห้งกับเจ็บก็จะลดลงไป แต่เราทาทีไรมันชอบไถลไปตามคิ้วตามไรผมทุกที เจ๊บเจ็บ แถมเป็นคนมีหนวดอีก -*- แต่เรื่องผลลัพต้องยอมรับค่ะ ว่าช่วยให้หน้าเนียน+ขจัดสิ่งอุดตันดีพอควร แต่ก็อย่างที่บอกค่ะว่าไม่ชอบกลิ่นเรยอ้ะ แต่ก็นะ ราคามันเท่าเนี้ย คุณสมบัติก็ดีสมคำร่ำลือตามโฆษณาเลยค่ะ แต่น่าจะลดกลิ่นนะไม่งั้นให้9เรย ตัดคะแนนแค่เรื่องกลิ่นกับผิวแห้งค่ะ แต่ลอกหน้าเสร็จล้างหน้าทาครีมก็หายค่ะ
Mistine อาหารผม BE Instyle 8/10

ตัว นี้กลิ่นหอมทีเดียวค่ะ ครั้งแรกแว่บแรกที่ได้กลิ่นจะเหมือนโคโลนจ์ผู้ชายนิดนึง แต่พอจางแล้วจะหอมๆค่ะ เรื่องบำรุงผมยังเห็นไม่ชัดนักแต่เรื่องให้ความเงางามนี่ชัดเป๊ะค่ะ ฮ่าาๆ คือส่วนตัวเราเนี่ยเป็นคนผมบางผมน้อย ก็ต้องพึ่งแชมพูหมอ แต่ก็นะ แชมพูหมอไร้ซึ่งกลิ่นรัญจวนเรยอ้ะ แง มีแต่กลิ่นสมุนไพร แต่ก็ดีที่ช่วยให้ผมดกดำขึ้นมาหน่อย ^^" แต่ข้อเสียคือผมมันไม่เงาไม่เรียบเหมือนแชมพูตามท้องตลาดง่า เคยใช้แชมพูพวก Tsubaki Shiseido หรือลอรีอัล หรือจะล็อคซิแทน ทุกตัวเราแพ้หมด ใช้แล้วผมร่วง หมอบอกว่าหนังศีรษะเรามัน ยิ่งใช้พวกนี้มันยิ่งมันแล้วสิ่งสกปรกมันจะจับง่าย ทำให้ผมให้งอกยาก แล้วผมเก่าร่วงง่าย แต่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ใช้แชมพูพวกนั้นผมนุ่มและดีมาก ใช้แชมพูหมอผมฟูเชียว แต่ดกขึ้นนะ 555+ ใจจิงจะสั่งเอสเซ้นบำรุงผมของอิทูดี้มาใช้ เหนเค้าลือกันนักหนาว่าหอมมาก แต่สั่งไปทีไรหมดทุกที สงสัยจะฮิตจัด ไปดูที่สาขาใกล้บ้านบอกของหมด เชอะงอล เลยมาสั่งมิสทีนตัวนี้แทน ราคาต่างกันหลายเท่าอยู่ คุณภาพไม่รู้ต่างกันรึเปล่า แต่พอใจค่ะ เพราะหลังฉีดแล้วหวีเนี่ย หวีลื่นดี ผมจากด้านๆจะเงาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่ไม่ทำให้มันนะ เรายังงงเลยว่าเห้ย ปกติที่ทำให้เงาเนี่ยมันจะมันกันทั้งนั้นนะ จากที่เคยใช้มา มาเจอตัวนี้ก็ชอบเลยค่ะ แต่หักคะแนนนิดนึงตรงที่กลิ่นติดไม่ทนอ้ะ วันเดียวกลิ่นก็หายแล้ว แต่เราก็ต้องสระผมทุกวันเลยไม่ไมด์อะไรมาก คำโฆษณาโปรยหัวเรื่องช่วยปกป้องผมจากความร้อนอันนี้ไม่ทราบค่ะ เพราะหมอห้ามยุ่งกะไดรและที่หนีบผมม้วนผมทุกชนิด 555+ แต่เราอาศัยสระผมเสร็จฉีดตัวนี้หวีๆเป่าพัดลมเกือบแห้งเราก็เอากิ๊ปม้วนๆ หนีบไว้ แล้วเป่าต่อ พอแห้งก็อยู่ทรงใช้ได้เลยค่ะ ตัวนี้ให้ 8 คะแนนเพราะไม่ทำให้ผมมัน แต่ให้ผมเงาดี แล้วก็หอมๆ จัดทรงง่ายขึ้น แอบหักตรงกลิ่นไม่ทนค่ะ :D
Mistine Hyalura Hand Cream 10/10

ตัว นี้กรี๊ดมาก เพราะว่าทาแล้วให้ความชุ่มชื่นตั้งแต่ครั้งแรกจริงๆค่ะ แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนของล็อคซิแทน อันนั้นมือนุ่มจิงแต่ก็เหนียวจิงอีกเช่นกัน ฮ่าา แต่ต้องยอมรับเรื่องความหอมให้ล็อคซิแทนเค้าเนอะ แต่ตัวนี้ก็หอมนะ กลิ่นจะออกคล้ายๆครีมของ Bath&Body Work กลิ่น japanese cherry blossom แต่จะแรงและฉุนกว่าในแว่บแรกที่ทา แต่ก็ไม่ถึงกับเหม็นนะ จากนั้นก็จะค่อยๆจางลงค่ะ ที่สำคัญที่ให้เต็ม10 เนี่ยคือ 1. ชุ่มชื่นมากค่ะ นุ่มมาก สมัยมัธยมเราเล่นบาสอ่ะ ก็คงพอนึกสภาพออกว่ามือนี่ด้านเชียวแต่ก็รักษามาเรื่อยนะ แต่ส่วนใหญ่จะติดขี้เกียจ มันมีเหตุผลค่ะ เด่วจะบอกในข้อต่อไป ตัวนี้ความชุ่มชื้นดี ไม่เหนียวมากแต่แรกทาจะเหนอะนิดหน่อย ซักพักก็หายค่ะ 2. ข้อนี้เอาชนะ ใจคนใช้มือถือจอสัมผัสได้ชัวร์คร๊าา เพราะส่วนใหญ่ครีมบำรุงมือเนี่ย จะเน้นเป็นเชียร์บัตเตอร์ซะมาก (ไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไมคนรีวิวรู้เยอะ เคยขายเครื่องสำอางนำเข้าอยู่ที่เซนทรัลแจ้งฯจ้าา) พอจิ้มๆจอแล้วมันทิ้งคราบอ้ะ เซงเลย แต่มิสทีนตัวเนี้ยมันเหมือนซึมอ่ะ ทาปุ๊ปทิ้งไว้ซักแป๊บเดียวพอรู้สึกหายเหนอะๆมาจับจอ ไม่มันเลยค่า ไม่ทิ้งรอยนิ้วเหมือนยี่ห้ออื่น ทำให้ขยันทาได้บ่อยค่ะ เพราะที่ขี้เกียจทาคือขี้เกียจเช็ดหน้าจออ้ะ 555+ 3. หลังล้างมือมือไม่แห้งอ่ะ แถมชุ่มชื่นขึ้นด้วย คงเป็นเพราะมันมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนอ่ะค่ะที่ช่วยอุ้มน้ำ ตอนล้างมือก็ยอมรับนะว่าครีมมันก็ไหลไปตามน้ำบ้าง แต่มันทิ้งความชุ่มชื้นเอาไว้ ไม่เหมือนบางตัวที่ทาเหมือนเคลือบไว้เฉยๆ พอไปล้างมือก็เลยเหมือนล้างครีมทิ้งไป ตัวนี้มันยังทิ้งความชุ่มชื่นให้เราอ่ะ แล้วแถมพอกลับมาทาใหม่หลังจากล้างมือไปแล้วมันยิ่งชุ่มชื่นอ่ะ โอ๊ยมันใช่ ตัวนี้กลายเป็นไอเทมติดกระเป๋าไปแล้วจ้าา ขนาดก็ไม่ใหญ่มาก พกพาสะดวกจ้ะ นี่คิดว่าคราวหน้าจะสั่งซักหลายๆหลอดเอามาทาเท้าดู เพราะบ้านพื้นกระเบื้องกับไม้ขัดเงา ทาเท้าแล้วเห็นเป็นรอยทุกที เลยทำให้ขี้เกียจถูเลยขี้เกียจทาไปเรย 555+
Mistine Volume Shock Mascara NA/10 (9/10)

ตัว นี้ไม่กล้าให้คะแนนจ้า เพราะว่าแค่ลองปัดทีเดียวเองเลยไม่อยากให้คะแนนเพราะไม่อยากลำเอียง ส่วนตัวเป็นคนหนังตาเยอะ ทำให้เวลาจะเลือกมาสคาร่าเนี่ยเลือกแล้วเลือกอีก เอาที่ไม่แพนด้าชัวร์ แล้วชอบแบบเรียงเส้นเป็นธรรมชาติ แต่มิสทีนตัวนี้จะช่วยให้ขนตาดูหนา และเหมือนใส่ขนตาปลอมเราเลยไม่ชอบ แต่ก็เคยแอบจกตัวมิสทีนบิ๊กอายโปรลองอะไรสักอย่างของเพื่อนมาใช้ตอนที่มาจอ ลิก้าหมดก็โอเคเลย ตินิดเดียวตรงที่มันไม่สามารถดัดขนตาหลังจากปัดมาสคาร่าได้ เพราะมันจะทำให้ไอ่ที่ทาไปมันเป็นขุยๆ แต่ก็ไม่แพนด้าเลยแถมไม่หลุดร่วงเป็นเส้นเล็กๆระหว่างวันด้วย แต่เราเป็นคนขนตาไม่งอนน่ะ เลยต้องดัดทั้งก่อนและหลังทา ก็เลยจะสั่งตัวบิ๊กอายเนี่ย มาทาหลังจากปัดมาจอแล้วจะได้ไม่เปลืองมาจอมาก 555+ แอบงก แต่ดันจำผิด ไปเปิดดูในเว็บจีบันเห็นเค้าฮิตๆตัววอลลุ่มช๊อคเรยสั่งมั่ง สรุปมามันดูสวยเวอร์เกิน คือมันให้ขนตาแบบหนา งอน ยาวเป็นแพสุดๆ แต่เราไม่ต้องการขนาดนั้นเรยยกให้เพื่อนไป มันก็ชอบมาก ปัดไปเที่ยวกลางคืนนี่เด้งเชียว เราถามมันว่าเต็ม10ให้เท่าไหร่มันบอกให้ 9 เพราะดิ้นๆไปขนตาแอบดรอปความงอนลงเล็กน้อย แต่ดีที่ดำมาก งอนมาก ยาวมาก และล้างง่ายมาก มันว่ามางี้อ่ะค่ะ 555+

ต่อไปตัวสุดท้าย คุณแม่ค้ามิ้มใจดีแถมมาให้ Mistine Total Care Skin Repair Lotion

ตัว นี้ต้องบอกขอโทษคุณมิ้มก่อนจ้า เพราะว่าเรายังไม่ได้ใช้เลย มัวแต่อเมซิ่งกับโลชั่น3ตัวที่สั่งไป 555+ ไว้คราวหน้าถ้าสั่งของอีกจะมารีวิวให้นะค๊าา


เอา ล่ะ ก็จบการรีวิวเพียงเท่านี้ล่ะค่ะ ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดนี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวที่ใช้จริงและเห็นผลจริงจึง มารีวิวให้ฟัง(อ่าน)กันจ้า ผิดพลาดประการใดหรือใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพบ้างก็ขออภัยไว้ ณ ตรงนี้นะคะ เพราะรีวิวตามอารมณ์ล้วนๆเลยค่ะ 555+ XD