ฮับ บะตุซเซาดาอ์ เป็นชื่อสมุนไพรชนิดหนึ่ง ชาวอียิปต์เรียกว่า"ฮับบะตุลบ้าร่อกะฮ์" หรือ อัลกัมมูนอัลอัสวัด (ยี่หร่าดำ) ชาวยะมันเรียกว่า "เกาฮเฏาะฮ" ชาวอิหร่าน เรียกว่า "ชุวัยนิช" และในเมืองไทยเป็นที่รู้จักกันดีเรียกว่า "เทียนดำ" ลักษณะของมันนั้น เมล็ดสีดำคล้ายกับงา รสชาติร้อนและขมเล็กน้อย
เมล็ดฮับบะตุซเซาดาอฺ (Nigella Sativa) ที่รู้จักกันในแถบตะวันออกกลางว่า ฮับบะตุลบารอกะฮฺ มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลายๆ ชนิด เป็นที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายในตะวันออกกลาง เอเชียและอาฟริกาเมื่อพันปีก่อนจนกระทั่งปัจจุบันนี้ได้แพร่หลายไปถึงยุโรปและอเมริกาอีกด้วย
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับฮับบะตุสเซาดาอ์
1. ดร. อะฮ์หมัด อัลกอฎีเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ชาวอิยปต์ ปัจจุบันอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐฟอริด้า กล่าวว่า "ท่านนำเอาฮับบะตุซเซาดาอ์กับน้ำผึ้งมาบำบัดรักษาโรคเอดส์อย่างได้ผล"
- ดร. อิบรอฮีม อับดุลฟัตตาฮ์ กล่าวว่า "ถ้าท่านต้องการรักษาสุขภาพของท่านให้แข็งแรงอยู่เสมอนั้นต้องรับประทานวันละ 2 ครั้งเช้าและเย็นโดยการนำเอาฮับบะตุซเซาดาอ์บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 3 กลีบ, น้ำอุ่น 1/2 แก้วโดยนำส่วนผสมทั้งหมดบดรวมกันแล้วรับประทานท่านจะมีสุขภาพแข็งแรงด้วยการช่วยเหลือจาก
อัลลอฮ์"
การแพทย์สมัยก่อนนั้นนำฮับบะตุซเซาดาอ์มาเป็นส่วนประกอบในการบำบัดโรคทุกชนิดโดยอาศัยหะดีษ ซึ่งรายงานจากอบีหุร็อยเราะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุว่า แท้จริงท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า "จำเป็นสำหรับท่านทั้งหลายคือฮับบะตุซเซาดาอ์ เพราะแท้จริงมันเป็นยาบำบัดทุกโรค เว้น แต่ความตาย"บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ และมุสลิม
คุณค่าที่ได้รับจากฮับบะตุซเซาดาอ์
ฮับ บะตุซเซาดาอ์นั้นถูกผสมประสานในการรักษาโรคเป็นอย่างดีและโรคจะทุเลาอย่างน่าแปลกใจ ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์และมีแร่ธาตุที่ร่างกายของมนุษย์ต้องการ เช่น ฟอสเฟต, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน และมีสารเบต้าแคโรทีนทำปฏิกิริยาต่อต้านมะเร็ง
ในวงการแพทย์มุสลิมพบว่า ฮับบะตุซเซาดาอ์นั้นเป็นยาที่มีประโยชน์มากมาย
ฮับบะตุสเซาดาอ์ บำบัดรักษาโรคต่างๆ ดังนี้
1. โรคโรมาติซัม (ปวดตามข้อ)
2. โรคเบาหวาน
3. โรคผมร่วง
4. โรคปวดศีรษะ
5. อาการนอนไม่หลับ
6. โรคกลาก
7. บาดแผลและขี้เรื้อน
8. โรคของสตรี และการคลอดบุตร
9. ปวดฟันและต่อมทอมซิลอักเสบ
10. สิว
11. โรคผิวหนัง
12. หูดและไฝ
13. ทำให้ใบหน้าเต่งตึง และสวยงามขึ้น
14. ความดันโลหิตสูง
15. โรคไขมันในเลือด (โคเลสเตอรอล)
16. โรคไตอักเสบ (ไตเสื่อม)
17. สลายเม็ดนิ่ว
18. ต่อมลูกหมากโต
19. ตับอักเสบ ไวรัสบี
20. โรคท้องมาร
21. นิ่วในถุงน้ำดี
22. โรคม้าม
23. ปวดศีรษะและระบบหมุนเวียนของเลือด
24. โรคลำไส้ ปวดท้องจุกเสียด
25. โรคเกี่ยวกับตา
26. โรคอามีบา
27. เป็นหมัน
28. โรคมะเร็ง
29. โรคหอบหืด
30. เสื่อมสมรรถทางทางเพศ
31. ทำให้สติปัญญาดีและความจำดีขึ้น
32. โรคเหน็บชา
ขนาดรับประทาน : รับประทานก่อน/หลังอาหาร เช้า-เย็น ครั้งละ 2-3 แคปซูล