ร้านพระเครื่องอุ๋ยบางแค
เจ้าของร้าน Login ที่นี่
หน้าร้าน
รายการสินค้า
ติดต่อร้านค้า ส่งข้อความหลังไมค์ วิธีการสั่งซื้อสินค้า วิธีการชำระเงิน เว็บบอร์ด
สมาชิกร้านค้า
หมวดสินค้า
สถิติร้านค้า
เปิดร้าน04/06/2009
อัพเดท06/04/2017
เป็นสมาชิกเมื่อ 03/06/2009
สถิติเข้าชม643300
บริการของร้านค้า
ตรวจสอบสถานะไปรษณีย์
จดหมายข่าว
ใส่ email ของท่านเพื่อรับข่าวสารร้านค้านี้

subscribe unsubscribe




ข้อมูลร้านค้า
   
ที่อยู่  ร้านพระเครื่องอุ๋ยบางแค(สาขาซีคอนบางแค) ห้างซีคอนบางแค ชั้น2 ติดประตูลานจอดรถ ด้านริมซ้ายสุด ของห้าง ใก้ลๆห้องน้ำ ก่อนมาโทรหานะครับ (ออกไปซื้อพระบ้านลูกค้าบ่อยมากครับ) 10160
โทร.  085-045-6265
Mail  auybk@hotmail.com
Search      Go

Home / All Product List / พระสุพรรณ (ยอดโถ) หรือ พระผงสุพรรณ เนื้อชินตะกั่ว

พระสุพรรณ (ยอดโถ) หรือ พระผงสุพรรณ เนื้อชินตะกั่ว

รูปภาพประกอบทั้งหมด 2 รูป

พระสุพรรณ (ยอดโถ) หรือ พระผงสุพรรณ เนื้อชินตะกั่ว

ลงประกาศเมื่อวันที่  :  11/03/2016
แก้ไขล่าสุด  :  11/03/2016
ราคา  โทรถาม

พระสุพรรณ (ยอดโถ) หรือ พระผงสุพรรณ เนื้อชินตะกั่ว พระร่วมกรุกับ พระผงสุพรรณ บรรจุอยู่ในผอบที่วางอยู่ส่วนยอดขององค์พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี นอกนั้นยังพบพระอื่นเช่น พระสุพรรณศอก หรือพระกำแพงศอก เนื้อชิน พระมเหศวร พระกำแพงพัน....
เมื่อก่อนตอน พระผงสุพรรณ ยังพอหาได้ในราคาหลักแสน พระสุพรรณยอดโถ ก็ยังพอหาได้ในราคาหลักหมื่น แต่ไม่ค่อยมีคนสนใจ พอมาถึงวันนี้ที่ พระผงสุพรรณ ทุกพิมพ์ ราคาไปอยู่ หลักล้าน คนจึงหันกลับมามอง พระสุพรรณยอดโถ แต่ก็ยากแล้ว เพราะของดีมีน้อย และราคาก็วิ่งไปถึง หลักล้าน แล้วเหมือนกันสําหรับองค์สวยๆ
จากสำเนาจารึกลานทองที่ค้นพบกล่าวถึงการสร้าง พระผงสุพรรณไว้ ความว่า “ศุภมัสดุ 1265 สิทธิการิยะ แสดงบอกไว้ให้รู้ว่า ฤาษีทั้งสี่ตนพระฤาษี พิมพิลาไลย์เป็นประธาน เราจะทำด้วยฤทธิ์ทำด้วยเครื่องประดิษฐ์ มีสุวรรณเป็นต้น คือ บรมกษัตริย์พระยาศรีธรรมโศกราช เป็นผู้มีศรัทธา พระฤาษีทั้งสี่ตนจึงพร้อมกันนำเอา แต่ว่านทั้งหลาย พระฤาษีจึงอัญเชิญเทวดามาช่วยกันทำพิธีเป็นพระพิมพ์ไว้สถานหนึ่งแดง สถานหนึ่งดำ ให้เอาว่านทำเป็นผงก้อน พิมพ์ด้วยลายมือของมหาเถระปิยะทัสสะสี ศรีสารีบุตร คือ เป็นใหญ่เป็นประธานในที่นั้น ได้เอาแร่ต่าง ๆ มีอานุภาพต่างกัน เสกด้วยมนต์คาถาครบ ๓ เดือน แล้วท่านให้เอาไปประดิษฐ์ไว้ในสถูปแห่งหนึ่งที่เมืองพันทูม
ถ้าผู้ใดพบเห็นให้รับเอาไปไว้สักการบูชาเป็นของวิเศษ แม้จะมีอันตรายประการใดก็ดี ให้อาราธนาผูกไว้ที่คอ อาจคุ้มครองภยันตรายได้ทั้งปวง เอาพระสงสรงน้ำมันหอม แล้วนั่งบริกรรม พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ๑๐๘ จบ พาหุง ๑๓ จบ ใส่ชันสัมฤทธิ์ นั่งสันนิษฐานเอาความปรารถนาเถิดให้ทาทั้งหน้าและผม คอหน้าอก ถ้าจะใช้ทางเมตตา ให้มีสง่า เจรจาให้คนทั้งหลายเชื่อฟังยำเกรง ให้เอาพระไว้ในน้ำมันหอม เสกด้วยคาถานวหรคุณ ๑๓ จบ พาหุง ๑๓ จบ พระพุทธคุณ ๑๓ จบ ให้เอาดอกไม้ธูปเทียนทำพิธีในวันเสาร์ น้ำมันหอมเก็บไว้ใช้ได้เสมอทาริมฝีปาก หน้าผาก และผม ถ้าผู้ใดพบพระตามที่กล่าวมานี้ พระว่านก็ดี พระเกสรก็ดี ทำด้วยแร่สังฆวานรก็ดี อย่างประมาทเลย อานุภาพพระทั้ง ๓ อย่างนี้ดุจกำแพงแก้วกันอันตรายทั้งปวงแล้วให้ว่า คาถาทแยงแก้วกันอันตราย ทั้งปวง แล้วให้ว่า คาถาทแยงสันตาจนจบพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณจนจบพาหุงไปจนจบแล้วให้ว่า ดังนี้อีก กะเตสิกเกกะระณังมหาไชยังมังคะ สังนะมะพะทะ แล้วให้ว่า กิริมิติ กุรุมุธุ เกเรเมเถ กะระมะทะประสิทธิแล”
พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี นับเป็นพระเครื่องเลื่องชื่อ ถูกบรรจุอยู่ในชุด “เบญจภาคี” ซึ่งมีทั้งเนื้อดินและเนื้อชินเงิน ที่เรียกว่า “พระผงสุพรรณยอดโถ”
แต่สาเหตุที่เรียกว่า “ผงสุพรรณ” ก็เนื่องจากการค้นพบจารึกลานทองกล่าวถึงการสร้างจากผงว่านเกสรดอก
ไม้อันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้รับการเรียกขานกันว่า “ผงสุพรรณ” เรื่อยมา โดยสามารถจำแนกออกได้เป็น ๓ พิมพ์
๑. พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่
๒. พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง
๓. พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม
ศิลปะพระผงสุพรรณมีความสัมพันธ์กับศิลปะพระพุทธรูปประเภทหนึ่ง ได้แก่ พระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง เนื่องมาจากแหล่งต้นกำเนิดของพระผงสุพรรณอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของ ศิลปะทางศาสนาที่เรียกว่า ศิลปะอู่ทองประการหนึ่ง นอกจากนี้ ลักษณะการแบ่งแม่พิมพ์พระผงสุพรรณยังจำแนกและเรียกชื่อแม่พิมพ์ตามพุทธ ลักษณะของพระพุทธรูปอู่ทอง ซึ่งได้แก่ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง และพิมพ์หน้าหนุ่ม อีกด้วย ในความเป็นจริงแล้วศิลปะอู่ทองเป็นศิลปะแห่งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมัย ทวาราวดีกับสมัยขอมหรือเขมร ต่อมาช่วงหลังได้ผสมผสานศิลปะของสุโขทัยเข้าไปด้วย จนกลายเป็นพุทธศิลปะที่เกิดจากการผสมผสานโดยมีอายุตั้ง แต่ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๖ จนถึงกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๙ กล่าวคือ เมื่อสิ้นยุคทวาราวดีขอมได้มีอำนาจ ในดินแดนที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ศิลปกรรมแห่งทวาราวดียังคงสืบทอดต่อเนื่อง โดยผสมผสานศิลปะของขอมเข้าไป ก่อนที่สุโขทัยจะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจรัฐและความเจริญทางด้านพุทธ ศาสนาต่อเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ศิลปะอู่ทองเดิมจึงผสมผสานกับศิลปะสุโขทัยอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเราอาจแยกประเภทศิลปะของอู่ทองได้ดังนี้
๑. ศิลปะอู่ทองยุคแรก มีอายุอยู่ในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘ ศิลปะจะเป็นแบบผสมผสานระหว่างศิลปะทวาราวดีกับศิลปะขอม สามารถจำแนกออกเป็น
- ศิลปะอู่ทอง สกุลช่างลพบุรี รู้จักกันในชื่อ “อู่ทองเขมร” “อู่ทอง-ลพบุรี” หรือ “อู่ทอง-ฝาละมี”
- ศิลปะอู่ทอง สกุลช่างสุพรรณบุรี รู้จักกันในชื่อ “อู่ทอง-สุวรรณภูมิ” มีลักษณะคล้ายมนุษย์มาก ท่างดงามสุดยอด จะเรียกตามภาษาวงการพระว่า “สันแข้งคางคน”
๒. ศิลปะอู่ทองยุคที่สอง มีอายุอยู่ในราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ถึงกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ศิลปะจะผสมผสานระหว่างศิลปะอู่ทองยุคแรกกับศิลปะสุโขทัย ช่างสมัยจะคาบเกี่ยวกันระหว่างศิลปะสุโขทัยจนถึงสมัยอยุธยาตอนต้น รู้จักกันในชื่อ “อู่ทอง-อยุธยาตอนต้น”
๓. ศิลปะอู่ทองยุคที่สาม มีอายุอยู่ในราว พ.ศ.๑๙๕๒ - ๑๙๙๑ อยู่ในช่วงสมัยสมเด็จพระนครินทราชา สมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (เจ้าสามพระยา) จนถึงต้นรัชสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ศิลปะจะได้รับอิทธิพลของอยุธยามากขึ้น (จากการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณข้างศาลาหลวงพ่อเหย ด้านทิศตะวันตกห่างจากองค์ปรางค์ประธาน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ๓๐ เมตร พบแม่พิมพ์พระดินเผา ขนาดกว้าง ๓ ซ.ม. สูง ๔๒ ซ.ม. เป็นแม่พิมพ์พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ แต่ท่อนล่างหกชำรุด
พุทธเอกลักษณ์พระผงสุพรรณ
พระผงสุพรรณ เป็นพระเครื่องที่พบในกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตจ.สุพรรณบุรี เป็นพระเครื่องเนื้อดินเผา จำลองพุทธลักษณะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในลักษณะการปางมารวิชัย แบ่งแยกแม่พิมพ์ได้เป็นพิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง และพิมพ์หน้าหนุ่ม (สมัยโบราณเรียกพิมพ์หน้าหนู) องค์พระประทับนั่งปางมารวิชัย บนฐานเชียงชั้นเดียว พระเกศคล้ายฝาละมี มีกระจังหน้า พระพักตร์เคร่งขรึม พระนาสิกหนาใหญ่ พระอุระหนา ส่วนพระการทอดเรียว แสดงออกถึงศิลปะสกุลช่างอู่ทองที่เน้นความละม้ายคล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่ สุด ด้วยเหตุนี้ เมื่อพบพิมพ์พระ ๓ ประเภท จึงเรียกชื่อตามลักษณะพระพักตร์และตามศิลปะสกุลช่างแห่งพระพุทธรูปที่พระ พักตร์เหี่ยวย่นเหมือนคนแก่ เรียกว่า พิมพ์หน้าแก่ ที่พระพักตร์อิ่มเอิบเรียวเล็ก ปราศจากรอยเหี่ยวย่น เรียกว่าพิมพ์หน้าหนุ่ม
พระผงสุพรรณนั้นปรากฏตามจารึกลานทองกล่าวถึงการ สร้างว่า “……..พระฤๅษีทั้งสี่ตนจึงพร้อมกันนำเอา แต่ว่านทั้งหลาย พระฤๅษีจึงอัญเชิญเทวดามาช่วยกันทำพิธีเป็นพระพิมพ์ไว้สถานหนึ่งแดง สถานหนึ่งดำ ให้เอาว่านทำเป็นผงก้อน พิมพ์ด้วยลายมือของมหาเถระปิยะทัสสะสี ศรีสารีบุตรคือ เป็นใหญ่เป็นประธานในที่นั้น ได้เอาแร่ต่าง ๆ มีอานุภาพต่างกัน เสกด้วยมนต์คาถาครบ ๓ เดือน แล้วท่านให้เอาไปประดิษฐ์ไว้ในสถูปแห่งหนึ่งที่เมืองพัทูม… ถ้าผู้ใดพบพระตามที่กล่าวมานี้ พระว่านก็ดี พระเกสรก็ดี ทำด้วยแร่สังวานรก็ดี……
ความหมายจากจารึกลานทองได้กล่าวถึงประเภทของพระผงสุพรรณไว้ ๒ ชนิด ได้แก่ พระเนื้อดินที่มีส่วนผสมจากว่านและเกสรต่าง ๆ โดยเป็นพระเนื้อดินเผาตามกรรมวิธีการสร้างพระพิมพ์สมัยโบราณ สีพระผงสุพรรณจึงเป็น“สถานหนึ่งดำ สถานหนึ่งแดง” และอีกชนิดหนึ่งได้แก่ พระผงสุพรรณที่ทำจากแร่ธาตุโลหะ ซึ่งเรียกตามจารึกว่า “ได้เอาแร่ต่าง ๆ มีอานุภาพต่างกัน….ถ้าผู้ใดพบพระ…..ทำด้วยแร่สังฆวานรก็ดี” ซึ่งหมายถึงพระผงสุพรรณเนื้อชินที่รู้จักกันในชื่อ “พระผงสุพรรณยอดโถ”

 เขียนความคิดเห็น (ความคิดเห็นจะขึ้นแสดงเมื่อได้ยืนยันผ่านทาง email แล้วเท่านั้น)
เลือกหมวดแสดง :
ชื่อ :    เจ้าของร้าน
Email :    ส่ง Email เมื่อมีคนตอบความคิดเห็น
แนบไฟล์ :